จีนทุบ‘สแกมโบเดีย’ ‘จงอี้’แฉโยงผลประโยชน์หลายมิติ/กห.ลั่นภารกิจใกล้เสร็จ

"หลิว จงอี้" ทุบโต๊ะ! รัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ "อนุทิน" ซัดรัฐบาลเขมรไม่ทำสักอย่าง สแกมเมอร์ก็ไม่จัดการ ทหารก็ไม่ถอน ถามถ้าอยากเจรจาควรไปบอกใคร ขณะที่ "บิ๊กเล็ก" เผย ภารกิจเสร็จเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว สรุปสถานการณ์ล่าสุดทหารไทยพลีชีพเพิ่มอีก 1 รวมเป็น 21 นาย 

กลางดึกวันที่ 17 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา เพจสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความว่า เป็นที่ทราบว่า ทูตพิเศษด้านกิจการเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศจีนจะเดินทางไปกัมพูชาและไทยอีกครั้งในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ เพื่อไกล่เกลี่ยการปะทะบริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทย

โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านและมิตรของกัมพูชาและไทย จีนมีความห่วงใยอย่างยิ่งกับสถานการณ์การปะทะบริเวณชายแดนระหว่าง 2 ประเทศในปัจจุบัน โดยได้พยายามไกล่เกลี่ยและส่งเสริมการเจรจาอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งมีบทบาทอย่างแข็งขันด้วยวิธีการของตนเพื่อช่วยคลี่คลายความตึงเครียดและบรรเทาสถานการณ์ ทูตพิเศษด้านกิจการเอเชียจะเดินทางไปกัมพูชาและไทยอีกครั้งในวันที่ 18 ธันวาคม เพื่อดำเนินการไกล่เกลี่ย ผลักดันให้ทั้ง 2 ฝ่ายเดินหน้าเข้าหากัน และฟื้นฟูสันติภาพโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่มีการประสานมา เขาอาจจะมีการติดต่อในช่องทางการทูต ซึ่งตนยังไม่ได้ทราบในเรื่องดังกล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จีนจะมาเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ใช่

ส่วนจุดยืนของไทยเป็นอย่างไร นายกฯ ระบุว่า ถ้าใครจะพูดก็ให้ไปพูดว่าให้ทางกัมพูชาหยุดยิงเราเถอะ หยุดทำร้ายประเทศไทย ประเทศไทยไม่เคยทำอะไรเขาก่อน มีแต่เพียงการปกป้อง และตอบโต้ ซึ่งไม่เคยมีในประวัติศาตร์ว่าไทยไปรุกรานประเทศเพื่อนบ้านรอบทิศ

ถามถึงกรณีที่ นายอันวาร์ อิมราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เผยว่า เตรียมใช้เวทีประชุม รมว.การต่างประเทศ อาเซียน นัดพิเศษ 22 ธ.ค.นี้ เปิดเจรจาหยุดยิงชายแดนไทย-กัมพูชารอบใหม่ นายอนุทินชี้แจงว่า เขาไม่ได้ใช้ เป็นเพียงการเชิญรัฐมนตรีของอาเซียนไปประชุม ซึ่งก่อนหน้านี้ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บอกว่า จะไม่ไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ แต่จะไปกรุงจาการ์ตา แต่นายอันวาร์โทร.กลับมาบอกว่าให้กลับไปที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพราะเรื่องเจรจาเริ่มที่นั่นหลายครั้งแล้ว ซึ่งตนก็ยินยอม และไม่มีปัญหา พร้อมย้ำว่า รัฐบาลมีเหตุมีผล ตราบใดที่ประเทศไทยไม่เสียประโยชน์

ส่วนบทสรุปจะกลายเป็นเจรจาและกลับไปปะทะกันอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรีถามกลับว่า ประเทศไทยหรือไม่ เรามี 4 ข้อที่ได้ลงนามกันไว้ และประเทศไทยก็ดำเนินการทุกอย่าง

"ถอนทหาร ถอนอาวุธ ถอนทุ่นระเบิด เราทำ ปราบสแกมเมอร์เราทำหนักเลย กลับไปที่กัมพูชา ถอนหรือเปล่า ถอนแป๊บๆ ถอนคน แต่อาวุธยังอยู่ ไม่ทำเท่าประเทศไทย ทุ่นระเบิดจัดการให้มันระเบิด ไม่ได้จัดการถอน สแกมเมอร์ไม่ได้ทำเลย ประเทศไทยต้องทำทุกอย่าง บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ก็ไม่ร่วมบริหารจัดการ แล้วคนที่อยากให้เจรจากันควรจะไปบอกใคร ระหว่างคนตีกับคนถูกตี"

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ไม่สามารถบอกได้หรือไม่ว่าสถานการณ์จะจบลงเมื่อใด นายอนุทินตอบว่า เรารักษาอธิปไตย เกียรติภูมิ แผ่นดิน ความปลอดภัยของประชาชน เรายังทำแค่นี้อยู่ ยังไม่มีเป้าหมายอื่น

"หลิว จงอี้" พบปะกองทัพ

ด้านกองทัพบกเผยแพร่เอกสารข่าว วันที่ 17 ธันวาคม  พล.อ.ดิเรก บงการ หัวหน้าศูนย์ประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ให้การต้อนรับนายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Ministry of Public Security - MPS) พร้อมด้วยคณะผู้แทนจากกรมสอบสวนคดีอาญา กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กองสอบสวนอาชญากรรมโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต กระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน และจากสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ณ ห้อง จปร. อาคารพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ กองบัญชาการกองทัพบก เพื่อหารือประเด็นสถานการณ์ความมั่นคงและการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ

ระหว่างการหารือ พล.อ.ดิเรก บงการ กล่าวว่า ปัจจุบันมีข้อมูลว่ากลุ่มสแกมเมอร์ที่ถูกปราบปรามอาจหลบหนีไปยังพื้นที่อื่น และอาจใช้ไทยเป็นเส้นทางผ่านไปยังประเทศที่สาม โดยใช้การแฝงตัวเข้ามาในลักษณะนักท่องเที่ยวหรือนักลงทุน ส่งผลให้การคัดกรองของเจ้าหน้าที่เป็นไปได้ยาก

รวมถึงการดำเนินการของกองทัพบกที่รับผิดชอบดูแลความมั่นคงตามแนวชายแดน ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการคัดกรองและระบุตัวผู้ต้องสงสัยร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนข้อมูลข่าวสารหรือเบาะแสของขบวนการสแกมเมอร์จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ก็จะสามารถแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องล่วงหน้า และทำให้การสกัดจับเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ พล.อ.ดิเรกยังกล่าวถึงขั้นตอนการส่งมอบผู้ลักลอบเข้าเมืองให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขั้นตอนการผลักดันออกนอกประเทศ ที่ทางกองทัพบกมีความเห็นว่า หากสามารถกำหนดแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน ก็จะสามารถลดเวลาในขั้นตอนเหล่านี้ได้

ทางด้าน นายหลิว จงอี้ ได้แสดงความชื่นชมต่อความร่วมมือระหว่างไทย-เมียนมา และจีน ในการกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมในพื้นที่เมียวดี ซึ่งสามารถจับกุมและส่งกลับผู้ต้องหาชาวจีนกว่า 6,600 คน

พร้อมกล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลเมียนมาได้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจในการแก้ไขปัญหา และมีการลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการตรวจอาคารใน KK Park กว่า 400 แห่งแล้ว

ทั้งนี้ ฝ่ายจีนได้ขอความร่วมมือให้ไทยเพิ่มมาตรการสกัดกั้นผู้กระทำผิด ที่พยายามใช้ไทยเป็นเส้นทางผ่าน ทั้งทางธรรมชาติและด่านตรวจคนเข้าเมือง

รัฐบาลเขมรโยงสแกมเมอร์

รวมทั้งกล่าวว่า อุปกรณ์ที่ขบวนการสแกมเมอร์ใช้ ได้แก่ โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง คือหลักฐานสำคัญที่จะใช้ในการดำเนินคดีและขยายผลเครือข่ายอาชญากรรม จึงต้องมีการดำเนินการเก็บวัตถุพยานอย่างรอบคอบและรัดกุม ซึ่งวิธีดังกล่าวเป็นวิธีที่ทางการจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินการที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ทางจีนได้แสดงความเห็นอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ

ดังนั้นจึงขอให้ทั้ง 2 ประเทศได้แก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกัน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาและมาตรการที่เป็นรูปธรรมอย่างจริงจังในการดำเนินการ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและเสถียรภาพในภูมิภาค

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์คืบหน้าตามลำดับ ภารกิจที่เราคุยกันก็เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว จะหยุดยิงเมื่อฝ่ายกัมพูชาสิ้นสุดเป็นปฏิปักษ์ชัดเจน เปิดเผย ต่อเนื่อง ในภาพที่ออกมาจากสื่อที่รัฐบาลกัมพูชาพูดว่า พร้อมเจรจา อยากหยุดยิง แต่หน้าแนวยังระดมยิงกับเราทุกวัน ก็ต้องมีการหยุดยิงชัดเจนก่อน ถ้ากัมพูชาอยากหยุดยิง ก็หยุดเลย เราไม่มีไปรุกราน ซึ่งเราป้องกันตัวเองเท่านั้น ได้สัดส่วนและจำเป็น

 “ถ้าเขาอยากหยุดยิงก็หยุด แล้วถอนกำลังที่เผชิญหน้าออกไป เราไม่มีการไล่ยิงตามยิงถึงพนมเปญอยู่แล้ว ถ้าเขาอยากหยุดยิง ก็ต้องทำให้เราเห็นก่อน ไม่ใช่ดีแต่พูด และไม่ทำ ที่เคยพูดอย่างเสมอ รัฐบาลกัมพูชาพูดอยู่เสมอ แต่แนวหน้าไม่ทำตาม เราก็อยากที่จะยุติ แต่เขายังมีความเป็นปฏิปักษ์ เราก็ต้องป้องกันตัวเอง ซึ่งเราห่วงกำลังพล และประชาชนที่ต้องไปอยู่ศูนย์พักพิง”

รมว.กลาโหมระบุถึงกรณีการกู้ร่างทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะ พื้นที่เนิน 350 ปราสาทตาควายว่า กองทัพต้องการได้ร่างทหารกลับคืนมาโดยเร็ว แต่จะไปเร่งรัดก็ไม่ได้ เพราะต้องใช้ความระมัดระวัง

ขณะที่กองทัพไทยเปิดเผยว่า ได้ปฏิบัติการโจมตีอาคาร กาสิโนและโรงแรมซึ่งถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการของเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ ที่หลอกลวงเหยื่อจำนวนมาก รวมถึงพลเมืองสหรัฐ จนถึงวันที่ 14 ธันวาคม กองทัพไทยได้ทำลายเป้าหมายลักษณะนี้แล้ว ไม่น้อยกว่า 6 แห่ง ที่สำคัญในจำนวนนี้มีอย่างน้อย 2 อาคารหลักคือ รีสอร์ตและโรงแรมกาสิโน ซึ่งถูกสหรัฐคว่ำบาตรทางการเงิน และยึดทรัพย์เจ้าของไปก่อนหน้านี้แล้ว จากการพัวพันกับธุรกรรมสแกมเมอร์ที่หลอกลวงชาวอเมริกันมาอย่างยาวนาน จึงอธิบายได้ว่าเหตุใดหลายประเทศแม้จะเรียกร้องหยุดยิง แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดที่เป็นรูปธรรมต่อไทย รวมถึงท่าทีของสหรัฐที่ดูเหมือนปรามตามมารยาทในฐานะผู้สนับสนุนสันติภาพเพราะในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่รัฐบาลและกองทัพไทยกำลังทำอยู่ ไม่ใช่การขยายสงคราม แต่คือการตัดรากอาชญากรรมข้ามชาติ และช่วยปกป้องประชาชนทั่วโลกจากเครือข่ายโจรสแกมเมอร์

เขมรยังยิง BM-21

ด้านกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ในวันที่ 17 ธ.ค. สถานการณ์การปะทะในพื้นที่ยังคงอยู่ในระดับความรุนแรงสูง โดยมีศูนย์กลางความรุนแรงในพื้นที่ตาควาย จ.สุรินทร์ และพื้นที่ห้วยตามาเรียและภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ

ทั้งนี้ ทหารกัมพูชายังคงดำเนินการปฏิบัติการทางยุทธวิธีอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเข้าตียึดคืนที่หมายสำคัญในพื้นที่ดังกล่าว ด้วยการใช้จรวดหลายลำกล้อง (BM-21), เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 100 ม.ม. และโดรนโจมตีระดมยิงเข้าสู่พื้นที่การปะทะ และพื้นที่ส่วนหลังอย่างหนาแน่น ส่งผลกระทบในความเสียหายต่อพื้นที่พลเรือน และยังพบการการใช้โดรนเพื่อการโจมตีและการหาพิกัด GPS สำหรับเป้าหมายทางทหารในพื้นที่ตอนในอีกด้วย สำหรับฝ่ายเราคุมอากาศยานไร้คนขับได้ดีขึ้น และมีการตอบโต้เชิงระบบทำให้สามารถควบคุมพื้นที่สำคัญได้หลายจุด และยังคงขยายการควบคุมตามแผนปฏิบัติการ ทำให้ภาพรวมกำลังพลฝ่ายเราขวัญกำลังใจดี และการควบคุมสถานการณ์ยังมั่นคงดี

ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ พื้นที่ซำแต-โดนตวล-ภูผี-สัตตะโสม-พนมประสิทธิโส-ช่องตาเฒ่า ได้มีกระสุนปืนใหญ่ของทหารกัมพูชาตกบริเวณฐานทหารไทยหลายครั้ง ฝ่ายไทยได้ยิงตอบโต้ไปในทิศทางที่ตรวจพบจากเครื่องมือค้นหาเป้าหมาย นอกจากนี้ยังตรวจพบโดรนข้าศึกจำนวนมาก โดยมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย จากสะเก็ดจรวด RPG ในพื้นที่ซำแต

พื้นที่ภูมะเขือ-ช่องโดนเอาว์-พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้โดรนบินทิ้งระเบิดในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฝ่ายไทยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยยังมีการปะทะกันอย่างหนาแน่น จากการพยายามเข้าตียึดคืนพื้นที่ของทหารกัมพูชา ทหารไทยสามารถตรวจพบ UAV 1 ลำ และโดรน 4 ลำ บริเวณภูมะเขือ และยังคงมีกระสุนปืนใหญ่กัมพูชาตกบริเวณทางขึ้นภูมะเขือ

ชายแดนสุรินทร์ยึดได้สมบูรณ์

ชายแดนจังหวัดสุรินทร์พื้นที่ช่องจอม-ช่องเปรอ-ช่องระยี กัมพูชามีการยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เข้ามายังประเทศเป็นห้วงๆ ฝ่ายไทยจึงได้เปิดปฏิบัติการเชิงรุกเข้าตีฐานเคลียงเมือง (ปีกขวาช่องจอม) และสามารถเข้าควบคุมและเคลียร์ที่หมายได้สมบูรณ์ โดยมีการปักธงชาติไทยตามแนวคูเลต และฝ่ายไทยเราควบคุมพื้นที่และสถาปนาความมั่นคงได้สำเร็จ

พื้นที่คนา ฝ่ายไทยสถาปนาความมั่นคง ณ ที่หมาย และตรึงกำลังตลอดแนวการวางกำลังพื้นที่ตาควาย ทหารกัมพูชามีการยิงเครื่องยิงลูกระเบิด, ปืนใหญ่ และ BM-21 เข้ามาเป็นระยะ รวมทั้งทหารกัมพูชายังคงมีการเพิ่มเติมกำลัง โดยฝ่ายไทยพยายามดำเนินกลยุทธ์ต่อเนิน 350 แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้ มีกำลังพลเสียชีวิต 2 นาย จากการปะทะบริเวณพื้นที่ตาควาย ภาพรวมเป็นพื้นที่ปะทะหนัก แต่ฝ่ายเรายังยึดพื้นที่หลักไว้ได้

พื้นที่ตาเมือนธม ทหารไทยยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่ตลอดแนวการวางกำลัง โดยทหารกัมพูชาได้ยิงปืนใหญ่ และ BM-21 เป็นระยะ และตรวจพบ UAV จำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจพบทหารกัมพูชาเพิ่มกำลังเข้ามาในพื้นที่ และยังคงตรวจพบรถถังทหารกัมพูชาบริเวณหน้าแนว ส่วนในช่วงเย็นมีกำลังพลบาดเจ็บและสถานการณ์เริ่มตึงเครียด และมีแนวโน้มยกระดับ

ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ พื้นที่ช่องสายตะกู ฝ่ายไทยใช้ปืนใหญ่และรถถังยิงตึกอาคารที่ถูกใช้เป็นฐานทหาร จุดปล่อยโดรนของกัมพูชา และสถานที่ตั้งสแกมเมอร์ อาคาร/ตึก และพื้นที่โดยรอบได้รับความเสียหายอย่างมาก

สำหรับผลกระทบในพื้นที่พลเรือน จำนวน 1 พื้นที่ ได้แก่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในพื้นที่ชุมชนยังตรวจพบกระสุน BM-21 ตก 2 จุด สะเก็ดระเบิดโดนหลังคาบ้าน บ.สกลพัฒนา บ้านเรือนเสียหาย นอกจากนี้ยังมีกระสุนตกไร่มัน บ.ใหม่ดงเย็น ไม่มีผู้บาดเจ็บ หรือทรัพย์เสียหาย

ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้วงที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชายังคงเปิดฉากระดมยิง BM-21 กว่า 100 นัด ใส่เป้าหมายพลเรือนในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยเฉพาะพื้นที่ เกษตรบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ทําให้เกิดเพลิงไหม้เสียหายกว่า 1,000 ไร่ ทําให้ฝ่ายไทยจําเป็นต้องป้องกันตัวเอง

ทหารไทยพลีชีพเพิ่มเป็น 21 นาย

สรุปจำนวนทหารไทยมีเสียชีวิตจากการปะทะจำนวน 20 นาย อีก 1 นายเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ภารกิจ รวมเสียชีวิต 21 นาย

ด้าน พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการรบอย่างหนักหน่วง ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรักษ์ จังหวัดสุรินทร์ ที่มียุทธภูมิสำคัญก็คือเนิน 350 ซึ่งปัจจุบันมีทหารพลีชีพจำนวนมาก และมี 2 นายที่ยังไม่สามารถนำร่างออกมาได้ ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังอยู่ในความพยายาม และกัมพูชายังรุกคืบโจมตีอย่างหนัก

พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ ชี้แจงกรณีการปฏิบัติการทางอากาศของกองทัพไทยต่อเป้าหมายในพื้นที่นอกเมืองปอยเปต ภายหลังมีกระแสข่าวการโจมตีทางทหารในพื้นที่ดังกล่าว

โฆษกกองทัพอากาศระบุว่า เป้าหมายที่กองทัพอากาศเข้าปฏิบัติการ เป็นคลังเก็บอาวุธ กระสุน วัตถุระเบิด และจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งฝ่ายกัมพูชาใช้โจมตีทั้งกำลังพลของกองทัพไทยและพื้นที่พลเรือน โดยเฉพาะเหตุการณ์เมื่อช่วงเย็นของวันที่ผ่านมา ที่มีการยิงจรวด BM-21 เข้ามาในฝั่งไทยจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อประชาชน

ตามที่มีสื่อบางสำนักนำเสนอข่าวในลักษณะกล่าวอ้างว่า กองทัพเรือเพิกเฉยและไม่ได้ดำเนินการใดๆ ต่อกรณีการตรวจพบอากาศยานไร้คนขับเข้ามาก่อกวนบริเวณแท่นขุดเจาะกลางทะเลของบริษัท ปตท.สผ.นั้น เรือโทหญิงปรียาดา บัวสมบุญ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า กองทัพเรือได้มีช่องทางการติดต่อและการประสานงานโดยตรงระหว่างกลุ่มบริษัทผู้ผลิตน้ำมันหลายบริษัทที่ปฏิบัติงานในอ่าวไทย กับทัพเรือภาคที่ 2 มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับสถานการณ์ด้านความมั่นคงทางทะเลในทุกมิติ

กองทัพเรือได้รับแจ้งจากฝ่ายรักษาความปลอดภัยของแท่นเอราวัณว่า ตรวจพบอากาศยานไร้คนขับไม่ทราบฝ่ายเข้ามาในพื้นที่แท่นขุดเจาะ ทันทีที่ได้รับแจ้ง ทัพเรือภาคที่ 2 ได้จัดอากาศยานออกตรวจการณ์ในพื้นที่โดยทันที เพื่อค้นหาฐานปล่อยหรือแหล่งที่มาของอากาศยานไร้คนขับดังกล่าว ภายในรัศมีประมาณ 10 กิโลเมตรรอบแท่นขุดเจาะ ควบคู่กับการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ทัพเรือภาคที่ 2 ยังได้รับแจ้งว่าแท่นขุดเจาะอีกหลายแท่นก็ตรวจพบเช่นเดียวกัน เช่น แท่นไพลิน แท่นสตูล และแท่นฟูนาน ซึ่งได้จัดเรือและอากาศยานลาดตระเวนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค.จนถึงปัจจุบัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หลิว จงอี้' พบกองทัพบก จีนชี้รัฐบาลกัมพูชาเอี่ยวขบวนการ 'สแกมเมอร์' หลายมิติ

หลิว จงอี้ ร่วมหารือกองทัพบก ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไซเบอร์สแกม เผยรัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ

รุกฆาต! ถล่มปอยเปต ไทยเปิดฉากโจมตีฐานที่มั่นทหารกัมพูชา ซ่องสุมกำลังพล-อาวุธ

เพจ Army Military Force โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมข้อความว่า ด่วน!!! ชาวเน็ตเขมรแชร์คลิปวีดีโอที่ระบุว่า เมื่อสักครู่ ทหารไทยโจมตีฐานปฏิบัติการทางทหารเขต 5