ฝุ่นตลบ!นักเลือกตั้งย้ายพรรค

เลขาฯ กกต.รับเลือกตั้งหนนี้เหนื่อยแน่นอน “อนุทิน” การันตี ถ้าชนะ “เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์” เป็น รมต.ต่อ “เด็กสุวัจน์” ซบเพื่อไทย ด้าน “ไชยา” หนี พท.ซบกล้าธรรม "สุพิศาล" น้อยใจ ปชน.ไขก๊อกไปค่ายใหม่ “ปชป.” กั๊ก “การดี-วีระพงษ์” นั่งแคนดิเดตนายกฯ

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ส่งข้อความในกลุ่มไลน์สำนักงาน กกต. โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า "พี่น้อง กกต.ครับ บ้านเราอยู่ในโหมดต้องรับผิดชอบงานของบ้านเมืองอย่างน้อย 3 งานใหญ่ คือเลือก อบต. เลือก สส. และการออกเสียงประชามติ (ไม่นับการเลือกแทนตำแหน่งที่ว่างที่มีอยู่เป็นประจำ) เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมีแบบนี้ ที่งานทั้ง 3 งานครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศพร้อมกัน บางจังหวัดก็มีงานลักษณะพิเศษเพิ่มเติม อาทิ พื้นที่ที่มีสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดน 7 จังหวัด หรือจังหวัดปราจีนบุรี ที่มีการจัดการเลือกตั้ง นายก อบจ.แทนตำแหน่งที่ว่างพร้อมกัน รวมเป็น 4 งาน"

นายแสวงระบุอีกว่า "ด้วยกำลังคนที่มีจังหวัดละ 20 คน เราเหนื่อยมากขึ้นอย่างแน่นอน แต่มันเป็นหน้าที่และเป็นความท้าทายที่ 'เรา' อยู่ตรงนี้พอดี ผมมั่นใจในพี่น้องเราทุกคน ว่าจะทำทุกงานออกมาดี เป็นที่ยอมรับตามความคาดหวังของสังคม ผมขอส่งกำลังใจมาถึงพี่น้องเราทุกคน ในยามที่ต้องทำงานสำคัญของบ้านเมืองให้ออกมาดีและเป็นที่ยอมรับ และผมขอโทษที่ไม่สามารถจัดหาคนให้พี่น้องเราให้พอเพียง ตามกรอบในเวลาอันสำคัญแบบนี้ ทำให้ลำบากมากขึ้นเป็นเท่าทวีขึ้นไปอีก"

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ภท.ทั้ง 3 คนว่า ยังคุยกันอยู่ ต้องให้คนที่เราทาบทาม นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.การคลัง นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ไปพิจารณาปรึกษาหารือกันก่อน แต่ตอนนี้ทุกคนที่ทำงานร่วมกันอยู่แล้วในรัฐบาลชุดนี้ ให้คำมั่นสัญญาว่าจะร่วมทำงานกันต่อไปในภาคส่วนที่ตัวเองมีความถนัด หัวหน้าทีมเศรษฐกิจก็หนีไม่พ้นนายเอกนิติ ที่จะดูเรื่องการเงินการคลัง และนางศุภจีที่จะดูเรื่องการค้า อุตสาหกรรม ส่วนนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ จะดูเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถ้าพรรค ภท.ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนกลับมาบริหารราชการหลังเลือกตั้งก็จะเห็นหน้าคนเหล่านี้อยู่ในรัฐบาล

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้งและแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในเลือกตั้งว่า พรรค พท.ยืนยันว่าจะส่งผู้สมัครทั้ง 400 เขต ส่วนการจัดลำดับบัญชีรายชื่อ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.มีการเรียงลำดับของบุคคล โดยดูจากบัญชีรายชื่อเดิม ว่าบุคคลเหล่านั้นได้เข้ามาช่วยพรรคหรือสภาดีแค่ไหน เพื่อดูว่าใครควรจะเข้าบัญชีแรก ส่วนนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท.จะลงสมัคร สส.บัญชีรายชื่อหรือไม่นั้น กำลังดูว่ายุทธศาสตร์จะเป็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการพูดคุยกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) หรือไม่ หลังจากประกาศจะไม่ส่งผู้สมัครลงในนามพรรค ชพน. นายสุริยะตอบว่า สรุปกันแล้วว่าจะมาร่วมงานกับพรรค พท.ทั้ง 3 คน ในพื้นที่เขตที่ 1, 2 และ 3 ของ จ.นครราชสีมา ส่วนอดีต สส.ปราจีนบุรียืนยันว่าไม่ได้มา เพราะมีปัญหาเรื่องผู้หญิง โดนพรรคประชาชน (ปชน.) ไล่ออก เราจะไปรับก็ไม่เหมาะสม

‘เด็กสุวัจน์’ ซบเพื่อไทย

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายร่วมกับนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค ชพน. พร้อมระบุตอนหนึ่งว่า ทีมงานดังกล่าวจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับพรรคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และในภาพรวมของประเทศ เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติต่อไป

นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรค พท. ในฐานะกำกับดูแลพื้นที่ กทม. กล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เข้ามาทำหน้าที่จะแบ่งคะแนนได้หรือไม่ว่า ตอนนี้ยังประเมินลำบาก ต้องรอใกล้วันเลือกตั้งกว่านี้ ซึ่งเดิมพรรค ปชป.เคยครองพื้นที่ กทม.มาก่อน และการที่นายอภิสิทธิ์กลับมาเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้พรรค ปชป.ได้เป็นอย่างดี ถือเป็นพรรคที่น่ากลัว

มีรายงานข่าวจากพรรคกล้าธรรม (กธ.) แจ้งว่า ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค กธ.จะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคในเวลา 14.00 น. เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. โดยหนึ่งในนั้นคือ นายไชยา พรหมา อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีต สส.หนองบัวลำภู พรรค พท.

ด้านพรรค พท.เตรียมส่งนายรุ่งเพชร ศรีกาญจนา อดีตผู้สมัคร สส.จากพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) มาลงแข่งสู้กับนายไชยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรค พท. กล่าวถึงการโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทยว่า ภายใต้รัฐบาลนายอนุทินที่ตัวเลขโยกย้ายข้าราชการล่าสุดคือ 395 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยังไม่มีที่สิ้นสุด คาดว่าคิวต่อไปจะเป็นหัวหน้าสำนักงานระดับจังหวัด ทั้งนี้เรามี ผวจ.ทั้งหมด 76 จังหวัด 50 คนโดนโยกย้ายไปแล้ว ในส่วนของกรมทั้งหมด 6 กรม ย้ายไปแล้ว 5 กรม ปลัดจังหวัด 76 จังหวัด ย้ายไป 40 คนแล้ว ขณะที่นายอำเภอมี 787 อำเภอ 200 คนโดนโยกย้ายไปแล้ว ซึ่งเป็นจำนวนที่น่าตกใจมาก เป็นสัดส่วนที่ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยบอกว่าไม่เคยเห็นมาก่อนในระยะสั้นๆ แค่นี้

วันเดียวกัน ที่โรงแรมเลอ มอนเต้ เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จัดอบรมสัมมนาว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.เป็นวันที่สอง โดยนายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค รทสช.ระบุว่า  ปัจจุบันพรรค รทสช.กำลังเดินหน้าสู้กับทุนเทาและระบบการซื้อเสียงที่แพร่ระบาดอย่างหนัก จนทำให้รัฐสภามีแต่ตัวแทนจากตระกูลบ้านใหญ่หรือเครือข่ายทุนเทา แทนที่จะเป็นตัวแทนจากภาคประชาชนอย่างแท้จริง และในฐานะที่เป็นผู้แทนประชาชนมาถึง 9 สมัย ขอยืนยันว่าการตัดสินใจร่วมงานกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. เพราะเห็นความใจถึงและซื่อสัตย์ในการทำงานที่มุ่งผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง

น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุถึงสาเหตุที่นายวราวุธ ศิลปอาชา ย้ายไปอยู่กับพรรค ภท.ตอนหนึ่งว่า  "ท็อปและ สส.ของพรรคยังต้องการทำงานให้คนสุพรรณ และประเทศชาติโดยรวมอยู่ จึงต้องหาพื้นที่ที่จะสามารถยืนอยู่บนถนนการเมืองต่อไปได้ ซึ่งเมื่อตัดสินใจว่าจะต้องย้ายมาอยู่พรรคใหญ่ พวกเขาต้องเลือกพรรคที่ยึดมั่นในชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จึงเลือกมาอยู่พรรคภูมิใจไทย การลาออกจากพรรคชาติไทยพัฒนามาอยู่พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาทิ้งพรรคที่พ่อทำมา แต่หมายความตามที่ดิฉันกล่าวแล้วข้างต้นว่า ถ้ายังอยู่ที่เดิมคงไม่มีพื้นที่ที่จะทำงานการเมืองต่อได้ ในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาในอนาคต ดิฉันก็จะมารับรักษาการเป็นหัวหน้าพรรค แต่จะไม่มีกิจกรรมใดทางการเมือง แค่เพียงรักษาพรรคไว้"

พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) อดีตรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และอดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวกรณีที่ได้ลาออกจากพรรค ปชน.ว่า เป็นเรื่องจริง ซึ่งได้ยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนเหตุผลเป็นเพราะได้เสนอตัวให้กรรมการคัดสรรเลือกเป็นว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่มีการแจ้งว่าไม่ผ่าน ไม่ได้รับการคัดเลือก

 “เราก็ขอขึ้นรถเมล์ แต่เขาบอกว่ามันเต็มแล้ว ไม่ให้ไป จะให้ทำอย่างไรได้ เพื่อนๆ ในพรรคเองก็บอกว่า คณะกรรมการตัดสินใจผิดพลาดอย่างมากในเรื่องของการคัดสรรตัวบุคคล บกพร่อง ไม่รอบคอบ" พล.ต.ต.สุพิศาลระบุ

พล.ต.ต.สุพิศาลเปิดเผยอีกว่า ตัดสินใจย้ายไปอยู่พรรคไทยธรรม ซึ่งเป็นพรรคของลูกศิษย์ที่เคยสอนปริญญาเอกอยู่ และดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค ในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ ตอนนี้ยังมีเวลาอยู่ จึงขอเชิญชวนคนที่อกหักไม่ว่าจะพรรคใดก็ตาม ให้มาร่วมกันทำงาน จะอยู่พรรคไหนก็ไม่สำคัญ ขอแค่อุดมการณ์ตรงกันก็พอ อีกทั้งตนประสงค์ที่จะลงสมัคร สส.กทม.เขตตลิ่งชัน-ทวีวัฒนา ชนกับนายอนุสรณ์ ธรรมใจ ว่าผู้สมัครของพรรค ปชน.ด้วย

ปชป.ยังกั๊กแคนดิเดตนายกฯ

นายพงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 ธ.ค. พรรค ปชป.จะมีการเปิดสำรวจความคิดเห็นของประชาชนว่า ที่ผ่านมาประชาชนต้องทนกับปัญหาอะไรบ้าง เพราะที่ผ่านมาการเมืองเทาทำให้คนไทยถูกทอดทิ้ง ดังนั้นวันนี้จึงไม่ต้องทนอีกต่อไป

โฆษกพรรค ปชป.กล่าวอีกว่า ส่วนมอตโตในการหาเสียง ในช่วง 4 วันแรกจะเป็นการพูดถึงปัญหาก่อน และในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.จะเป็นผู้แถลงนโยบาย เพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ยืนยันว่านโยบายการเมืองสุจริตบนความเป็นมืออาชีพ  และการทำนโยบายให้เป็นไปได้ เป็นสิ่งที่พรรค ปชป.ยึดถือ

เมื่อถามถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ปชป. นายพงศกรยังไม่ยืนยัน และไม่ได้ปฏิเสธว่าแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคอีก 2 คน จะเป็นนางการดี เลียวไพโรจน์ และนายวีระพงษ์ ประภา รองหัวหน้าพรรคหรือไม่ โดยระบุว่าทั้ง 2 คนถือว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ ไม่แพ้แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคอื่นแน่นอน แต่สุดท้ายต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะเป็นผู้ตัดสินใจ ยืนยันว่าเป็นบุคคลภายในพรรค ปชป. โดยจะต้องเป็นสมาชิกพรรค

โฆษกพรรค ปชป.ยังกล่าวถึงสนามการเลือกตั้งภาคใต้ว่า พรรค ปชป.กลับมาได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น หลังจากผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของนิด้าโพล ได้สะท้อนว่าความนิยมของพรรคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้พรรคเตรียมเปิดตัวว่าที่ผู้ลงสมัคร สส.กทม.ทั้ง 33 เขต ในวันที่ 22 ธ.ค. เวลา 09.00 น. ที่พรรค ปชป.ด้วย

นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่  ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนของแคนดิเดตนายกฯ พรรคไทยก้าวใหม่ว่า แคนดิเดตนายกฯ จะมีชื่อตนเอง ส่วนจะส่งแคนดิเดตนายกฯ ครบทั้ง 3 ชื่อหรือไม่ ขอให้คอยติดตาม คงอีกไม่นานนี้ จะมีเซอร์ไพรส์แน่นอน ส่วนกลุ่มเป้าหมายของพรรคไทยก้าวใหม่ใกล้เคียงกับพรรค ปชป. จะสู้อย่างไรนั้น คนเบื่อการเมืองแบบเดิม อยากให้ประเทศไทยก้าวใหม่ ถ้าความคิดแบบเก่าคนเก่า สุดท้ายประเทศไทยก็ย่ำอยู่กับที่

วันเดียวกัน พรรคไทยก้าวใหม่ยังได้เปิดตัว น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ลงสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ

นายปราโมทย์ หนูเลิศ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ (ปธม.) ผู้ดูแลภาคใต้  เปิดเผยว่า พรรค ปธม.มีความพร้อมส่งผู้สมัคร สส.แล้วจำนวน 221 เขต ทางภาคอีสาน ภาคเหนือ และกรุงเทพฯ และในส่วนทางภาคใต้ จ.พัทลุง มีความพร้อมเช่นกันที่เขต 3 ซึ่ง นายปราโมทย์จะลงสมัครเอง ส่วน จ.สงขลา และ จ.นครศรีธรรมราชอยู่ระหว่างดำเนินการ

ขณะที่นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้ประเมินการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า คะแนนของพรรค ภท.กับพรรค ปชน.จะไม่ทิ้งห่างกันมาก ขณะที่พรรค พท.มีแนวโน้มถอยลงมาเป็นอันดับ 3 โดยพรรคการเมือง 3 อันดับแรกจะได้จำนวน สส.ใกล้เคียงกัน ไม่ขาดลอย ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีความเข้มข้นและสูสีทางการเมืองมากขึ้น อย่างไรก็ดี พรรค ภท.ยังถือว่ามีภาษีดีกว่าในการจัดตั้งรัฐบาล จับสัญญาณจากการทยอยเข้าร่วมของกลุ่มการเมืองต่างๆ ทั้งบ้านเล็กบ้านใหญ่ ที่เพิ่มน้ำหนักทางการเมืองให้พรรคน้ำเงินอย่างมีนัยสำคัญ.