"ในหลวง" เสด็จฯ ไปส่ง “พระราชินี” ทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศแข่งขันกีฬาซีเกมส์ พระราชทานช่อดอกไม้แสดงความยินดีแก่พระราชินี ทรงนำทัพนักกีฬาเรือใบไทยประเดิมเหรียญทองประวัติศาสตร์ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พระราชทานเหรียญรางวัลการแข่งขันกีฬาเรือใบ SSL47 พระราชินีทรงรับเหรียญทอง
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 เวลา 10.19 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเหรียญรางวัลการแข่งขันกีฬาเรือใบ ประเภทเรือคีลโบ๊ต “เอส เอสแอล 47 (SSL47) ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ.2568 ณ บริเวณโอเชียน มารีนา ยอชต์ คลับ พัทยา (Ocean Marina Yacht Club Pattaya) อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และทรงส่งเสด็จฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเรือใบ “เอสเอส แอล 47” (SSL47) เสด็จพระราชดำเนินไปยังบริเวณพื้นที่การแข่งขัน จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับโรงแรมโอเชียน มารีนา พัทยา แล้วเสด็จฯ เข้าห้องประทับรับรอง
เวลา 12.45 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และทีมเรือใบ (SSL47) ทีมชาติไทยเริ่มการแข่งขันเรือใบในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ.2568 รอบชิงชนะเลิศ ร่วมกับร่วมนักกีฬาจาก 4 ชาติ ที่เข้าร่วมการแข่งขัน ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเมียนมา
วันนี้นอกจาก สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะทรงทำหน้าที่สำคัญบนเรือด้วยการเป็นนักกลยุทธ์ และเนวิเกเตอร์ อันเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญยิ่งแล้ว ยังทรงช่วยบังคับหางเสือ เพื่อให้เรือแล่นไปยังทิศทางที่กำหนดได้อย่างรวดเร็ว
แม้นักกีฬาเรือใบทีมชาติไทยจะคว้าชัยเหรียญทองซีเกมส์ ประเดิมเป็นเหรียญทองเหรียญแรก ของการแข่งขันเรือประเภทคีลโบ๊ต SSL47 ที่ถูกบรรจุเพิ่มใหม่ในซีเกมส์ปีนี้ จากจำนวน 50 ชนิดกีฬาแล้วก็ตาม หากแต่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินียังทรงทำงานกันเป็นทีมกับทัพนักกีฬาเรือใบทีมชาติไทย สู้ศึกการแข่งขันอย่างเต็มกำลัง ทรงใช้เข็มทิศเพื่อสังเกตและวิเคราะห์ความได้เปรียบเสียเปรียบ และวางแผนทิศทางของลมเพื่อที่จะตัดสินใจนำเรือไปในทิศทางที่ได้เปรียบที่สุด สลับกับช่วยสมาชิกทุกคนในทีมทำหน้าที่ตามสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี จนจบการแข่งขันเก็บคะแนนในเรซที่ 8 ซึ่งเป็นรอบตัดสิน
วันนี้ทีมชาติไทยยังโชว์พลังความสามัคคี จนสามารถเข้าเส้นชัยเรซที่ 8 เป็นอันดับที่ 1 ด้วยเวลา 41.31 น. ทีมอันดับ 2 คือ มาเลเซีย และอันดับที่ 3 คือ ประเทศเมียมา ซึ่งรวมผลการแข่งขันทั้ง 8 เรซ ทำให้นักกีฬาเรือใบทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์มาครองได้สำเร็จ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเรือใบ ประเภทเรือคีลโบ๊ต (SSL47) ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ.2568 นับเป็นเกียรติประวัติอันสำคัญยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงพระราชปณิธาน ที่ทรงสืบสานกีฬาเรือใบของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับชาติ และระดับนานาชาติ ซึ่งกีฬาเรือใบถือเป็นกีฬาระดับสากล ที่ทรงส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจแก่นักกีฬาเรือใบรุ่นใหม่ โดยเฉพาะเยาวชนให้ได้ฝึกฝนทักษะ และพัฒนาต่อยอดการเล่นเรือใบสู่การแข่งขันในระดับสากล ที่จะทำให้กีฬาเรือใบมีความเจริญก้าวหน้าต่อไป
ทั้งนี้ เรือประเภทคีลโบ๊ต SSL47 นับชนิดกีฬาที่ถูกบรรจุเพิ่มใหม่ในซีเกมส์ปีนี้ จากจำนวน 50 ชนิดกีฬา เป็นเรือใบขนาดใหญ่มีความยาว 47 ฟุต มี 3 ใบ ประกอบด้วย mainsail (ใบใหญ่), Jib sail (ใบหน้า), Spinnaker (ใบลูกโป่ง) น้ำหนักตัวเรือ 3,300 กิโลกรัม นับเป็นเรือใบที่มีจำนวนนักกีฬา 8-10 คน น้ำหนักนักกีฬารวมกันไม่เกิน 730 กิโลกรัม และต้องมีนักกีฬาต่างเพศอยู่บนเรืออย่างน้อย 2 คน โดยการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จะทำการเก็บคะแนนทั้งหมด 8 เรซ ซึ่งทีมที่มีคะแนนเสียน้อยที่สุดจะคว้าชัยเหรียญทองประเภทเรือใบ SSL Mixed ไปครอง
เมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขัน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยเรือใบ (SSL47) ไปยังท่าเรือโอเชียน มารีนา ยอชต์ คลับ พัทยา ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี นักกีฬาเรือใบทีมชาติไทย และคณะทีมเรือใบทีมชาติไทย และพระราชทานช่อดอกไม้แสดงความยินดีแก่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และนักกีฬาเรือใบทีมชาติไทย พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้แทนหน่วยราชการในพระองค์ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายช่อดอกไม้แสดงความยินดีแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเปิดแชมเปญ (Champagne) จากนั้นประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับโรงแรมโอเชียน มารีนา พัทยา
ต่อมาเวลา 17.58 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังบริเวณพิธีพระราชทานเหรียญรางวัลการแข่งขันกีฬาเรือใบ ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ.2568 ณ ที่นั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยคณะกรรมการจัดงาน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
จากนั้นเสด็จฯ เข้าพลับพลาพิธี สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังแถวนักกีฬาทีมชาติไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กราบบังคมทูลรายงานผลการแข่งขันกีฬาเรือใบ “เอสเอสแอล47” (SSL47) ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พ.ศ.2568 พิธีกรดำเนินรายการ กราบบังคมทูลเบิกนักกีฬาเรือใบที่ได้รับเหรียญรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 3 ประเทศเมียนมารองชนะเลิศอันดับที่ 2 ประเทศมาเลเซีย และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นตัวแทนนักกีฬาเรือใบทีมชาติไทย ชนะเลิศอันดับที่ 1 เข้ารับพระราชทานเหรียญรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 และตุ๊กตา (มาสคอต) การแข่งขัน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จากนั้นทรงร่วมพิธีเชิญธงชาติทีมชนะเลิศอันดับที่ 1 รองชนะเลิศอันดับที่ 2 และรองชนะเลิศอันดับที่ 3 ขึ้นสู่ยอดเสา เสร็จแล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังแท่นรางวัลนักกีฬา เพื่อฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และนักกีฬาที่ได้รับรางวัลทั้ง 3 ชาติ
สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังกองการบินทหารเรือ สนามบินอู่ตะเภา กองเรือยุทธการ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงกราบ เสร็จแล้วประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศก.สู่ยุคโตตํ่า! คุมเข้มร้านทอง กดเงินบาทแข็ง
"ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ" ห่วงเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ยุคโตต่ำเป็น New Normal หลังกินบุญเก่ามานาน
ทุกพรรคจัดทัพลุยเลือกตั้ง
ทุกพรรคพร้อมลุยเลือกตั้ง! "อนุทิน” ยันแคนดิเดตนายกฯ ภท.ไม่มีเซอร์ไพรส์เพิ่ม
เลือก‘คำถามประชามติ’ สมควรมีรธน.ใหม่หรือไม่
ครม.เคาะเลือกคำถามประชามติ “สมควรมีรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่”
จีนทุบ‘สแกมโบเดีย’ ‘จงอี้’แฉโยงผลประโยชน์หลายมิติ/กห.ลั่นภารกิจใกล้เสร็จ
"หลิว จงอี้" ทุบโต๊ะ! รัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ
กนง.หั่นดอกเบี้ย0.25% เศรษฐกิจปี69-70โตตํ่า
"กนง." มติเอกฉันท์ ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อปีลง 0.25% เหลือ 1.25% ต่อปี
จีนปัดส่งอาวุธช่วยเขมร
"อนุทิน" ฟาดเขมรมีสติควรเจรจา ฮึ่ม! ต้องได้เนิน 350 กองทัพชี้สู้ยืดเยื้อจุดยุทธศาสตร์พื้นที่่ช่วงชิง พร้อมเร่งค้นหาร่างทหาร 2 นาย

