"อนุทิน" แจ้งที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการนับถอยหลังยุบสภาเร็วกว่า 31 ม.ค.69 คืนอำนาจ ปชช. ให้คำมั่นช่วงรักษาการไม่ปล่อยให้ประเทศคับขัน ทำภารกิจให้สำเร็จจนกว่ามีรัฐบาลใหม่ มอบ "กฤษฎีกา" หาช่องหากมีเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ยันการแก้ รธน.ทำตามกติกา "ปชน." เชื่อแก้ รธน.วาระ 2 พิจารณาจบ 2 วัน หวังทุกอย่างเดินหน้าตามเอ็มโอเอ "เพื่อไทย" ห่วงฮั้ว กมธ.ยกร่าง รธน.เป็นสีใดสีหนึ่ง จี้รัฐบาลตั้งคำถามประชามติคำถามที่ 1 รอได้เลย เป็นหลักประกันหลังมีสัญญาณไม่ดี แย้มน้ำท่วมหาดใหญ่อยู่ในญัตติซักฟอกแล้ว "วันนอร์" คาดลงมติวาระ 3 ช้าสุด 29 ธ.ค.นี้ เป็นสิทธิรัฐบาลขอเปิดอภิปราย ม.165 ทำซ้อนกับการซักฟอกได้
ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 9 ธันวาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 6/2568 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า ไม่ว่าจะมีสถานการณ์ทางการเมืองใดๆ ที่เกิดขึ้น เวลาของรัฐบาลของตนมันก็ต้องนับถอยหลังแล้ว เพราะเรามีภารกิจที่เข้ามาเพื่อดำเนินการทางการเมืองให้เรียบร้อย และคืนอำนาจกลับคืนสู่ประชาชน เพื่อให้เขาได้ตัดสินใจมีรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาดำเนินการต่อไป ดังนั้นความสำคัญของหัวหน้าส่วนราชการที่ต้องคอยประคับประคองขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลที่ผ่านมารวมถึงรัฐบาลของตนด้วย ก็ขอให้ท่านได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะหากมีการยุบสภา ซึ่งไม่นานจากนี้แล้ว เพียงแต่ยังไม่รู้วัน ว. เวลา น. ที่แน่นอนเมื่อไหร่เท่านั้นเอง แต่เต็มที่ไม่เกินวันที่ 31 ม.ค.2569 แต่ท่าทางจะไม่ถึงมากกว่า
นายกฯ กล่าวอีกว่า ในขณะที่เป็นรัฐบาลรักษาการ ตนขอให้คำมั่นสัญญากับพวกท่านว่า ตนจะเคร่งครัดทั้งมารยาท กฎระเบียบที่รัฐบาลรักษาการได้ถูกกำหนดให้ดำเนินการ ท่านไม่ต้องมีความกังวลใดๆ ว่าตนจะทำสิ่งใดที่นอกเหนือข้อกำหนดในด้านของกฎหมาย ด้านธรรมเนียม หรือในด้านหลักปฏิบัติ สิ่งที่ตนทิ้งไว้ให้พวกท่านต้องถือเป็นทุกขลาภ เพราะมีภารกิจและมีนโยบายมากมายที่จะต้องได้รับดำเนินการมากมายไปยังประชาชน ขอให้ท่านไม่ต้องแผ่ว สิ่งที่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว หรือผ่านรัฐสภาไปแล้ว ก็ขอให้ท่านได้ดำเนินการขับเคลื่อน เหยียบคันเร่งให้เต็มที่ ตนมีความเชื่อมั่นและไม่มีความกังวลใดๆ หากพวกท่านได้ร่วมมือกัน เชื่อมั่นว่าท่านจะนำพาให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน
นายอนุทินกล่าวอีกว่า "ถึงแม้ว่าจะมีการยุบสภาเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ แต่ภายใต้รัฐธรรมนูญ พวกเรายังคงต้องทำงานด้วยกันจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ และ ครม.ชุดใหม่ จนกว่า ครม.ชุดใหม่จะเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งนับดูคร่าวๆ ก็ยังเจอกันอีกระยะเวลายาวนาน ได้ทำบุญ 100 วันแน่นอน ขอให้มีความมั่นใจว่าผมก็ยังดำรงตนให้ภารกิจของพวกท่านสำเร็จในทุกกรณี"
"อาจมีสิ่งที่เราไม่คาดคิดเกิดขึ้นในขณะที่เป็นรัฐบาลรักษาการ ก็ต้องมีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาต้องหาช่องทางต่างๆ หากมีความจำเป็นเร่งด่วนใดๆ ที่จะต้องดำเนินการในฐานะที่รัฐบาลจะต้องให้ความเห็นชอบ ต้องประกาศหรือดำเนินการใดๆ ก็ตาม เพื่อที่จะทำให้ประเทศของเราเดินหน้าต่อไปได้ ให้เกิดความปลอดภัยต่ออธิปไตย ต่อแผ่นดินของเรา สิ่งเหล่านี้ต้องคิดเผื่อๆ เอาไว้ด้วย เราคงไม่ยอมที่จะใช้คำว่ารัฐบาลรักษาการแล้ว ถ้ามีเหตุการณ์คับขันเกิดขึ้น ก็ไม่เป็นอะไร อึดไปอีกนิดหนึ่ง เดี๋ยวรอรัฐบาลใหม่เข้ามา ถ้าเราตัดสินใจผิดหรือไปคิดว่าให้รออีกหน่อยได้ มันอาจจะเกิดความสูญเสียอย่างมากมายต่อประเทศของเรา ยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน" นายอนุทินกล่าวทิ้งท้าย
ก่อนหน้านั้น ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. เปิดเผยผลการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลว่า วันนี้ได้ประชุมเกี่ยวกับท่าทีของพรรคร่วมฯ ที่เกี่ยวกับการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 ซึ่งท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลจะสนับสนุนรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามเอ็มโอเอ ส่วนที่เคยพูดว่าวันที่ 12 ธันวาคม ให้คาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ ตนก็มีหลักของตน มีหลักเกณฑ์ในการยุบสภา เพราะเป็นอำนาจของนายกฯ และเป็นการตัดสินใจของตนแต่เพียงผู้เดียว ส่วนปัจจัยที่จะยุบสภาก็มีหลายๆ อย่างประกอบกัน ไม่เอาเรื่องความขัดแย้งของประเทศมาเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองและเกี่ยวกับสภาผู้แทนราษฎร
ยันแก้รธน.ทำตามกติกา
เมื่อถามว่า สามารถบอกไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังจากนี้ได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็อยากเห็นรัฐธรรมนูญได้รับการแก้ไข ถ้าทุกพรรคเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยที่ทำโดยสมาชิกรัฐสภาที่มาจากประชาชน ก็อยากให้ทุกคนให้ความสำคัญเรื่องนี้ด้วย
“ถ้ามีพรรคใดพรรคหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่เห็นว่าเล่นเกมการเมือง และชิงไหวชิงพริบทางการเมืองสำคัญกว่าการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือเรื่องของส่วนรวม ผมคงไม่ปล่อยให้เกิดโอกาสเช่นนั้น" นายกฯ กล่าว และว่า ตนทำตามกติกา ถ้าสัปดาห์นี้โหวตวาระ 2 เสร็จก็พักไว้ 15 วัน จึงจะโหวตวาระ 3
“ถ้าเขาไม่อยากให้อยู่ครบ และไม่อยากให้เกิดรัฐธรรมนูญใหม่ ก็ต้องไปโทษกับคนที่คิดเช่นนั้น และพรรคประชาชนก็ต้องไปหาคำตอบจากฝ่ายที่ไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ”
เมื่อถามว่า แม้จะมีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็จะไม่อยู่เลยไทม์ไลน์ 31 มกราคม 2569 ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แน่นอน กองทัพมีแสนยานุภาพและมีความเข้มแข็งอยู่แล้ว
นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรค ภท.ว่า สืบเนื่องจากที่จะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาสมัยวิสามัญ พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ (แก้ไขเพิ่มเติม) ในวาระ 2 ระหว่างวันที่ 10-11 ธ.ค.นี้ ก่อนหน้านี้ทาง ครม.ได้หารือกันว่าจะทำคำถามประชามติในคำถามที่หนึ่ง แต่เมื่อสอบถามความเห็นไปทางคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้รับคำตอบมาว่า ครม.ไม่สามารถทำคำถามประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญในครั้งที่หนึ่งได้ ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าการเริ่มต้นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เริ่มต้นจากรัฐสภา ที่ประชุม ภท.จึงหารือและมีข้อสรุปว่า จะเสนอเป็นญัตติด่วนต่อรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ (10 ธ.ค.) เพื่อให้ประธานรัฐสภาบรรจุญัตติเรื่องนี้ไว้ในระเบียบวาระการประชุม เมื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ (แก้ไขเพิ่มเติม) วาระที่สองเสร็จแล้ว จะนำญัตติดังกล่าวนี้ขึ้นมาพิจารณาต่อ เพื่อให้รัฐสภามีมติส่งคำถามประชามติครั้งที่หนึ่งไปยัง ครม. เพื่อให้ ครม.เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต่อไป
เมื่อถามว่า หากมีการยุบสภาไปก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จะไม่เสร็จตามกรอบที่วางไว้นี้หรือไม่ นายภราดรกล่าวว่า หากมีการยุบสภาก่อนที่จะมีการลงมติในวาระ 3 ก็จะไม่สามารถมีวาระ 3 ได้ ขณะเดียวกันหากยุบสภาก่อนที่ ครม.จะมีมติให้ทำประชามติ ก็ไม่สามารถทำประชามติทั้งคำถามที่หนึ่งและสองได้เหมือนกัน เพราะมันขึ้นอยู่กับ ครม.
ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เปิดวิสามัญ 2 วัน สามารถขยายไปวันที่ 12 ธ.ค. เปิดสมัยประชุมแล้วได้ แต่จากการพูดคุยไม่เป็นทางการกับทุกฝ่าย ซึ่งค่อนข้างเห็นตรงกันว่าอยากให้จบภายใน 2 วัน แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นโอกาสในการอภิปรายของสมาชิก หากจบวันที่ 11 ธ.ค. ก็จะทำให้ลงมติในวาระ 3 สามารถกำหนดให้เร็วขึ้นได้ และน่าจะเป็นประโยชน์ ทุกฝ่ายจึงเห็นตรงกันว่าจะพยายามรักษาเวลาเพื่อให้จบได้ภายใน 2 วัน หากจบการพิจารณาวันที่ 12 ธ.ค. ไทม์ไลน์วาระ 3 จะอยู่วันที่ 29 ธ.ค. แต่หากจบวันที่ 11 ธ.ค. วันที่ 26 หรือ 27 ธ.ค. ก็ยังเป็นไปได้อยู่ ต่อให้จะจบวันที่ 12 ธ.ค. ก็ยังไม่กระทบกับไทม์ไลน์
ปชน.หวังรธน.ผ่านวาระ 3
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะมีการยุบสภาก่อนเข้าวาระ 3 นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ยังไม่เห็นสัญญาณอะไร ซึ่งทาง ปชน.ยืนยันว่าอยากให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เรื่องนี้เป็นกุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนโครงสร้างทางการเมืองให้มีเสถียรภาพและลดอำนาจนอกระบบที่มาทำลายอำนาจที่มาจากประชาชนให้ได้มากที่สุด
“การยุบสภาไม่ได้อยู่มือของ ปชน.อยู่แล้ว เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี และคาดหวังว่านายกฯ จะรักษาคำสัญญาที่ไม่ได้ให้ไว้กับ ปชน.ตอนที่ลงมติให้เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านได้ให้สัญญากับประชาชนทั้งประเทศว่าจะทำอะไรบ้าง หวังว่าท่านจะรักษาสัญญา” นายปกรณ์วุฒิกล่าว
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสข่าวรัฐบาลอาจมีการเสนอญัตติโดยใช้มาตรา 155 หรือ 165 ในการเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติของรัฐสภา ซึ่งอาจทําให้ไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ตรงตามเอ็มโอเอ และเป็นผลให้ฝ่ายค้าน เช่นพรรคเพื่อไทย หากยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจจะล่มไปด้วยว่า การยื่นญัตติในลักษณะนั้นเป็นสิ่งที่รัฐบาลสามารถทําได้ ตนคงไปตอบแทนไม่ได้ว่าควรหรือไม่ควรยื่น แต่หากจะต้องมีการเปิดอภิปรายขึ้นมา ไม่ว่าเวทีใดก็ตาม โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปชน.พร้อมเดินหน้าอย่างเต็มที่ สําหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กําลังจะมาถึงนี้ ขอให้ติดตามการทําหน้าที่ของ ปชน. ซึ่งเราเองมุ่งหวังว่าจะสามารถเดินหน้าได้ตามกรอบเอ็มโอเอ
"เรายืนยันว่า ขอดูการพิจารณารัฐธรรมนูญในวาระ 2 และ 3 ที่จะถึงนี้ก่อน ซึ่งจะเป็นประเด็นหนึ่งที่เราใช้เป็นส่วนสําคัญในการพิจารณาว่าจะยื่นหรือไม่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ" นายณัฐพงษ์กล่าว
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุม สส.พรรคประจำสัปดาห์ โดยมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่และหัวหน้าพรรค, นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อและประธาน สส.พรรค ทำหน้าที่ประธานการประชุม จากนั้นนายชูศักดิ์ ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฯ แถลงถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า กรรมาธิการสัดส่วน พท.ได้สงวนคำแปรญัตติในประเด็นสำคัญคือ คิดว่าการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีผลดีต่อประชาชนและประชาธิปไตยนั้น ควรให้ประชาชนคนไทยมีส่วนร่วมให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะระบบสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เป็นสภาที่จะพิจารณากฎหมายและกลั่นกรองกฎหมายก่อนนำเสนอรัฐสภาได้
ข้อที่สอง เมื่อกรรมาธิการเลือกโดยใช้กรรมาธิการ 2 คณะ ใช้สูตร 20 หยิบ 1 คิดว่าสูตรนี้จะนำไปสู่การมีกรรมาธิการที่เลือกข้าง หรือเป็นไปตามรัฐสภาเสียงข้างมาก จึงสงวนคำแปรญัตติว่า 2 กรรมาธิการนี้ให้ใช้สูตร 28 หยิบ 1 คือให้กรรมาธิการที่รัฐสภาเลือก 25 คน และกรรมาธิการที่รัฐสภาแต่งตั้ง 10 คน เพื่อไปถ่วงดุลในการทำหน้าที่กรรมาธิการ โดย 10 คนนี้มาจากผู้ทรงคุณวุฒิ กลุ่มวิชาชีพ มาเป็นกรรมาธิการในการรับฟังความเห็น เพื่อให้เกิดความหลากหลาย ไม่ใช่การเลือกข้างใดข้างหนึ่งเป็นการเฉพาะ หรือการบล็อก
พท.ยันยื่นซักฟอกแน่
นายชูศักดิ์กล่าวด้วยว่า ไม่มั่นใจและไม่แน่ใจว่า ท้ายที่สุดผลวาระ 3 จะเป็นอย่างไร ก็ต้องดูกันไป แต่เพื่อความมั่นใจว่าเรามีความจริงใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงขอเสนอไปยังรัฐบาลว่า ขอให้ ครม.มีมติไว้เลยว่า ในการตั้งคำถามประชามติคำถามที่ 1 ว่าเห็นสมควรให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ถ้าทำเช่นนี้ได้ ก็จะเป็นหลักประกันว่า ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมจะผ่านการพิจารณาวาระ 3 หรือไม่ แต่ถ้ามีมติ ครม.ไว้แล้วว่า ให้ทำประชามติตั้งคำถามต่อประชาชนก็จะไม่เสียของ
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก่อนถึงวาระ 3 หรือรอให้วาระ 3 จบไปก่อน นายจุลพันธ์กล่าวว่า กำลังพิจารณาอยู่ แต่ต้องยอมรับข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งว่า ตอนนี้ปัจจัยทางการเมืองมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่งทางรัฐบาลต้องยอมรับว่าไม่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน พื้นที่ จ.สงขลาเองยังหนักมาก ขยะเต็มเมือง ทาง จ.พระนครศรีอยุธยาแช่น้ำมา 4 เดือน ปัญหาเหล่านี้ได้ถูกบรรจุเข้าไปในการพิจารณาเรื่องการตรวจสอบรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยแล้ว รวมถึงเรื่องเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องเก็บมาพิจารณา แต่ก็ยังไม่ได้มีการสรุป
ด้าน นพ.ชลน่านกล่าวเสริมว่า การตัดสินใจเรื่องยื่นญัตติอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ตัวร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญมาก เพราะฉะนั้นในวันที่ 10-11 ธ.ค. เราจะรู้ว่าทิศทางรัฐธรรมนูญทั้งหมดจะออกมาอย่างไร เพราะสิ่งที่เราเห็นตัวรัฐธรรมนูญ หากเป็นไปตามเสียงข้างมาก เรามองในอนาคตได้เลยว่า รัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นใหม่จะเป็นรัฐธรรมนูญที่โน้มเอียงไปสู่สีใดสีหนึ่งเป็นการเฉพาะตามเสียงข้างมากในสภา ถ้าเป็นไปตามแนวนั้นจริง สิ่งที่เราต้องมาพิจารณาในมาตรา 151 ต้องมีเหตุและผลรองรับต่อไป
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ว่า การพิจารณาร่างแก้รัฐธรรมนูญในวาระที่ 2 ในวันที่ 10-11 ธ.ค.นี้ ซึ่งหากผ่านแล้วต้องรอ 15 วัน เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาให้ความเห็นชอบกับรัฐธรรมนูญในวาระ 3 จากนั้นก็ถามประชาชนด้วยการทำประชามติว่าประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนการพิจารณาวาระ 2 ไม่สามารถกำหนดตายตัวได้ว่าจะเป็นกี่วัน เพราะขึ้นอยู่กับการสงวนความเห็นการแปรญัตติของสมาชิก หากนับจากวันลงมติในวาระ 2 แล้วจะสามารถลงมติในวาระ 3 ได้ ในวันที่ 26 ธ.ค. แต่เนื่องจากไม่ใช่วันประชุมสภาฯ คาดว่าน่าจะลงมติวาระ 3 ได้ ในวันที่ 29 ธ.ค.
ส่วนกรณีที่รัฐบาลเตรียมขอเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 เพื่อปรึกษาหารือในปัญหาสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยหรือเศรษฐกิจของประเทศ ในช่วงวันที่ 24-26 ธ.ค.นี้ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ของรัฐบาลที่จะดำเนินการและยื่นเรื่องมายังประธานรัฐสภาให้ดำเนินการ แต่ขณะนี้ตนยังไม่ได้รับการประสานมาจากรัฐบาลว่าจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ดังนั้น อยู่กับการหารือของฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วแจ้งมายังตน หากเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมก็สามารถดำเนินการได้
เมื่อถามว่า กรณีการยื่นเปิดอภิปรายทั่วไปสามารถทำทับซ้อนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ทำได้ ไม่ทับซ้อน เพราะเป็นการดำเนินการตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ทั้งการอภิปรายทั่วไปโดยมีการลงมติไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 การอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 รวมถึงกรณีที่รัฐบาลร้องขอ แต่ในการอภิปรายตามมาตรา 151 และมาตรา 152 นั้น ในสมัยประชุมหนึ่งสามารถทำได้เพียงครั้งเดียว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สภาเคาะ20หยิบ1 35อรหันต์ร่างรธน.
นับถอยหลัง “อนุทิน” จ่อดาบ พ.ร.ฎ.ยุบสภา ขณะที่สภาถก รนธ.วาระ 2 เคาะ "กมธ.ร่าง รธน.-กมธ.รับฟังความเห็น" สูตร 20 หยิบ 1
เคอร์ฟิว‘สระแก้ว’ ปะทะเดือด!ชายแดน7จ. หนูปัดทรัมป์กล่อมหย่าศึก
“นายกฯ” เผย “ทรัมป์” ยังไม่ประสานคุยหยุดยิง ชี้การเจรจาระดับผู้นำมีขั้นตอนอยู่ ยันพร้อมแจงข้อมูลสถานการณ์ให้ ปธน.สหรัฐเข้าใจ ย้ำไทยอยู่บนพื้นฐานรักษาอธิปไตย-ดินแดน-ความปลอดภัยประชาชน
รับคดีพิเศษบ.สแกนม่านตา
“ดีเอสไอ" รับคดีบริษัทสแกนม่านตาแลกเหรียญดิจิทัลเป็นคดีพิเศษแล้ว
สำนึกกองทุนแม่แผ่นดิน คืนชีวิตผู้เสพกลับสังคม
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวาย “สมเด็จพระพันปีหลวง”
16ธ.ค.เคาะคนละครึ่งเฟส2
"อนุทิน" ย้ำ "คนละครึ่งพลัส" เฟสสองทำแน่ ตราบใดยังมีอำนาจเต็ม "โฆษกรัฐบาล" เผยชงเข้า ครม.สัปดาห์หน้า คาดให้ 10 ล้านสิทธิ์
‘หนู’ปราบโกง ลุยอุดช่องโหว่ ใช้กม.เด็ดขาด
นายกฯ อนุทินนำปฏิญาณต่อต้านทุจริต หลัง CPI ไทยรั้งท้าย อันดับ 107 ของโลก

