เพื่อไทยโวปักธง‘สุพรรณบุรี’

"ยศชนัน" นำทัพเพื่อไทยประเดิมหาเสียง  "อยุธยา-สุพรรณฯ" ประกาศปักธงไม่สนบ้านใหญ่ ชูประกันกำไรสินค้าเกษตร 30% ดันราคาข้าว 1.5 หมื่นบาท พักหนี้เกษตรกร 3 ปี ลั่นเป็นรัฐบาลทำทันที "จาตุรนต์" ลาออกประธานยุทธศาสตร์พรรค “อภิสิทธิ์” ชวนคนไทยเลิกทน ร่วมล้างบางปัญหาสีเทา เปิดตัวแคมเปญหาเสียง ปชป. 22 ธ.ค. ขณะที่ "รทสช." เผยโฉมแคนดิเดตนายกฯ-นโยบายพรรคชุดแรก

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ ต.ชายนา อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่หาเสียงครั้งแรก  พร้อมด้วยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯ กรรมการบริหารพรรค และว่าที่ผู้สมัคร สส.เพื่อพูดคุยแนวทางบริหารจัดการน้ำ

ช่วงหนึ่งมีประชาชนสะท้อนปัญหาว่า พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่รับน้ำ จึงอยากให้มีการบริหารจัดการกระจายน้ำไปยังพื้นที่อื่นบ้าง เพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังนานเกินไป และลดผลกระทบที่เกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด รวมทั้งช่วยดูเรื่องการเยียวยา ขณะที่ชาวบ้านอีกส่วนสะท้อนถึงราคาข้าวที่ตกต่ำ       

นายยศชนันกล่าวว่า คิดนโยบายในห้องอย่างเดียวไม่สามารถเห็นความเดือดร้อนได้ชัดเจน วันนี้จึงมารับฟังปัญหาจากประชาชนให้ได้เห็นกับตา จะได้รู้ว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง เพื่อให้ประชาชนกินดีอยู่ดี สิ่งสำคัญเรื่องราคาสินค้าเกษตรจำเป็นต้องดูแลทั้งระบบในทุกมิติ ทั้งเรื่องราคาตกต่ำและการปลูกพืชนอกฤดูกาล รวมถึงต้องไปเจรจากับประเทศคู่ค้าต่างๆ ต้องทำขนานกันไปเพื่อช่วยเหลือทุกคน

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมการเยียวยาต้องเหมาะสม เราต้องทำระบบบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เพื่อให้เกิดความชัดเจน และการแก้ปัญหาน้ำไม่ใช่แค่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา  แต่ต้องดูเรื่องต้นน้ำด้วย ที่ผ่านมาเรามีเรื่องเกี่ยวกับเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่และเรื่องน้ำ แต่ถูกหยุดโครงการนั้นไป

ด้านนายจุลพันธ์กล่าวว่า ต้องส่งสัญญาณไปที่รัฐบาล  แม้ขณะนี้มีปัญหาที่ชายแดน แต่จะลืมคนข้างหลังไม่ได้ ชาวเสนานั่งแช่น้ำมา 3 เดือน เช่นเดียวกับชาวหาดใหญ่ที่ลืมไม่ได้ รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขเยียวยาให้จบ วันนี้เสนาน้ำลดไปไม่เกินคืบจากที่เคยมาครั้งก่อน ส่วนการเยียวยา 9,000 บาทได้รับกันแล้ว แต่ 20,000 บาทยังไม่ได้รับ จึงขอฝากบอกรัฐบาลให้รีบดำเนินการ เพราะความเดือดร้อนรอไม่ได้ พรรคเพื่อไทยมีโครงการแก้ไขระบบน้ำทั้งระบบ เป็นเมกะโปรเจกต์หลายแสนล้านบาท ซึ่งอยุธยาเป็นหนึ่งในเป้าหมาย

"สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีโครงการจำนำข้าว ทำให้เงินถึงมือเกษตรกรอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว ต้องเปลี่ยนกลไก วันนี้พรรคเพื่อไทยขอเปิดนโยบายด้านการเกษตร อาทิ การประกันกำไรสินค้าเกษตร 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนี่คือนโยบายที่จะเดินหน้า พรรคเพื่อไทยพร้อม หากท่านให้โอกาสทำงาน เราจะแก้ไขทั้งราคาพืชผลเกษตรและปัญหาน้ำ" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ

ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาท พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทำไมพวกเราจึงคิดถึงนายทักษิณ ชินวัตร หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะทำให้พวกเรากินดีอยู่ดี อนาคตมีความหวัง ซึ่งวันนี้นายยศชนันเป็นว่าที่นายกฯ ของเรา จากที่ได้คุยกันถือว่ามีความเก่ง และตนยอมรับในสติปัญญา รวมถึงเมื่อได้ฟังวิสัยทัศน์ ยืนยันได้ว่าคนนี้คือคนเก่งของประเทศ เพราะคิดแต่แบบวิทยาศาสตร์คณิตศาสตร์ ไม่ต้องคาดเดาหรือพยากรณ์ รับรองได้ว่าประเทศไทยได้ของดีแน่ อยากให้ประชาชนฝากบอกคนไทยทั้งประเทศว่าให้เอานายกฯ คนนี้มาดูแลประเทศของเราให้ได้ และเอาพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลพรรคเดียว จะได้ทำให้ชาวนาอยู่ดีกินดีแน่นอน

จากนั้นนายยศชนัน คณะพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร สส.สุพรรณบุรี ได้ลงพื้นที่ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี โดยได้นั่งล้อมวงพูดคุยกับตัวแทนชาวบ้านและเกษตรกร เพื่อรับฟังปัญหาเรื่องสินค้าการเกษตร

โดยชาวบ้านได้สะท้อนปัญหาว่า ปัจจุบันราคาสินค้าเกษตรตกต่ำแต่ต้นทุนสูง รัฐบาลเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้การแก้ไขปัญหาไม่ต่อเนื่อง ดังนั้นอยากฝากว่าหากได้เป็นรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่ายกให้ใคร และขอให้เอาคนที่มีความรู้ความเข้าใจด้านการเกษตรมาเป็นรัฐมนตรี พร้อมกับขอให้ช่วยดูแลเรื่องราคาข้าวไม่ให้ต่ำกว่า 10,000-20,000 บาทต่อตัน เพราะต้นทุนสูง

พท.ประกาศปักธงสุพรรณฯ

นายยศชนันกล่าวว่า ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านน้ำท่วม ภัยแล้ง การคมนาคม ว่าที่ผู้สมัคร สส.ได้สกัดประเด็นมาให้รับทราบแล้ว เพื่อนำไปจัดทำนโยบายแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยเรื่องพันธุ์ข้าว ปุ๋ย จะนำวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย ฉะนั้นเราจะมีการประกันกำไรสินค้าการเกษตร 30 เปอร์เซ็นต์ เพื่อที่จะทำให้ทุกคนยืนอยู่ได้ด้วยขาของตัวเอง ทั้งนี้ในส่วนของราคาการเกษตรต้องมีการควบคุม ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล เราเริ่มไว้แล้ว และพร้อมทำทันทีเมื่อเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลครั้งต่อไป

ด้านนายจุลพันธ์กล่าวว่า นโยบายด้านการเกษตรที่พรรคเพื่อไทยเตรียมจะเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คือ นโยบายประกันกำไรสินค้าการเกษตร 30 เปอร์เซ็นต์ โดยเราจะมีการแจกคูปอง 2 คูปอง คือ 1.คูปองเพื่อซื้อปุ๋ย 250 กิโลกรัมต่อคน และ 2.คูปองเมล็ดพันธุ์ ให้รับเมล็ดพันธุ์ที่แข็งแรงจากรัฐ นอกจากนี้ยังมีนโยบายพักหนี้ให้เกษตรกร 5 แสนบาทใน 3 ปี โดยไม่ต้องชำระทั้งต้นและดอก

ต่อมาที่ศาลาการเปรียญ วัดโพธิ์ท่าทราย นายยศชนัน  ปราศรัยกับชาวบ้านว่า "ขอเสียงพี่น้องชาวสุพรรณบุรีหน่อย  ใครว่ายศชนันพูดเสียงดังไม่ดัง นายจุลพันธ์บอกว่ารอบนี้หาเสียงปราศรัยไม่ใช่มาบรรยาย กลัวพี่น้องจะหลับ วันนี้เป็นเวทีแรกจริงๆ ที่ผมได้มาพบพี่น้องทุกท่าน สิ่งที่อยากจะบอกกับพี่น้อง เหตุที่เรามาสุพรรณบุรีก่อน เพราะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ เป็นจังหวัดเก่าแก่ที่อยากให้ประชาชนเห็นว่า ถ้าสุพรรณบุรีเปลี่ยนได้ประเทศไทยเปลี่ยนได้แน่นอน เกษตรกรเดินไปข้างหน้าได้เลย ผมและนายจุลพันธ์จะบังหลังให้ ไม่มีการแทงข้างหลังแน่นอน"

"ทั้งนี้จะไปทำงานกับทีมหลังบ้าน พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ พัฒนาเครื่องจักรทางการเกษตรเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีขึ้น ส่วนเรื่องราคาสินค้าการเกษตรจะพยายามดันราคาข้าวไปถึง 10,000 บาท ข้าวหอมมะลิจะดันให้ถึง 15,000 บาท แต่เมื่อต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่สูงขึ้น จึงคิดกันว่าจะประกันกำไร 30% ให้ประชาชน เราจะทำให้ประชาชนชาวไทยโดยเฉพาะจังหวัดสุพรรณบุรีลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง ขอให้เลือกเพื่อไทยทั้งจังหวัด"

นายยศชนันให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาและสุพรรณบุรีว่า เป็นครั้งแรกที่ลงพื้นที่ เนื่องจากมีความชัดเจนเรื่องผู้สมัครครบถ้วน ซึ่งผู้สมัครได้ลงพื้นที่มาสักระยะหนึ่งแล้ว ทำให้เห็นปัญหาต่างๆ ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้อยากจะสื่อไปยังทุกคนที่มีความรับผิดชอบและพรรคการเมือง ว่าความเดือดร้อนต่างๆ มีการแก้ไข 2-3 ระยะ ซึ่งบางอย่างสามารถแก้ปัญหาได้ทันที พรรคเพื่อไทยจึงสะท้อนปัญหา และบอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับแนวนโยบายให้พี่น้องประชาชน เพื่อปรับแก้นโยบายให้ตรงกับประชาชนมากที่สุด ก่อนส่งให้ กกต.

เมื่อถามว่า คิดว่านโยบายพรรคตรงใจประชาชน พร้อมสู้กับบ้านใหญ่โดยเฉพาะ จ.สุพรรณบุรี จะสามารถปักธงพื้นที่ได้หรือไม่ นายยศชนันกล่าวว่า ต้องทำให้เป็นไปได้ ซึ่งก้าวข้ามเรื่องพรรคการเมืองไปแล้ว พรรคเพื่อไทยได้คัดเลือกบุคคลที่มีคุณภาพ เข้าใจและเข้าถึงประชาชน สม่ำเสมอ สามารถนำนโยบายไปแก้ปัญหาให้ประชาชนได้จริง เชื่อว่าจะสามารถชนะใจประชาชนได้

ที่โรงเรียนจันทรุเบกษาอนุสรณ์ อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด นายสุทิน คลังแสง อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครพรรคเพื่อไทยหาเสียงตอนหนึ่งว่า "พรรคนั้นบอกมีเราไม่มีเทา จะกินได้ยังไง เพราะพรรคเพื่อไทย มีเราไม่มีหนี้ เพราะมีแผนใช้หนี้ให้ประชาชนเป็นระดับ เช่นคนแก่ใช้หนี้ให้คนละแสนจะเบาลง และไม่มีพรรคไหนปราบคอลเซ็นเตอร์เหมือนพรรคเพื่อไทยหรอก ให้ไปตัดไฟก็ไม่ตัด ทักษิณเลยพูดมัวแต่รำวงอยู่ คนที่รำวงก็อนุทินนี่แหละ เป็น รมว.มหาดไทย พรรคเพื่อไทยอยากจะบอกว่ามาฆ่ากูไม่ตายหรอก จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีก คราวหน้ากลับมาจะจัดการให้หมด"

ขณะที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียว่า ขอลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โดยให้เหตุผลว่า การยุบสภาเกิดขึ้นกะทันหัน การกำหนดกระบวนทัศน์เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ดังกล่าวขึ้นใหม่  หรือการปรับปรุงในระยะกระชั้นชิดเช่นนี้ย่อมทำได้ยาก การมอบให้ตนมาทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์จึงเปรียบเสมือนเป็นการเปลี่ยนม้ากลางศึก อาจจะไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่พรรคได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว นอกจากนี้ตนมีส่วนร่วมในการผลักดันจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นการรณรงค์ให้การจัดทำประชามตินี้ผ่านความเห็นชอบของประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียง เป็นภารกิจหนึ่งที่สำคัญของพรรคนอกจากการหาเสียงเลือกตั้ง  ซึ่งอาจจะทำให้ตนมีเวลาในการทำงานให้พรรคน้อยลงในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงขอลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป

ปชป.เปิดแคมเปญหาเสียง

วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนกว่า 30,000 คน ภายใต้คำถามสำคัญที่ว่า “ประเทศไทยจะไม่ทนกับอะไร?” ซึ่งคำตอบที่ได้รับนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขสถิติ แต่คือ “เรื่องราวชีวิตจริง” ที่สะท้อนถึงความหวังและความเจ็บปวดของคนไทยในหลากหลายมิติ อาทิ เสียงจากผู้ปกครองที่ส่งเสียบุตรหลานจนจบการศึกษา แต่ต้องพบกับอุปสรรคในการหางานจากระบบเส้นสาย เสียงจากผู้ประกอบการที่แบกรับต้นทุนแฝงจากการทุจริตเชิงนโยบายและการเรียกรับผลประโยชน์ เสียงจากกลุ่มเปราะบาง เช่นผู้สูงอายุที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี

นายอภิสิทธิ์วิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมาว่า ปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านี้มีรากเหง้ามาจากการทุจริตคอร์รัปชัน และระบบอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาสินค้าเกษตรหรือคุณภาพการศึกษา ทั้งหมดล้วนต้องการการแก้ไขที่ต้นเหตุคือ “จริยธรรมทางการเมือง”

"นักการเมืองต้องร่วมมือกับประชาชน ใช้โอกาสจากการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือสื่อสารว่าเราจะไม่ยอมรับระบบเดิมๆ อีกต่อไป เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเพียงแค่ 'ทนหายใจ' ไปวันๆ แต่ร่วมกันสร้างอนาคตที่มีศักดิ์ศรีและเท่าเทียม" นายอภิสิทธิ์ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 22 ธ.ค. เวลา 10.30 น. นายอภิสิทธิ์จะแถลงข่าวใหญ่เปิดตัวแคมเปญหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์

เช่นเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งเตรียมแถลงเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ และนโยบายชุดแรก ในวันที่ 22 ธ.ค. เวลา 13.00 น. โดยต้องจับตาว่าแคนดิเดตนายกฯ ของ รทสช.ในการเลือกตั้งครั้ง จะมีเพียงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีต รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค คนเดียวหรือไม่ เพราะในการเลือกตั้งปี 2566 มีแคนดิเดตนายกฯ 2 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ กับนายพีระพันธุ์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลั่น‘ไทย’เชื่อตัวเอง อนุทินกร้าวไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม/นย.เสียขารายที่8

“อนุทิน” ลั่นยังไม่ให้ประเทศไหนเข้ามาเป็นคนกลางเจรจา เป็นเรื่องระหว่างไทยกับกัมพูชาโดยตรง ไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม

'ยศชนัน' ลงจากหอคอยพบชาวนา ชูเทคโนโลยีแก้น้ำทั้งระบบ

“ยศชนัน-จุลพันธ์” นำเพื่อไทยยกทัพลุยอยุธยา รับฟังปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก-ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ชูแก้น้ำท่วมทั้งระบบ ระบายน้ำเป็นธรรม ใช้ข้อมูลจริง-เทคโนโลยี-วิศวกรรม วางแผนป้องกัน-เยียวยาครบวงจร