เปิดสาระร่างแก้ รธน. ปูทางจัดทำฉบับใหม่ กมธ.ยกร่าง มีรัฐสภาเป็นผู้เลือก ตีกรอบคุณสมบัติ ห้ามคนถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง-ระงับสิทธิมีส่วนร่วม มีเวลาทำร่างใหม่ 360 วัน ก่อนส่งให้โหวต ชัดห้ามแตะหมวด 1 หมวด 2
เมื่อวันที่ 28 พ.ย. มีรายงานจากรัฐสภาถึงการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ….. รัฐสภา ที่มีนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) เป็นประธาน กมธ. โดยได้พิจารณาเนื้อหาแล้วเสร็จโดยสมบูรณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งรายงาน กมธ.ไปยังนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เพื่อให้บรรจุเข้าสู่วาระการประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ ช่วงวันที่ 10-11 พ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาในวาระ 2
มีรายงานว่า เนื้อหาที่ กมธ.พิจารณาและเสนอต่อที่ประชุมนั้น มีการปรับเปลี่ยนจากร่างรัฐธรรมนูญที่รัฐสภารับหลักการเกือบทุกมาตรา ประเด็นที่เป็นสาระสำคัญ 1.องค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กำหนดให้มี กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 35 คน ที่มาจากการเลือกของสมาชิกรัฐสภา เพื่อทำหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 360 วัน และ 2.ปรับสภาที่ปรึกษาการยกร่างรัฐธรรมนูญ ให้เป็น กมธ.รับฟังความคิดเห็นและการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการร่างรัฐธรรมนูญ จำนวน 35 คน
ขณะที่ หลักเกณฑ์การรับสมัคร ลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะสมัครเป็น กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ และ กมธ.รับฟังความคิดเห็นนั้น ใช้หลักเกณฑ์ คุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามเดียวกัน โดยมีประเด็นที่ กมธ.เขียนเพิ่มเติม ได้แก่ ห้ามบุคคลที่อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นข้าราชการที่มีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ เป็นพนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นในหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น ลงสมัคร
ในส่วนของคุณสมบัติ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญนั้น กมธ.ได้กำหนดคุณสมบัติพื้นฐาน เช่น มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี การศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี หรือเทียบเท่า นอกจากนั้นยังกำหนดให้มีคุณสมบัติเฉพาะส่วนของนักวิชาการ ราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง ซึ่งพบว่า กมธ.ได้เติมคุณสมบัติเฉพาะขึ้นใหม่ อาทิ เป็นหรือเคยเป็นผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์ หรือผู้วิจัยที่มีรายชื่อในโครงการวิจัยของหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เคยรับราชการตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตุลาการในศาลปกครองชั้นต้นมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี เคยรับราชการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในกระบวนการยุติธรรม ไม่น้อยกว่า 5 ปี ส่วนของนักการเมือง ได้เพิ่มข้อความให้ครอบคลุมถึงนายกเมืองพัทยาด้วย
นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มคุณสมบัติที่เป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่มีกฎหมายรองรับการประกอบวิชาชีพ ไม่น้อยกว่า 5 ปี และบุคคลที่เป็นหรือเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมหาชนจำกัดมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี สามารถสมัครเข้ารับการเลือกเป็น กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญด้วย ส่วนคุณสมบัติของ กมธ.รับฟังความคิดเห็น กมธ.เสียงข้างมาก ให้ใช้คุณสมบัติ 2 ประการ คือ มีสัญชาติไทยโดยการเกิด มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งได้ลดเกณฑ์อายุที่สมัครลงจากเดิมที่กำหนด ไม่ต่ำกว่า 20 ปี
ขณะเดียวกัน กมธ.ยังได้กำหนดบทบัญญัติเพื่อขจัดการมีส่วนได้เสีย คือห้าม กมธ.ร่างรับธรรมนูญและ กมธ.รับฟังความคิดเห็นดำรงตำแหน่งทางการเมือง ภายใน 2 ปีนับจากวันที่พ้นตำแหน่งไว้ด้วย
สำหรับการรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับคัดเลือกเป็น กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ และ กมธ.รับฟังความคิดเห็น ใช้กลไกเดียวกันคือ ให้สมัครผ่าน กกต. ด้วยหลักฐานที่กำหนดพร้อมกับวิสัยทัศน์ และรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่สนับสนุนไม่น้อยกว่า 100 คน ทั้งนี้ ยังกำหนดให้ประชาชนมีส่วนตรวจสอบคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครและผู้สนับสนุนด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเลือก กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ และ กมธ.รับฟังความคิดเห็น ซึ่งกำหนดให้รัฐสภาเป็นผู้เลือกนั้น กำหนดเวลาให้รัฐสภาทำให้เสร็จภายใน 60 วัน โดยใช้สูตร 20 หยิบ 1 คือให้สมาชิกรัฐสภารวมกลุ่ม กลุ่มละ 20 คน ตามหลักเกณฑ์ที่ประธานรัฐสภากำหนด เพื่อเสนอ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ และ กมธ.รับฟังความคิดเห็นได้ กมธ.ละ 1 คน จนครบจำนวน จากนั้นให้ประกาศรายชื่อในราชกิจจานุเบกษา
สำหรับขั้นตอนหลังจากที่ได้ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ และ กมธ.รับฟังความคิดเห็นแล้ว กำหนดให้มีการประชุมร่วมกันครั้งแรก ภายใน 15 วัน เพื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน โดยกำหนดให้รับฟังความเห็นประชาชนอย่างทั่วถึง รอบด้าน และเป็นระบบ พร้อมกำหนดให้ประชุมร่วมกันอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
ขณะที่ระยะเวลาทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กำหนดให้ทำให้เสร็จภายใน 360 วัน และเมื่อทำแล้วเสร็จต้องส่งให้ประธานรัฐสภา เพื่อให้รัฐสภาอภิปรายแสดงความเห็น ให้ข้อเสนอแนะ โดยไม่ลงมติ ภายใน 30 วัน จากนั้นให้รัฐสภาส่งร่างรัฐธรรมนูญพร้อมความเห็นและข้อเสนอแนะคืนให้ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้แก้ไขเพิ่มเติม ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ทั้งนี้ ยังให้โอกาสขยายเวลาพิจารณาได้ 1 ครั้ง ไม่เกิน 30 วัน จากนั้นส่งกลับให้รัฐสภาลงมติเห็นชอบ ด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งวิธีการออกเสียงให้ใช้การขานชื่อและลงคะแนนโดยเปิดเผย แต่หากที่รัฐสภาไม่เห็นชอบ ให้ร่างรัฐธรรมนูญนั้นตกไป
มีรายงานอีกว่า กมธ.เสียงข้างมากยังเห็นชอบต่อการกำหนดกรอบการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ให้มีเนื้อหาสำคัญครอบคลุมใน 10 ประเด็น อาทิ รับรองความเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกันจะแบ่งแยกมิได้ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาที่ กมธ.เพิ่มเติมขึ้นคือ ข้อกำหนดให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้นำบทบัญญัติในหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาบัญญัติไว้โดยไม่ให้แก้ไขด้วย
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) เปิดเผยว่า ตามที่พรรค กธ.มีกำหนดการเตรียมงานเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. ในวันที่ 2 ธ.ค.นั้น ล่าสุด ตนได้สั่งให้เลื่อนกำหนดการดังกล่าวออกไปก่อนแล้ว จนกว่าสถานการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่ภาคใต้โดยเฉพาะพื้นที่หาดใหญ่ จ.สงขลา จะคลี่คลายสู่ภาวะปกติ
วันเดียวกัน มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. โดยที่ประชุมร่วมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการ ได้ร่วมประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าว ในประเด็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้ว สว. ที่มีการกล่าวหาถึงเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่ จำนวน 6 ราย และ สว. ตัวจริง 2 ราย รวมเป็นจำนวน 8 ราย ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้ง 8 รายไปแล้ว เพื่อให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาฟอกเงิน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง
หนูโต้ไม่ให้สัญชาติเบนสมิธเหตุพ้นมท.1
วงแตก! “อนุทิน” รับรู้จัก “เบน สมิธ” แต่ไม่สนิท ไม่มีธุรกิจร่วมกัน
จ่ายศพละ2ล.อีก8จว. ขยายเยียวยานํ้าท่วมใต้ ตั้ง5อนุครบวงจรใช้ทุกที่
นายกฯ ประเดิมนั่งหัวโต๊ะถอดบทเรียนรับมือมหาอุทกภัย ตั้ง 5 อนุกรรมการแก้ครบวงจร พยากรณ์-เตือนภัย-เยียวยา
แบบพระเมรุมาศเสร็จม.ค. สานพระราชปณิธานผ้าไทย
"อธิบดีกรมศิลป์" เผยแบบก่อสร้างพระเมรุมาศ “พระพันปีหลวง” แล้วเสร็จ ม.ค.69
หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.
"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.


