"คลัง" เผยเศรษฐกิจไทยเดือน ต.ค.68 ยังไปต่อ อานิสงส์ส่งออกโตต่อเนื่อง 16 เดือนติด หนุนเต็มพิกัด สวนทางลงทุนภาคเอกชน-นักท่องเที่ยวต่างชาติแผ่ว จับตาผลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐ-สถานการณ์น้ำท่วมใต้ และความขัดแย้งในหลายภูมิภาค หวั่นกระทบเศรษฐกิจไทย
เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือน ต.ค.2568 ว่า เศรษฐกิจไทยยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ อยู่ที่ 28,835.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามการขยายตัวของสินค้าในหมวดเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องโทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเมื่อจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า ปรับตัวเพิ่มขึ้นในตลาดสหรัฐ อินเดีย ตะวันออกกลาง และจีน ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสริมจากการขยายตัวของการท่องเที่ยวภายในประเทศ จากจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศที่ 23.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 2% ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม 2.57 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ -3.9% ส่วนการลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านการบริโภคภาคเอกชนมีสัญญาณทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยังจำเป็นต้องติดตามผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ สถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของภาคใต้ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาค ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
ขณะที่ภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร ในเดือน ต.ค.2568 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 1.1% ตามการเพิ่มขึ้นในหมวดพืชผลสำคัญ อาทิ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพด เป็นต้น สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ต.ค.2568 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 87.3 จากระดับ 87.8 ในเดือนก่อนหน้า โดยได้รับปัจจัยกดดันจากความกังวลต่อสถานการณ์น้ำและอุทกภัยในหลายพื้นที่ และมูลค่าการค้าชายแดนหดตัวต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของไทย ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 56.6 จากระดับ 54.6 ในเดือนก่อนหน้า
อย่างไรก็ดี ในส่วนของเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือน ต.ค.2568 อยู่ที่ -0.76% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.61% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน ก.ย.2568 อยู่ที่ 64.8 ต่อจีดีพี สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือน ต.ค.2568 ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 272.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
“สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนตุลาคม 2568 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 และการขยายตัวของการท่องเที่ยวภายในประเทศ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังคงชะลอตัว ทั้งนี้ ยังจำเป็นต้องติดตามผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ สถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของภาคใต้ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาค ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย” นายวินิจกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


