หนูคาดเบลต์กั๊กยุบสภา12ธ.ค.

"อนุทิน" ส่งสัญญาณ 12 ธ.ค. คาดเข็มขัดนิรภัย ปัดญาติดีเพื่อไทยหลีกทางยื่นซักฟอก บอกทำงานทุกวันไม่ได้คุย ขีดเส้นอยู่ไม่เกิน 31 ม.ค. ลั่นยังไม่แตะมือใครหลังศึกเลือกตั้ง ไม่หวั่นน้ำท่วมหาดใหญ่พัด ภท.คะแนนตก ขณะที่ "มาร์ค" ลับมีดพร้อมสับปมสแกมเมอร์ เตรียมกำลังชิงคะแนนเสียง ด้าน "ส้ม" ปลุกคนไทยในเยอรมนีใกล้ถึงช่วงเปลี่ยนผ่าน “ดร.เอ้” โปรยแคมเปญพาไทยหลุดหลุมดำเลิกจมน้ำจมหนี้ “ทวี” ยังไม่ลอยแพประชาชาติ

เมื่อวันพุธ นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันที่ 12 ธ.ค.68 นี้จะไม่เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองใช่หรือไม่​ว่า​ คาดเข็มขัดนิรภัย​

เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยส่งสัญญาณว่าจะไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วใช่หรือไม่​ นาย​กรัฐมนตรียกมือขึ้นมาโบกปฏิเสธ​ ก่อนระบุว่า​ ตนเองยังไม่ได้คุย​ แต่เรายังทำงานทุกวัน​ เผชิญเหตุได้ทุกสถานการณ์​

เมื่อถามย้ำว่า หากไม่มีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ หมายความว่ารัฐบาลจะอยู่ถึง 31 ม.ค.69 ใช่หรือไม่​ นายอนุทินกล่าวว่า​ อยู่ไม่เกิน 31 ม.ค.ก็แล้วกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคเพื่อไทยยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้ามา นายกฯ กล่าวว่า หากยื่นเข้ามาก็เป็นไปตามกระบวนการ​ กระบวนการเป็นอย่างไรก็ว่ากันไปตามรัฐธรรมนูญและขั้นตอน​

ส่วนกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จะส่งผลต่อยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า เป็นอำนาจ กกต.ที่เป็นคนออกกฎเกณฑ์ พรรคการเมืองต้องปรับตัวเอง ไม่ใช่ กกต.ปรับมาหาเรา ส่วนจะได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไรนั้น เรามองว่าไปสร้างนโยบายที่โดนใจประชาชนดีกว่ามานั่งคิดว่าได้เปรียบหรือเสียเปรียบใคร สิ่งสำคัญที่สุดคือ นโยบายและการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่าเมื่อเลือกเราแล้วทำงานให้เขาได้

เมื่อถามว่า หลังเลือกตั้งจะมีโอกาสจับมือกับพรรคประชาชนหรือไม่ เนื่องจากได้ทำเอ็มโอเอร่วมกันมา นายอนุทินกล่าวว่า ก่อนการเลือกตั้งไม่มีพรรคไหนพูดว่าจะจับหรือไม่จับมือกับใคร ทุกคนทราบอยู่แล้วว่าไม่น่าเกิน 2-3 เดือนจากนี้จะมีการเลือกตั้ง แต่ละพรรคอย่างพรรคภูมิใจไทยต้องไปหาผู้สมัครที่ดีที่สุด และเตรียมตัวให้พร้อมตามรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ไม่ปิดโอกาสร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองใด รวมถึงพรรคเพื่อไทยด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เราต้องพยายามทำตัวเราให้ดีที่สุด

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยหวังได้ สส. 200 เก้าอี้ ใช่หรือไม่นั้น นายอนุทินย้อนถามว่า "ถ้าหวังได้หวังสัก 1,000 มีไหมล่ะ" 

ไม่หวั่น ภท.ร่วง

นายกฯ ปฏิเสธกรณีที่มีข่าวการเชื่อมโยงการที่พรรคเพื่อไทยยังไม่ยื่นอธิบายไม่ไว้วางใจ เพราะมีดีลกับรัฐบาลว่า ไม่มี ไม่มีครับ เมื่อถามย้ำว่า หลังบ้านไม่มีการพูดคุยกันใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ไม่มี”

 ส่วนวิกฤตน้ำท่วมภาคใต้ ทำให้พรรคภูมิใจไทยต้องพลิกเกมหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ครับ ทุกวันนี้ที่ต้องลงไปแก้ไขสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ เพราะเราเป็นรัฐบาล ระดมความช่วยเหลือไปช่วยประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เราไม่ได้ไปในฐานะพรรคภูมิใจไทย

สำหรับกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีนายกฯ บริหารสถานการณ์น้ำผิดพลาด ต้องปรับปรุงวิธีการอย่างไรหรือไม่ นายอนุทินหัวเราะก่อนตอบว่า ไม่แก้ไขอะไร เราควบคุมตัวเองได้ แต่ไปควบคุมคนอื่นไม่ได้ แต่มั่นใจว่าเรามีเจตนารมณ์ที่ดีในการทำงานอย่างเต็มที่

 เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้จะกลายเป็นวิกฤตกระแสของพรรคภูมิใจไทย นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้กังวลว่ากระแสของพรรคภูมิใจไทยจะขึ้นหรือลดลง แต่กังวลที่ช่วยเหลือประชาชนได้ไม่ทันใจตัวเอง ส่วนเสียงตำหนิรัฐบาลนั้น น้อมรับทุกอย่าง อันไหนฟังแล้วเข้าท่ามีเหตุมีผลขอก๊อบปี้ไปแก้ไข

ขณะที่ นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำกลุ่มพลังชล เปิดเผยว่า ในช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ตนเองได้พูดคุยและรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ที่สำนักงานพลังบูรพา ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยมีการพูดคุยกันจบแล้ว ในเรื่องของการเลือกตั้งทั้ง 10 เขตของ จ.ชลบุรี และในส่วนของว่าที่ผู้สมัคร สส.ทั้งหมดก็จะดูตามความเหมาะสม โดยไม่มีเรื่องของการแบ่งกันดูแลพื้นที่คนละครึ่ง เพราะส่งในนามภูมิใจไทยชลบุรีทั้งหมด และเป็นการแบ่งใครดูอะไรยังไง เป็นการพูดคุยกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว กับนายอนุทินในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่อยากให้ทำในนามภูมิใจไทยชลบุรีทั้งหมด

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการส่งผู้สมัคร สส.ลงเขต 1 จ.ชลบุรี นายสนธยากล่าวว่า เขต 1 ได้ให้นายสุชาติลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะนายสุชาติขอลงเขต 1 ส่วนอีก 9 เขตที่เหลือก็น่าจะลงตัวกันหมดแล้ว ขอให้รอดูการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.อีกครั้งที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้พร้อมกันเลยทีเดียว รวมถึงต้องดูว่าทางพรรคภูมิใจไทยจะเปิดตัวผู้สมัครเมื่อไหร่ ซึ่งก็ต้องมีการมาพูดคุยกัน

ด้านนายสุชาติกล่าวว่า ได้พูดคุยกับนายสนธยาหลายครั้งแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเข้าไปพูดคุย คุยกันมาตลอด โดยได้ข้อสรุปว่า จะทำพื้นที่ จ.ชลบุรีร่วมกัน ในส่วนของพื้นที่ชลบุรีเขต 1 ตนได้ยืนยันกับนายสนธยาว่าจะขอเป็นคนลงเอง ซึ่งนายสนธยาก็ตอบโอเค

 “ทุกอย่างคุยกันหมดเรียบร้อยแล้ว เราพี่น้องกันทั้งนั้น ส่วนในเขตอื่นๆ ก็ลงตัวแล้ว” นายสุชาติกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของนายธนกร วังบุญคงชนะ รมว.อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย และเป็น 1 ในกลุ่ม 16 ของนายสุชาติ มีแนวโน้มจะไปลง สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย

มาร์คลับมีด

นายอภิสิทธิ์​ เวชชาชีวะ​ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์​ กล่าวถึงกรณีการเปิดรับสมัครผู้มีความประสงค์ลงเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ว่า​ หลังจากที่มีการปิดรับสมัครพบว่า มีผู้แสดงความประสงค์เป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ต้องเข้าสู่ขั้นตอนทางกฎหมาย ทั้งกระบวนการสรรหา และรับฟังความคิดเห็น จากบรรดาสาขาพรรค​ ผู้แทนพรรคประจำจังหวัด​ มีการเปิดโอกาสให้ได้มาร่วมทำกิจกรรม​ แสดงวิสัยทัศน์​ โดยจะพยายามเร่งรัดขั้นตอนเหล่านี้ให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะให้มีความพร้อมทันการเลือกตั้ง

 “มีหลายเขตที่มีผู้แสดงความจำนงมากกว่า 1 คน ซึ่งต้องเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการสรรหา ซึ่งคณะกรรมการได้วางหลักเกณฑ์ไว้ทั้งหมดแล้ว ทั้งความรู้ความสามารถและอุดมการณ์ทางการเมือง​ แต่ไม่ได้มีสูตรตายตัว จะพิจารณาเป็นหลักเป็นเกณฑ์ให้ได้มากที่สุด​ ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับการคัดเลือก เราก็จะยังคงเชิญชวนให้ทำงานในสถานะอื่นต่อ” นายอภิสิทธิ์ระบุ

เมื่อถามว่า สัญญาณที่เริ่มจะชัดขึ้นในการที่อาจจะมีการยุบสภาภายในปีนี้นั้น นายอภิสิทธิ์ระบุว่า​ ไม่ได้มีความชัดเจนขนาดนั้น เพียงแต่นายกรัฐมนตรีวางเงื่อนไขการเปิดอภิปราย​ และยังไม่ทราบว่าแต่ละพรรคเขาจะตัดสินใจอย่างไร​ แต่เราก็ต้องทำให้เกิดความพร้อมโดยเร็วที่สุด​

เมื่อถามย้ำว่า หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะยังคงเชื่อมั่นว่า สส.ของพรรคจะอยู่ฝั่งซักฟอกใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์​กล่าวว่า​ พรรคประชาธิปัตย์มีสถานะเป็นพรรคฝ่ายค้าน เบื้องต้นนายชัยชนะ​ เดชเดโช​ สส.​นครศรีธรรมราช ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภาคใต้​ ก็ประสานงานอยู่​ และมีข้อมูล โดยเฉพาะเรื่องที่เราดำเนินการอย่างสแกมเมอร์

ที่รัฐสภา พรรคประชาชาติได้จัดประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยที่ประชุมได้เห็นชอบส่งผู้สมัครเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 13 เขต มี 7 สส.ในนามพรรค โดยนายวรวิทย์ บารู สส.ปัตตานี ระบุว่า ต้องรอ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรค เนื่องจากติดภารกิจกับ สส.พรรคเพื่อไทยในการทำกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงได้แจ้งเลื่อนประชุมออกไป ซึ่งพรรคเดินหน้าส่งผู้สมัครเฉพาะในพื้นที่ จ.ชายแดนภาคใต้ สำหรับ สส.ยังไม่มีใครย้ายไปไหน ยังอยู่ทั้งหมด และเมื่อคืนได้มีการคุยกับ พ.ต.อ.ทวี ก็ยืนยันว่ายังอยู่กับพรรค ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

 มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า พ.ต.อ.ทวีจะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย แต่ไม่ลงตัวในตำแหน่งบริหาร อีกทั้งพรรคประชาชาติยังเป็นฐานเสียงสำคัญของพี่น้องมุสลิมในพื้นที่

ที่ประเทศเยอรมนี นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย สส.พรรคประชาชนเดินทางเยือนราชอาณาจักรเบลเยียมและสหพันธรัฐเยอรมนี เพื่อร่วมประชุมกับคณะต่างๆ ของรัฐสภายุโรป ในประเด็นการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ, สิทธิมนุษยชน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ กับสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) โดยในตามกำหนดการเดิม จะมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านนำทีม แต่เนื่องจากติดภารกิจน้ำท่วมภาคใต้ จึงไม่สามารถร่วมงานได้

โดยกำหนดการวันแรก นายสิทธิพลนำคณะมาถึงสหพันธรัฐเยอรมนี ได้พบปะพูดคุยกับประชาชนคนไทยในกรุงเบอร์ลิน โดยระบุช่วงหนึ่งว่า อยากชวนทุกคนร่วมกันมองกลับไป ว่าเราอยากจะเห็นประเทศของพวกเราเป็นอย่างไร และอนาคตในปี 2569 เราอยากเห็นรัฐบาลของพวกเราเดินไปในทิศทางไหน ตนเองเชื่อว่าการเมืองไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านอันใกล้จะถึงนี้มีผลต่อพวกเราที่อยู่ตรงนี้เป็นอย่างยิ่ง

ที่ Victor Club อาคาร FYI Center พรรคไทยก้าวใหม่ นำโดย ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ และ ผศ.ดร.ศักย์ ทับพลี รองหัวหน้าพรรค เปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัคร สส.ทั่วประเทศ จำนวน 22 คน โดยระบุช่วงหนึ่งว่า วันนี้ประเทศไทยถึงเวลาต้องเปลี่ยน ประเทศไทยนิ่งเฉยไม่ได้ ภาคใต้น้ำท่วม กรุงเทพฯ เจอ PM 2.5 มีชุมชนแออัด ความยากจน ความไม่มีโอกาสทางการศึกษา ดังนั้นพรรคไทยก้าวใหม่เราตั้งใจที่จะเปลี่ยนประเทศนี้ให้ดีขึ้นจริง และเปลี่ยนด้วยอุดมการณ์ ที่จะไม่ให้ประเทศตกอยู่ในหลุมดำ วันนี้ประเทศไทยรอไม่ได้จริงๆ ออกมาก้าวใหม่ วันนี้ต้องเลิกจม จมหนี้ จมน้ำ

เพจเฟซบุ๊กพรรคเป็นธรรม (ปธ.) โพสต์ข้อความระบุตอนหนึ่งว่า พรรคจำเป็นต้องปรับโครงสร้างภายในให้มีความพร้อมและเข้มแข็งยิ่งขึ้น ทั้งในระดับผู้นำและฝ่ายบริหาร เพื่อให้การตัดสินใจทางการเมืองเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เคารพต่อข้อบังคับของพรรค โปร่งใส ตรวจสอบได้ และสามารถทำงานรับใช้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นขอแจ้งให้ทราบว่า 1.นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ ได้แสดงเจตจำนงลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเป็นธรรม 2.พรรคมีมติให้ปลด นายกัณวีร์ สืบแสง ออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคเป็นธรรม มีผลนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป เนื่องจากได้กระทำการอันขัดต่อข้อบังคับพรรค โดยแอบอ้างใช้มติพรรคในการสนับสนุนการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ผ่านมา โดยมิได้นำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน

'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง