“โดนัลด์ ทรัมป์” ยังไม่ต่อสายกล่อมไทยหย่าศึก "นายกฯ หนู" พร้อมแจงจุดยืนไทยเหตุถูกรุกรานก่อน เผยอธิบายกับ "อันวาร์" แล้ว ฝ่ายค้านห่วงสหรัฐจุ้นมีราคาที่ต้องจ่าย แนะหารือสภาก่อน "ปณิธาน" ชี้เหลือไม่ถึงสัปดาห์ ก่อนมหาอำนาจแทรกแซง หวั่นล้มเหลวส่อบานปลายเป็นสงครามตัวแทน กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ ลั่น ไทยต้องไม่ยอมรับการแทรกแซงจากประเทศใด
ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม เวลา 09.30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่าจะโทรศัพท์หานายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชาว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อ แต่จริงๆ แล้ว ไม่ได้เป็นเรื่องที่ไม่เป็นปกติ เพราะผู้นำของแต่ละประเทศต้องมีการสื่อสารกันตลอดเวลาอยู่แล้ว และทุกคนต้องพยายามที่จะช่วยกันเพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหา
ส่วนดูเหมือนประธานาธิบดีสหรัฐให้ความมั่นใจกับสื่อทั่วโลกว่าจะได้ข้อยุติจากการคุยกับผู้นำทั้งสองประเทศนั้น นายกฯ กล่าวว่า เป็นอย่างที่ให้สัมภาษณ์ไปเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ว่าหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ โทร.มาหาประเทศไทย ในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้ารัฐบาล จะอธิบายและชี้แจงให้ทราบถึงเหตุการณ์และพัฒนาการของสถานการณ์ ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐคงต้องได้รับฟังอย่างละเอียดจากตน พร้อมเชื่อว่านายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ คงชี้แจงข้อมูลในระดับทางการทูตอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทยจะยืนยันในจุดยืนไม่คล้อยตามใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไทยต้องยืนยันว่าเราต้องรักษาอธิปไตย รักษาประชาชน และบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย รวมถึงรักษาศักดิ์ศรีของคนไทย
เมื่อถามว่า จะมีเงื่อนไขอะไรที่ไทยวางไว้ในการกลับไปสู่โต๊ะเจรจา นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีใครต้องการที่จะมีความขัดแย้ง โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ประเทศไทยมีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่าเราเป็นฝ่ายถูกรุกราน เพราะฉะนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของประเทศ ทั้งนี้ได้พูดคุยและได้อธิบายเหตุการณ์ให้นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียฟังแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายกฯ เสร็จสิ้นเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการทางวิชาการด้านการงบประมาณ OECD Asian Senior Budget Officials Meeting ครั้งที่ 19 ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ลแล้ว ได้เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล
จากนั้นช่วงบ่ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ เข้าพบหารือและร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ต่อมาเวลา 14.00 น. ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ นำรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ รายงานตัวต่อนายกฯ บนตึกไทยคู่ฟ้า กระทั่งเวลา 15.20 น. นายสีหศักดิ์เข้าพบนายกฯ เพื่อรายงานสถานการณ์ภาพรวมไทย-กัมพูชา และรายงานความคืบหน้าการชี้แจงเหตุการณ์ปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ให้ทูตประเทศต่างๆ และองค์การระหว่างประเทศรับทราบด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตลอดทั้งวันนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่บนห้องทำงานชั้น 2 บนตึกไทยคู่ฟ้า จนถึงช่วงเย็น
ห่วงสหรัฐแทรกแซง
ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ กล่าวว่า กังวลกรณีฝ่ายกัมพูชาพยายามตอบโต้ไทย โดยใช้กลไกศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) กดดันประเทศไทย เรื่องนี้เราสามารถพลิกแพลงได้ ตั้งแต่ความขัดแย้งรอบที่แล้วที่มีการโจมตี มีลูกระเบิดตกอยู่ในพื้นที่ชุมชนของไทย และมีคนเสียชีวิต ซึ่งตั้งแต่เหตุการณ์นี้จนถึงตอนนี้ สามารถรวบรวมพยานหลักฐานและร้องไปที่ไอซีซีได้เช่นเดียวกัน เพื่อรุกกลับกัมพูชา อีกมุมหนึ่งคือสแกมเมอร์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วโลก และเป็นหนึ่งในอาชญากรรมที่เราสามารถดำเนินการได้ จึงอยากให้รัฐบาลใช้โอกาสนี้โต้กลับ และทำให้เห็นชัดๆ ว่าคนที่เป็นภัยต่อมนุษยชาติคือไม่ใช่ไทย แต่เป็นฝ่ายกัมพูชา
เมื่อถามว่า ประธานาธิบดีสหรัฐจะโทร.หานายกฯ จะกลายเป็นวนลูปเดิมหรือไม่ และควรจะเจรจาอะไรบ้าง นายรังสิมันต์กล่าวว่า นั่นเป็นสิ่งที่อยากทราบ แน่นอนว่าจะมีมหาอำนาจที่เข้ามา ทั้งทางสว่างและทางมืด ทั้งบนโต๊ะและใต้โต๊ะ แต่ประเด็นคือจะมีราคาที่เราต้องจ่ายหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ควรมีการหารือทั้งฝ่ายสภาและรัฐบาลในการเสนอแนะแนวทาง แต่สิ่งสำคัญคือความชอบธรรม ต้องทำให้ทั่วโลกเห็นว่าไทยเป็นประเทศที่มีความชอบธรรมในเรื่องนี้
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร กล่าวว่า ทาง กมธ.คงต้องติดตามมาตรการการเยียวยาทหารผู้พลีชีพและทหารที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อให้แน่ใจว่ารัฐจะดูแลอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทั้งการดูแลสภาพจิตใจ การชดเชยเยียวยาให้กับคนที่อยู่เบื้องหลังให้ดีที่สุด กมธ.กำลังรวบรวมรายชื่อและทำหนังสือติดตามอย่างไม่ลดละ รวมทั้งต้องติดตามสถานการณ์ ณ วินาทีนี้ ยืนยันว่าการทำงานของทหารและฝ่ายปกครอง เรื่องการแจ้งเตือนประชาชน อพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ยอมรับว่ากองทัพมีการข่าวที่ค่อนข้างแม่นยำ กรณีโจมตีตึกสแกมเมอร์ที่เป็นแหล่งซุกซ่อนอาวุธของกัมพูชา เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
เมื่อถามว่า มีคำแนะนำให้นายกฯ กรณีคุยกับประธานาธิบดีสหรัฐหรือไม่ นายวิโรจน์กล่าวว่า ตอนนี้การเชื่อมโยงข้อมูลเรื่องข่าวสารและการทหาร ระหว่างกองทัพและกระทรวงการต่างประเทศจะต้องทำงานอย่างไร้รอยต่อ ไม่ใช่แค่ชี้แจงทรัมป์ แต่ต้องชี้แจงกับนานาอารยประเทศว่า เหตุใดไทยถึงต้องทำลายเป้าหมายอย่างนั้น เพราะบริเวณนั้นเป็นที่ซุกซ่อนของอาวุธสงคราม เรามีหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศ รวมถึงภาพถ่ายจากโดรน หากยืนยันแบบนี้เป็นเหตุผลที่รับฟังได้และเป็นไปตามมาตรการที่อยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ
ขณะที่ รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ "สหรัฐจะแทรกแซงเราอีก - ไทยกัมพูชาเหลือเวลารบกันอีกเท่าไร?" โดยระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศแล้วว่าจะแทรกแซงสงครามกัมพูชา-ไทยในรอบนี้อีก แต่น่าจะทอดเวลาหรือให้โอกาสไทยและกัมพูชาจัดการรบให้จบภายในเวลาที่จำกัดหรืออีกไม่นานนัก เพราะมีเหตุผลหลายประการสำคัญ ทั้งเรื่องหน้าตา คะแนนนิยม ทั้งเรื่องรางวัล เรื่องเศรษฐกิจ ดุลการค้า ดุลอำนาจในภูมิภาคและในโลก แต่ถ้าไทยและกัมพูชายังขัดขืนหรือไม่ยอมยุติการรบตามกำหนด สหรัฐคงจะใช้มาตรการทางภาษีคล้ายๆ เดิมเป็นสำคัญ แต่คงจะหนักขึ้น และอาจจะมีมาตรการอื่นกดดันไทยเพิ่มเติม เช่น งดหรือลดการส่งกำลังบำรุงทางการทหาร หรือจำกัดการสนับสนุนการช่วยรบที่ให้กับไทย ขณะเดียวกัน สหรัฐอาจจะพยายามโค่นล้มนายฮุน เซน ลงอย่างจริงจังในครั้งนี้ แต่จะต้องหาทางสนับสนุนผู้นำคนใหม่ๆ ที่เอื้อประโยชน์กับตนมากกว่านี้แทนให้ได้
หวั่นลามสงครามตัวแทน
รศ.ดร.ปณิธานกล่าวว่า ที่สำคัญที่สุดผู้นำทางการเมืองของไทยจะต้องสื่อสารทั้งกับชาวไทยในประเทศ รวมทั้งไปยังกัมพูชาและนานาชาติว่า ไทยยึดมั่นในแนวทางสันติภาพ และจะดำเนินการในแนวทางดังกล่าวอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ ชัดเจนสุดกำลัง โดยจะไม่ถอยหลังหรือเปลี่ยนแปลงจุดยืนใดๆ พร้อมทั้งเสนอให้กัมพูชายุติการสู้รบทันที
"ก่อนที่มหาอำนาจและนานาชาติทั้งหลายจะยกระดับเข้าแทรกแซง ไทยและกัมพูชาจะเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว อาจจะนับเป็นวันหรือสัปดาห์เท่านั้น ที่จะรบกันได้ต่อไปได้ในสงครามครั้งนี้ที่ถือว่าเป็นความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในรอบ 75 ปีที่ผ่านมา และหากมีการแทรกแซงจากมหาอำนาจและนานาชาติดังกล่าวมากขึ้นแล้วล้มเหลว ก็จะทำให้สถานการณ์ที่รุนแรงอยู่แล้วบานปลายกลายเป็นสงครามตัวแทนที่อยู่เหนือการควบคุมของทุกฝ่ายได้ไม่ยาก" รศ.ดร.ปณิธานระบุ
อย่างไรก็ตาม หากสหรัฐและจีนประสบความสำเร็จในการแทรกแซงทำให้สงครามยุติลงได้ ทั้งไทยและกัมพูชาอาจจะต้องแสดงความยินดีหรือขอบคุณทั้งสองประเทศที่มีส่วนสำคัญทำให้การสู้รบสงบลง และที่สำคัญคือ การแทรกแซงดังกล่าว ยังเป็นการรักษาหน้าตาหาทางลงให้กับฝ่ายการเมืองของไทยและกัมพูชาได้อีกด้วย
วันเดียวกัน กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ประกอบด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายนิติธร ล้่ำเหลือ, นายพิชิต ไชยมงคล, นายสมชาย แสวงการ แถลงเปิดศูนย์ช่วยเหลือพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงครามไทย-กัมพูชา จัดคอนเสิร์ตระดมทุนในวันอาทิตย์ที่ 14 ธ.ค.นี้ พร้อมออกแถลงการณ์ มีใจความตอนหนึ่งว่า
ขอให้รัฐบาล กองทัพ และเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่าย ดำรงการปฏิบัติการทางทหารทุกกรณี ตามเงื่อนไขของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้มีการปฏิบัติการทางทหารในเรื่องอื่นๆ ที่มีความจำเป็น ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และสิทธิในการป้องกันตนเองโดยชอบธรรม จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย อาทิ นำเอาแผ่นดินไทยทุกพื้นที่ที่ถูกกัมพูชาละเมิด รุกราน ยึดครอง กลับสู่เขตแดนอธิปไตยประเทศไทยอย่างสมบูรณ์ โดยยึดถือตามแผนที่ 1 : 50,000 ยกเลิกบันทึกข้อตกลงเอ็มโอยู 43 และ MOU 44 รวมทั้งรัฐบาลไทยยังไม่ควรมีการเจรจาใดๆ จนกว่าจะปฏิบัติการบรรลุเป้าหมายตามข้างต้น
"ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องประกาศจุดยืนที่ชัดเจน หนักแน่น และตั้งอยู่บนหลักสากล ว่าประเทศไทยจะไม่เป็นหมากของใคร ไม่เป็นเวทีของใคร และไม่เป็นตัวแปรให้ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ของชาติอื่นขยายตัวในภูมิภาคของเรา ขอให้รัฐบาลเรียกร้องไปยังประชาคมโลกว่า ให้ทุกประเทศเคารพอธิปไตยของไทย ประเทศไทยไม่ยอมรับการแทรกแซงจากประเทศใด ไม่ว่าภายใต้ชื่อความช่วยเหลือ การไกล่เกลี่ย หรือการรักษาเสถียรภาพภูมิภาค คณะรวมพลังแผ่นดินฯ ขอยืนยันว่า การปกป้องอธิปไตยตามกฎหมายสากล คือพื้นฐานของสันติภาพที่ยั่งยืน ไม่ใช่การยกระดับความขัดแย้ง และการคุ้มครองชีวิตประชาชน คือหัวใจของภารกิจความมั่นคงและหน้าที่ของกองทัพไทยต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง" กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉทหารต่างชาติบังคับโดรน
วุ่นกักตัวคนไทยไม่ให้กลับประเทศ ทบ.ซัดการทูตปอยเปต ใช้พลเรือนเป็นข้อต่อรอง ด้าน กต.เร่งออกเอกสารด่วนให้คนไทยตอนในเดินทางออกทั้งทางบก-อากาศ
สามเณร-แม่ชี ร่วมน้อมรำลึก พระพันปีหลวง
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวาย “พระพันปีหลวง” สามเณร-แม่ชีน้อย
ปปช.ผนึกปปง. สอบMOU‘ดีอี’ ก๊วน‘เบน สมิธ’
"ไชยชนก" โยน "ธรรมนัส-นฤมล" แจงเองปมร่วมเฟรม "เบน สมิธ" เป็นพยานลงนาม MOU บ.สิงคโปร์
ศึกชายแดน เปลี่ยนเกม! ‘อนุทิน’ พลิกบีบ ‘ส้ม-แดง’
พรรคภูมิใจไทย พลิกเกมขี่กระแส ชาตินิยม ได้อย่างทันทีท่วงที เมื่อ “นายกฯ หนู”-อนุทิน ชาญวีรกูล พลิกสถานการณ์จากเสียงตำหนิเรื่องน้ำท่วมใต้และปัญหาสแกมเมอร์ล่าช้า มายืนบนพื้นที่ที่ตัวเองได้เปรียบ คือกระแสชาตินิยม และประเด็นความมั่นคง
พรรคส้มยื่นซักฟอก! ดีลแก้รธน.ล่มกลางสภา แพ้โหวตหั่นอำนาจสว.
ถกแก้ไขร่าง รธน.วาระ 2 วันสุดท้ายเดือด! มาตรา 256/28 ระอุ "วิโรจน์" พาดพิง "สว.รัชนีกร-พิสิษฐ์" ชี้ควรหั่นอำนาจ 1 ใน 3 ของ สว.ลง
สภาเคาะ20หยิบ1 35อรหันต์ร่างรธน.
นับถอยหลัง “อนุทิน” จ่อดาบ พ.ร.ฎ.ยุบสภา ขณะที่สภาถก รนธ.วาระ 2 เคาะ "กมธ.ร่าง รธน.-กมธ.รับฟังความเห็น" สูตร 20 หยิบ 1

