"บวรศักดิ์" ถก "สตง." วางกรอบตรวจจ่ายเงินในภาวะฉุกเฉิน ชง ครม.ใช้หลักการเดียวกันทั่วประเทศกรณีภัยพิบัติ ปลดล็อกระเบียบให้ทันสถานการณ์ความเดือดร้อน จี้รัฐถอดบทเรียนต้องนำไปทำจริง พวกเกียร์ว่างต้องฟันโทษหนักไล่ออก ขณะที่ "ผู้ว่าฯ สตง." ลุยสอบน้ำยาฆ่าเชื้อร้อยล้าน “สว.” เตือนขยะหาดใหญ่คือระเบิดเวลาชาวบ้านหมดความอดทน รัฐบาลจ่อคลอด "คนละครึ่งพลัส-บัตรสวัสดิการ" ช่วยน้ำท่วมภาคใต้
ที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) วันที่ 8 ธันวาคม นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี เข้าหารือกับนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน พร้อมด้วยตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.), กรมบัญชีกลาง, สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี, สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา, สำนักงบประมาณ, สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ, ผู้บริหารสำนักงบประมาณ ฯลฯ เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ และแนวทางการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
นายบวรศักดิ์แถลงว่า ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าฯ สตง. รวมถึงเจ้าหน้าที่ สตง.ภาค 15 ทุกจังหวัดผ่านระบบซูม เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับการตรวจการจ่ายเงินเยียวยาในภาวะฉุกเฉิน เช่นน้ำท่วมอย่างฉับพลัน ซึ่งจะต้องมีกรณีพิเศษ ในการตรวจสอบจะต้องเป็นไปตามกฎหมายกฎระเบียบ แต่ท้ายที่สุดระเบียบของฝ่ายบริหารกลับทำให้การตรวจสอบเกิดความล่าช้า จึงต้องมาขอความร่วมมือ เช่นระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่งอธิบดีกรมบัญชีกลางได้ทำหนังสือแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ขณะที่ ปภ.ได้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยกเว้นการทำประชาคมหมู่บ้านก่อนจ่ายเงินเยียวยา ซึ่ง ครม.ได้อนุมัติแล้ว ฝ่ายบริหารได้รับมาแก้ไข
"จะขอความร่วมมือผู้ตรวจการ สตง.ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานยังคงปฏิบัติตามขั้นตอน ใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียว โดยไม่ต้องไปขอเอกสารทางราชการกับประชาชน ขณะที่ประชาชนจำเป็นต้องดำเนินการผูกบัญชีพร้อมเพย์ไว้ให้เรียบร้อย ระบุหมายเลขโทรศัพท์ให้ชัดเจน การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้ตรวจเอกสารไปตามขั้นตอน ให้เป็นไปตามกฎระเบียบของ สตง. แต่ไม่ใช่เรื่องการทุจริตซึ่งจะปล่อยไม่ได้" นายบวรศักดิ์ระบุ
นายบวรศักดิ์กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลจะโอนเงินให้เร็วที่สุด โดยเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 2 ล้านบาทนั้น จำเป็นต้องมีการรับรองจากแพทย์ถึงสาเหตุการเสียชีวิต ขณะที่ท้องถิ่นก็ออกใบมรณบัตร และเตรียมเลขพร้อมเพย์ให้พร้อม ที่สำคัญคือทายาทที่จะรับเงินเยียวยาจะเป็นใครนั้น ขอให้ทำแบบใบ ปภ.14 ตกลงให้เกิดความชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้รับเงิน ไม่ว่าจะเป็นบุตรหรือคู่สมรส
"นอกจากนี้ในอนาคตจะมีการขอความร่วมมือมายัง สตง.และ คตง. จะมีข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งไม่ใช่ข้อตกลงที่จะทำผิดกฎหมาย เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถมายุ่งเกี่ยวกับองค์กรอิสระได้ รัฐบาลจะขอความร่วมมือวางไว้เป็นแนวทาง เพราะน้ำท่วมไม่ได้เกิดครั้งเดียว และต้องใช้หลักการเดียวกัน จากนี้รัฐบาลจะให้สำนักงานกฤษฎีกา ร่วมกับ ปภ. กรมบัญชีกลาง ยกร่างกรอบความร่วมมือที่ไม่ผูกมัดเสนอมายัง สตง.เพื่อจัดทำเป็นข้อตกลงในการทำงานร่วมกัน" นายบวรศักดิ์ระบุ
รองนายกฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับข้อกฎหมายในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ให้เป็นกรอบหลักการเดียวกันทั่วประเทศ โดยจะมีการหารือกับสำนักงานกฤษฎีกา กำหนดเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนถึงระเบียบ หรือข้อยกเว้นการผ่อนปรนในการตรวจสอบ สตง. เวลาเกิดเหตุภัยพิบัติต่างๆ ทั่วประเทศให้เป็นหลักการเดียวกัน แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาล แต่ระเบียบดังกล่าวยังมีผลบังคับใช้เป็นกรอบหลักเกณฑ์เดียวกัน ในการเบิกงบประมาณโดยไม่ต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวด
นายบวรศักดิ์กล่าวถึงการถอดบทเรียนน้ำท่วมว่า ที่ผ่านมาได้มีการถอดบทเรียนทั้งนั้น ถอดกันทุกปี แต่ถอดแล้วก็ตั้งเอาไว้ตรงนั้น ต่างประเทศก็มีการถอด แต่สิ่งสำคัญที่ต้องทำในวันนี้คือ ถอดบทเรียนแล้วต้องนำมาปฏิบัติ จัดทำคู่มือของหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติและประชาชน ว่าเมื่อถึงช่วงน้ำท่วมเดือนสิงหาคม กันยายน หรือช่วงน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ ประมาณเดือนพฤศจิกายน จะต้องหาทางป้องกันและทำการฝึกซ้อม โดยผลจากการถอดบทเรียนจะบันทึกไว้ในรูปแบบของเอกสาร อินโฟกราฟิก และวีดิทัศน์ โดยจะส่งให้หน่วยงานให้มากที่สุด รวมถึงประชาชนด้วย เพื่อจะได้รู้ว่าจะต้องอพยพประชาชนไปยังจุดไหนได้อย่างปลอดภัย
ขรก.เกียร์ว่างผิดวินัยร้ายแรง
"ถ้าถอดบทเรียนแล้วสุดท้ายยังไม่ทำ ก็ต้องพูดให้ชัดว่าเกิดความเสียหายร้ายแรงขึ้น ข้าราชการผู้นั้นจะผิดวินัยร้ายแรง ไม่ต้องสอบกันมากมายเพราะเห็นผลอยู่แล้ว ดังนั้นก็รับผลไปแล้วกัน ต้องถูกไล่ออกตามขั้นตอน แต่เราก็ไม่อยากให้ถึงขั้นนั้น ดังนั้นถอดบทเรียนคราวนี้จะไม่ถอดแล้วตั้งอยู่บนโต๊ะ ถอดแล้วต้องลงมือทำ แต่อาจจะได้เฉพาะน้ำท่วม สึนามิก็ต้องเป็นอีกอย่าง แผ่นดินไหวก็อีกทาง ไฟไหม้ก็ไปอีกทาง ภัยเกิดจากสงคราม ตามแนวชายแดนก็ไปอีกทางหนึ่ง กระทรวงมหาดไทยมีข้อมูลอยู่แล้วบ้าง เพียงแต่ว่าเราอาจจะไม่ค่อยรู้ หรือบางกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจมาก จำเป็นต้องรอให้เกิดเหตุก่อนถึงจะมีการประกาศ ซึ่งการเทกแอ็กชันเช่นนี้ก็ไม่ได้ ในวันนี้จะนำผลการหารือผู้ว่าฯ สตง.ไปรายงานต่อ ครม.วันที่ 9 ธ.ค.ว่าสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว” นายบวรศักดิ์ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีอายุรัฐบาลเหลือไม่มาก จะไม่มีผลต่อแผนการใช่หรือไม่ นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ไม่มี เพราะว่าไม่ได้เป็นการใช้เงิน เป็นร่างข้อตกลงความเข้าใจ รัฐบาลหลังการยุบสภาแล้วยังสามารถทำได้ มติ ครม.ยังศักดิ์สิทธิ์เหมือนเดิม
ด้านนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าฯ สตง. กล่าวว่า ในการตรวจสอบการจ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้นั้น ยืนยันว่า สตง.ไม่ได้ยึดเอกสารหลักฐานที่เป็นกระดาษ เพราะเอกสารทั้งหมดอยู่ในระบบของทางราชการอยู่แล้ว ทาง สตง.ก็เห็นชอบว่าจะมีการตรวจทางระบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น โดยเน้นย้ำให้ สตง.ทุกจังหวัดถือแนวปฏิบัติเดียวกัน แค่มีเอกสารอิเล็กทรอนิกส์เราก็ตรวจได้
"และย้ำกับทุกคนว่ากฎหมาย สตง.ฉบับใหม่ มาตรา 95 ระบุว่า กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐบกพร่องไม่ปฏิบัติตามกฎหมายระเบียบแต่ไม่มีการทุจริต สตง.ก็ให้คำแนะนำเท่านั้น ไม่มีการตั้งกรรมการสอบวินัย ไม่ดำเนินการทางละเมิดหากจ่ายจริง ดังนั้นไม่ต้องกลัว ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันนี้กฎระเบียบอาจจะไม่ทันกับสถานการณ์ แต่หากไม่ทุจริตก็ไม่ต้องกังวลใจ สตง.จะแค่ตักเตือนว่าต่อไปควรทำอย่างไร ขณะเดียวกันนายบวรศักดิ์จะไปดำเนินการต่อในเรื่องของกฎหมาย โดยเสนอ ครม.เพื่อแก้ไขในส่วนนั้น" นายมณเฑียรระบุ
นายมณเฑียรกล่าวว่า ส่วนกรณีมีรายงานข่าวที่ จ.สงขลา มีการจัดซื้อน้ำยาฆ่าเชื้อกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาต้นทุนจริงที่อยู่ราว 30 ล้านบาทนั้น เรื่องนี้ตนรับไปตรวจสอบในวันนี้ อย่างไรก็ตามหากเทียบกับช่วงโควิด บางพื้นที่เมื่อเกิดภัยฉุกเฉินการซื้อของต่างๆ ราคาอาจจะไปเทียบกับตลาดออนไลน์คงไม่ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
คนละครึ่งพลัส-บัตรสวัสดิการ
ที่ จ.สงขลา นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ระบุว่า ปัญหาที่สำคัญคือปัญหาขยะซึ่งมีจำนวนมาก โดยประมาณว่า 200,000 กว่าตัน ตอนนี้แบ่งพื้นที่ไว้เป็นสี่โซน พยายามทำกลางคืนเป็นหลัก ปริมาณขยะแต่ละโซนจะอยู่ที่ประมาณกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่ถึง 50 แต่ทุกโซนคาดว่าวันอาทิตย์ที่ 14 ธ.ค.จะทำได้ 100%
นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า การเก็บขยะที่ล้นเมืองหาดใหญ่หลังน้ำลดไม่เป็นไปตามแผน รวมทั้งการประเมินขยะที่ผิดพลาดว่ามีขยะ 100,000 ตัน หากไม่มีการจัดการที่ถูกต้อง ขยะใน หาดใหญ่จะกลายเป็นแหล่งกระจายเชื้อโรค และเป็น ระเบิดเวลาที่ทำให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวจากความเดือดร้อนในครั้งนี้
มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ (กนศ.) หรือ ครม.เศรษฐกิจ ที่มีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เป็นประธานแทนนายกรัฐมนตรี ช่วงหนึ่งมีการหารือกรณีน้ำท่วมภาคใต้ในช่วงตั้งแต่วันที่ 17-23 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับสิทธิในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการคนละครึ่งพลัส รวมกว่า 3.39 ล้านคน คิดเป็น 44.1% ของประชากรทั้งหมดในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
จากผลกระทบดังกล่าวที่ประชุมได้รับทราบว่า เกือบครึ่งหนึ่งของประชากรที่ประสบอุทกภัยอยู่ในกลุ่มที่พึ่งพามาตรการภาครัฐอยู่แล้ว โดยเฉพาะ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง และนราธิวาส ซึ่งมีสัดส่วนผู้รับสิทธิ์รวมสูงกว่า 47-52% ของประชากร สะท้อนถึงความเปราะบางด้านเศรษฐกิจของครัวเรือนในพื้นที่ภัยพิบัติ ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นข้อมูลสำคัญของรัฐบาล และจากนี้ไปจะมีมาตรการออกมาให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู และเร่งเยียวยาต่อไป
ในส่วนของการดำเนินโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 นั้น กระทรวงการคลังแจ้งว่า โครงการดังกล่าวตามแผนเดิมกำหนดไว้ว่า จะเสนอรายละเอียดเข้าสู่การประชุมครม.เศรษฐกิจในวันที่ 15 ธ.ค.นี้เพื่อพิจารณา ขณะที่นายเอกนิติระบุถึงความคืบหน้าว่า ทั้งสองโครงการยังอยู่ระหว่างทีมงานพิจารณารายละเอียด คาดว่าเร็วๆ นี้จะได้ข้อสรุป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุนคนแก่ออม หักลดหย่อนภาษี สูงสุด8แสนบาท
นายกฯ มอบ “เอกนิติ” ประชุม คกก.เศรษฐกิจ รับทราบความก้าวหน้าการขับเคลื่อนนโยบาย Quick Big Win
นร.นอกระบบ ร่วมน้อมรำลึก พระพันปีหลวง
พระราชวงศ์ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย "พระพันปีหลวง" นักเรียนการศึกษานอกระบบเข้ากราบพระบรมศพฯ
สส.แห่โชว์กึ๋นจัดการกัมพูชา
พรั่งพรูพรรคการเมืองระดมมันสมอง นำเสนอวิธีจัดการกับกัมพูชา "หัวหน้าเท้ง" การสงครามก็เก่ง สวมบทขงเบ้งแนะวิธีปิดเกม
ทวงคืนหลายพื้นที่! ยึดปราสาทคนา-รุกคืบตาควาย-พลีชีพ1เจ็บ18/รบ.ไม่เจรจา
ศึกชายแดนไทย-กัมพูชาระอุ! เขมรเปิดแนวรบตั้งแต่ตีห้าในหลายพื้นที่ทั้ง “อุบลฯ-สุรินทร์-ศรีสะเกษ-บุรีรัมย์-สระแก้ว”
มั่นใจ‘ชาวหาดใหญ่’ใช้ชีวิตปกติ
"มท.3" สั่งทุกหน่วยระดมกำลังเร่งฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วม ตามเป้า “7 วันกลับบ้าน 14 วันสะอาด” ห่วง 11-14 ธ.ค.ฝนถล่มซ้ำ
คนรุ่นใหม่สำนึก พระราชปณิธาน ‘พระพันปีหลวง’
กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวาย “สมเด็จพระพันปีหลวง” พสกนิกรทั่วถิ่นไทยกราบพระบรมศพ ชาวโพธารามน้อมสำนึกน้ำพระทัยแผ่ไพศาล

