“อนุทิน” ลั่นยังไม่ให้ประเทศไหนเข้ามาเป็นคนกลางเจรจา เป็นเรื่องระหว่างไทยกับกัมพูชาโดยตรง ไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม ยันไม่เกี่ยวกับเลือกตั้งและจะเร่งให้เกิดความสงบเร็วที่สุด "สีหศักดิ์" นำคณะร่วมถกเวที รมต.อาเซียน ย้ำ 3 ข้อกัมพูชาต้องทำตาม "ทภ.2" เผยกวาดล้างพื้นที่จัดตั้งฐานที่มั่นปักธงเนิน 350 ทหารช่าง นย.เหยียบทุ่นระเบิดที่บ้านสามหลัง ข้อเท้าขาดรายที่ 8 เขมรยอมรื้อเขื่อนดักตะกอนยาว 300 เมตรแล้ว นายกฯ เป็นประธานรับร่าง 2 ทหารกล้า “จ่าเริง-พลฯ ภานุพัฒน์” ก่อนโพสต์ "กราบทหารกล้าด้วยสำนึกคารวะในบุญคุณที่ท่านปกป้องรักษาแผ่นดินให้เรา" ชาวประโคนชัยโบกธงชาติรับร่าง "จ่าเริง" อย่างสมเกียรติ
ที่จังหวัดสุรินทร์ วันที่ 21 ธันวาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เปิดเผยโดยให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์อพยพว่า ในด้านการทหารกองทัพไทยทั้ง 3 เหล่าทัพสามารถยึดพื้นที่เป้าหมายที่เคยถูกรุกล้ำกลับคืนมาได้เกือบทั้งหมด และได้ผลักดันฝ่ายตรงข้ามให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ พร้อมเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะรุนแรงเพิ่มเติม ยืนยันจุดยืนของประเทศไทยว่า ไม่เคยเป็นฝ่ายรุกรานหรือคุกคามประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ได้ละเมิดข้อตกลงหรือปฏิญญาใดๆ การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปเพื่อสถาปนาอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ โดยหากต้องการยุติการปะทะ ต้องหยุดยิง หยุดคุกคาม และหยุดการรุกราน รวมถึงการใช้โดรนในพื้นที่ชายแดน
เมื่อถามถึงเรื่องการเจรจา นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มีการให้ประเทศใดเข้ามาเป็นคนกลาง เนื่องจากเป็นเรื่องระหว่างไทยกับกัมพูชาโดยตรง ส่วนการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการอพยพ จะมีการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่เป็นธรรม ครอบคลุมทุกครอบครัว และยืนยันว่าแม้อยู่ในช่วงใกล้การเลือกตั้ง รัฐบาลยังคงมีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน ดูแลประชาชนและป้องกันประเทศ ครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่จะได้รับการดูแลทั้งในเรื่องบำเหน็จ ปูนบำเหน็จ และเงินชดเชยตามระเบียบที่กำหนด
นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในวันจันทร์ที่ 22 ธ.ค.นี้ว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศนำเสนอนโยบายและจุดยืนของประเทศไทยอย่างชัดเจน ยืนยันว่าไทยไม่ได้เป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหรือรุกรานประเทศเพื่อนบ้าน การดำเนินการทั้งหมดเป็นไปเพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ ประเทศไทยยืนอยู่บนหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และต้องการยุติความสูญเสียโดยไม่ให้สถานการณ์บานปลายไปมากกว่านี้
นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในการแถลงร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ว่า ในช่วงเย็นวันที่ 21 ธ.ค. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ จะนำคณะผู้แทนไทยประกอบด้วยผู้แทนระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนระดับสูงของเหล่าทัพ เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีสมัยพิเศษของอาเซียนวันที่ 22 ธ.ค. ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย สะท้อนถึงความพร้อมของฝ่ายไทยที่จะไปพูดคุยหารือกับฝ่ายกัมพูชา และชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงหลักฐานจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อให้กลุ่มประเทศในอาเซียนที่เข้าร่วมประชุมได้รับทราบ
"โดยย้ำว่าประเทศไทยต้องการสันติภาพ และปรารถนาให้เกิดสันติภาพมาโดยตลอด แต่ไม่สามารถที่จะปฏิเสธรูปแบบของการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่เป็นปฏิปักษ์ต่อไทยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และยังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทุ่นระเบิด ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก็เป็นเหตุการณ์ที่ 8 หรือการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ดังนั้นยืนยัน 3 ปัจจัยสำคัญที่ฝ่ายไทยรอฟังจากฝ่ายกัมพูชา คือ 1.ให้ฝ่ายกัมพูชาประกาศหยุดยิง 2.ต้องการให้การหยุดยิงนั้นเกิดขึ้นจริงและต่อเนื่อง 3.ให้ฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจในการร่วมมือกับฝ่ายไทยในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด" รองโฆษก กต.กล่าว
'อันวาร์' ยังจุ้นไม่เลิก
ขณะที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยังคงพยายามที่จะเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยอ้างว่าเพื่อลดความตึงเครียดปมปัญหาชายแดน ล่าสุดโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "...ผมได้มีโอกาสเชื่อมต่อกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และประเทศไทย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหารือเกี่ยวกับหลักสูตรที่ดีที่สุดในการลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่างสองประเทศ ขอย้ำถึงความสำคัญสำหรับกัมพูชา และประเทศไทย เพื่อยึดมั่นในจิตวิญญาณของการสนทนา ภูมิปัญญา และความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะยุติความตึงเครียดและรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่จะจัดขึ้นในวันที่ 22 ธ.ค. เป็นเวทีที่เหมาะสมและสร้างสรรค์ เพื่อให้ทั้งสองประเทศสามารถเจรจาต่อรองได้อย่างเปิดเผย เพื่อแก้ไขความไม่เข้าใจซึ่งกันและกันได้อย่างสันติ และบรรลุทางออกที่เป็นธรรมและยั่งยืน"
เมื่อเวลา 08.00 น. กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ฝ่ายไทยสามารถยึดที่หมายได้สำเร็จ ทำการกวาดล้างพื้นที่และจัดตั้งฐานที่มั่น โดยได้มีการเคลื่อนย้ายร่างทหารที่เสียชีวิต 2 นายออกจากพื้นที่เนิน 350 เพื่อไปประกอบพิธีอย่างสมเกียรติ พื้นที่ช่องกร่างไม่ปรากฏความเคลื่อนไหวที่สำคัญ
กลางดึกวันที่ 21 ธ.ค. 2568 พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เนิน 350 และปราสาทตาควาย เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยหลังหน่วยเฉพาะกิจสามารถเข้าควบคุมพื้นที่และตรวจยึดอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก จากฐานปฏิบัติการทหารกัมพูชาได้สำเร็จ แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งการให้รักษาพื้นที่ที่ยึดได้อย่างมั่นคง ควบคุมสถานการณ์อย่างเด็ดขาด ปกป้องอธิปไตยของชาติไทย
ทั้งนี้ ในเวลา 09.14 น.ได้เกิดเหตุทหารช่างนาวิกโยธินประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิด ขณะปฏิบัติภารกิจจัดทำที่มั่นเสริมความแข็งแรงในพื้นที่บ้านหนองรี ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ จ่าเอก เทอดพงษ์ ผมนะรา โดยเหตุเกิดบริเวณชุมชนที่มีบ้านเรือนประมาณ 3 หลัง ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา ข้อเท้าขาด เจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุ ก่อนเร่งนำตัวส่ง รพ.เพื่อรับการรักษาต่อไป จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุพบว่า เป็นกับระเบิดชนิด PMN-2 สภาพใหม่ ซึ่งถูกนำมาฝังไว้ในเขตอธิปไตยของไทย
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ แถลงประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำของกองทัพกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดพันธกรณีตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (อนุสัญญาออตตาวา) ภายหลังจากกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้เข้าควบคุมและตรวจสอบพื้นที่บ้านหนองรีและบ้านท่าเส้น (กาสิโนทมอดา) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยเข้ายึดครองและใช้เป็นฐานที่มั่นทางทหาร ได้ตรวจพบวัตถุพยานจำนวนมากที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ว่ามีการวางแผนและการกระทำโดยเจตนาในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ได้แก่ การตรวจพบแผนผังแสดงตำแหน่งการฝังทุ่นระเบิดสังหารบุคคลและทุ่นระเบิดดัดแปลง ในพื้นที่บ้านหนองรี ซึ่งสะท้อนถึงการเตรียมการล่วงหน้าเพื่อประสงค์ต่อชีวิตทหารไทย” ส่งผลให้กำลังพลทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลเป็นรายที่ 8 กองทัพเรือจะดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดอย่างเป็นระบบ เพื่อใช้ประกอบการดำเนินการในระดับรัฐต่อไป รวมถึงการแจ้งต่อประชาคมระหว่างประเทศและองค์กรที่เกี่ยวข้อง
กปช.จต.คุมพื้นที่เบ็ดเสร็จ
กปช.จต.โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด (ฉก.นย.ตราด) ปฏิบัติการยกพลขึ้นบกเข้าควบคุมพื้นที่เป้าหมายบริเวณ “ทมอดา” ก่อนประสานกองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ปฏิบัติการทิ้งระเบิดจำนวน 10 ลูก ทำลายอาคารกาสิโนทมอดา รวมถึงอาคารที่พักอาศัยของ พ.ท.ตึม ยอ อดีตหัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนกัมพูชา-ไทย ซึ่งก่อสร้างรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย พื้นที่ปฏิบัติการดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณบ้านท่าเส้น ตำบลแหลมกลัด อ.เมืองตราด ตรงข้ามบ้านซ็องก็อมเมท็ย ต.ทมอดา อ.เวียลเวง จ.โพธิสัต ประเทศกัมพูชา
รายงานข่าวจาก กปช.จต.เปิดเผยว่า หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราดได้เข้าควบคุมพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งจันทบุรีและตราดไว้ได้โดยเบ็ดเสร็จ พร้อมเร่งเสริมฐานที่มั่นให้มีความแข็งแกร่งเพื่อรองรับสถานการณ์ความมั่นคง สืบเนื่องมาจากการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ก่อสร้างเขื่อนดักตะกอนยื่นลงไปในทะเล บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 73 บ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ล่าสุดฝ่ายกัมพูชายอมรับข้อเสนอและเริ่มดำเนินการรื้อถอนเขื่อนดักตะกอนดังกล่าวแล้วตั้งแต่เวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา
พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ได้รับรายงานเมื่อเวลา 14.00 น. ทางกัมพูชามีความพยายามจะยิง BM-21 มายังพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ทำการเร่งอพยพประชาชนในพื้นที่ ยืนยันถึงความโหดร้ายของฝ่ายกัมพูชา ในการโจมตีเป้าหมายพลเรือนและชุมชน จึงขอประณามฝ่ายกัมพูชาที่ไม่เลือกเป้าหมายโจมตี ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นจะต้องตอบโต้ โดยรายละเอียดต่างๆ จะชี้แจงให้ทราบต่อไป
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน จ.สุรินทร์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีส่งศพทหารกล้า จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน และพลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา นักรบสมรภูมิเนิน 350 โดยบรรยากาศภายในพิธีเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของครอบครัวทหารกล้าทั้งสองครอบครัว รวมทั้งมีประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ยืนเข้าแถวโบกธงชาติไทยบริเวณถนนทางออกของ รพ. เพื่อร่วมส่งทหารกล้าทั้งสองนายกลับภูมิลำเนาเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
จากนั้นเวลา 11.05 น. นายอนุทินโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า "กราบทหารกล้าด้วยสำนึกคารวะต่อบุญคุณที่ท่านได้ปกป้องรักษาแผ่นดินให้เรา"
หลังจากนั้น นายอนุทินได้เดินทางไปที่ศูนย์อพยพและพักพิงชั่วคราวแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สุรินทร์ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์และคณะให้การต้อนรับ โดยนายกฯ ได้เดินเข้าไปพูดคุยให้กำลังใจ พร้อมขอบคุณบรรดาเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรวมถึงแม่ครัว ที่ทำหน้าที่ประจำอยู่ที่ศูนย์อพยพ และได้เดินดูวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหารให้กับชาวบ้านที่ศูนย์อพยพ ช่วงหนึ่งนายกฯ บอกกับคณะและสื่อมวลชนว่า “อาหารทุกอย่างดูดี ดูน่ารับประทาน และใช้ของดีทั้งหมด” ก่อนจะเดินไปให้กำลังใจแม่ครัวที่กำลังประกอบอาหารอยู่บริเวณโรงครัวเคลื่อนที่
กัมพูชาโกหกประชาคมโลก
ผู้สื่อข่าวได้ถามนายกฯ ว่า ตอนนี้ครบ 2 สัปดาห์แล้ว ผู้สูงอายุตามศูนย์อพยพเริ่มบ่นคิดถึงบ้านและอยากกลับบ้าน นายกฯ จึงตอบว่า เรายังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต เพราะชายแดนตอนนี้ยังมีการสู้รบตอบโต้กันอยู่ การตอบโต้ของฝั่งตรงข้ามยิงลูกจรวดมาแบบบังคับทิศทางไม่ได้ ไม่รู้จะตกมาจุดไหน เราต้องดำเนินมาตรการไม่ให้ชาวบ้านต้องไปเสี่ยงกับชีวิต หากชาวบ้านอพยพกลับเข้าไปอยู่ที่บ้านตอนนี้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นครอบครัวของกำลังพลด้วย จะทำให้กำลังพลแนวหน้าปฏิบัติภารกิจได้ไม่เต็มที่ต้องคอยเป็นห่วงแนวหลัง
จากนั้นนายกฯ ได้มาเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตรงจุดที่จัดกิจกรรมนันทนาการ นายกฯ ได้มุ่งตรงไปที่กลุ่มของเด็กๆ ที่กำลังวาดรูประบายสี ได้บอกกับกลุ่มเด็กๆ ว่าลุงขอนั่งด้วย ก่อนที่นายกฯ จะนั่งขัดสมาธิและร่วมระบายสีกับเด็กๆ โดยนายกฯ เลือกระบายสีรูปฮัมวีติดปืนกล โดยเน้นระบายสีธงชาติไทยลงไปที่ตัวรถด้วย พร้อมเซ็นลายเซ็นคู่กับเด็กหญิงศุภาวีร์ ถุงทอง หรือน้องเอิร์น ซึ่งนายกฯ ได้เซ็นชื่อตัวเองว่าเด็กชายอนุทิน ชาญวีรกูล พร้อมมอบสมุดที่หน้าปกเซ็นลายเซ็นและเขียนอวยพรว่า ขอมอบให้กับน้องเอิร์นด้วยความรัก
ช่วงหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์อพยพได้สอบถามเด็กๆ ว่า คำขวัญวันเด็กปีนี้มีว่าอย่างไร ซึ่งนายกฯ ได้พูดติดตลกว่า “โอ้โห ถ้าใครจำได้พากลับกรุงเทพฯ เลย" ก่อนจะพูดแซวตัวเองว่า “ลุงยังจำไม่ได้เลย” จากนั้นเด็กๆ ได้พูดคำขวัญวันเด็กปี 2569 พร้อมกันว่า "รักชาติไทยใส่ใจโลก" ทำเอานายกฯ ถึงกับยิ้มชอบใจ
นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกำลังพลนาวิกโยธิน (นย.) เหยียบกับระเบิดที่บริเวณบ้านสามหลัง ชายแดน จ.ตราดว่า ขอให้ถาม รมช.กลาโหม ทุกครั้งเราก็ใช้มาตรการการป้องกันประเทศ กลับกันประเทศกัมพูชาพยายามจะบอกว่าประเทศไทยเป็นฝ่ายไม่ปฏิบัติตาม ก็ชัดเจนแล้ว ซึ่งเราจัดให้มีการประชุมป้องกันสแกมเมอร์ระดับโลก ทั่วโลกก็มาหมด แต่ประเทศกัมพูชาไม่มา แล้วมาบอกว่าเราไม่จริงจังเรื่องการปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งเขาโกหกประชาคมโลกไปแบบนี้เรื่อยๆ แต่ไม่เป็นไร เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนคงเห็นแล้วว่าใครพูดจริงใครโกหก
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนที่ทหารเหยียบกับระเบิดมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว แต่เราไม่ได้รอช้า ตอนนี้ทหารของเราอยู่ระหว่างดำเนินการสถาปนาความมั่นคงในทุกพื้นที่ ซึ่งเราได้เข้ายึดครองพื้นที่ที่เป็นเป้าหมายของเราไว้เกือบหมดแล้ว เหลืออยู่ 1-2 แห่งเท่านั้น เมื่อถามย้ำว่า ตอนนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กรณีกำลังพลเหยียบกับระเบิดเป็นรายที่ 8 แล้ว นายกฯ กล่าวว่า อย่าไปพูดแบบนั้น เชื่อว่าทหารมีวิธีการทางการทหารอย่างเต็มที่ และไม่มีทางปล่อยให้พี่น้องกำลังพลได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตโดยไม่ทำอะไรเลย
จากนั้นเวลา 15.30 น. นายกฯ ได้เดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวไป จ.จันทบุรี เพื่อเข้าเยี่ยมให้กำลังใจนายทหารนาวิกโยธินที่เหยียบกับระเบิด โดยนายอนุทินไปยังโรงพยาบาลพระปกเกล้า จ.จันทบุรี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจจ่าเอกเทอดพงษ์ ผมนะรา ทหารช่างนาวิกโยธินที่เหยียบทุ่นระเบิด โดยนายกฯ ได้พูดคุยกับ จ.อ.เทอดพงศ์ว่า ขอส่งจิตส่งใจให้หายเร็วๆ เพราะเป็นคนบุรีรัมย์เหมือนกัน ขอให้พักผ่อนมากๆ และขอให้คืนนี้ความดันลดลง พร้อมฝากครอบครัวให้ช่วยดูแลด้วย
จากนั้นนายกฯ เปิดเผยถึงการให้กำลังใจทหารที่ได้รับบาดเจ็บว่า เรื่องของกำลังใจได้ให้แก่ทหารทุกคนมาโดยตลอด ให้ทหารทุกคนที่สู้รบปกป้องแผ่นดิน ซึ่งมีทหารบางคนโชคไม่ดีระหว่างปฏิบัติหน้าที่ก็โดนทำร้าย อย่างรายนี้คือขาที่ 8 หากทำแบบนี้แล้วมาบอกให้เลิกแล้วต่อกันก็คงไม่ใช่แล้ว นี่เป็นการละลาบละล้วง ไม่เคารพสิทธิบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศเรา เราต้องทำอะไรให้เขาได้ยินบ้าง
เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนในช่วงนี้เรียบร้อยดีหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะเรียบร้อยได้อย่างไร ถ้าเรียบร้อยคนของเราต้องไม่เป็นอะไร เมื่อเช้านี้ตนก็ต้องไปรับร่างของทหารอีก 2 นาย ที่เสียชีวิตบนเนิน 350 ซึ่งกัมพูชาปล่อยให้ร่างผู้เสียชีวิตต้องตากแดดตากฝนอยู่ตั้ง 3-4 วัน ไม่ยอมให้เราเอาร่างกลับมาเพื่อทำพิธีให้เรียบร้อย แต่เอาร่างผู้เสียชีวิตมาไว้ล่อเป้าเดี๋ยวเข้าไป อย่างนี้มันไม่ใช่วิธีการของคนที่อยากจะมีความสงบ
นายกฯ ลั่นไม่เชื่อประเทศใดแล้ว
"แบบนี้อยากบอกให้นานาชาติได้เห็น ที่โทร.กันมาหาตน คำก็หยุดยิง สองคำก็หยุดยิง ขอให้ประเทศไทยกลับไปทำนั่นทำนี่ ขอให้ประเทศไทยเคารพนั่นเคารพนี่ ดูสิว่ามีใครเคารพประเทศไทยบ้าง นี่คือสิ่งที่ต้องตอกย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ไปบอกคนที่ทำร้ายประเทศไทยเถอะ ไม่ใช่บอกประเทศไทย ประเทศไทยตอนนี้ไม่เชื่อใคร เราเชื่อตัวเอง และเราจะดำเนินการในสิ่งที่เราเห็นว่าเป็นการสมควร"
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ความไม่สงบจะจบก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เราต้องทำให้มันจบเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้อีกแล้ว ทหารและกองทัพจะเร่งดำเนินการสถาปนาอธิปไตยและความมั่นคงในทุกเขตที่เป็นเป้าหมายโดยเร็วที่สุด ไม่ต้องเกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนแล้ว ตอนนี้ต้องรักษาคนไทยต้องรักษาชีวิตของทหารทั้งหลาย ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.30 น. ร่างของ จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน อายุ 38 ปี ที่เสียชีวิตจากการปะทะกับทหารกัมพูชาที่เนิน 350 ต.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้ถูกนำขึ้นรถ GMC ของทหารเดินทางมาถึงที่วัดห้วยปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ท่ามกลางประชาชนที่คอยโบกธงชาติไทยตลอดแนวถนน โดยมีนายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรายุส์ จันทร์เยี่ยม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เดินทางมาร่วมรับร่างในครั้งนี้ด้วย หลังจากนั้นได้มีการรดน้ำศพตามประเพณี
โดยบรรยากาศภายในวัดยังมีข้าราชการหลายหน่วยงาน และประชาชนเดินทางมาร่วมพิธีรดน้ำศพอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะกล่าวถึงความกล้าหาญ ความเสียสละ และความกตัญญูของจ่าเริง
ช่วงเย็น นายปิยะ ปิจนำ ผวจ.บุรีรัมย์ เป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีเชิญพวงมาลาพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ มาวางเรียงอย่างสมเกียรติที่หน้าหีบศพ ภายในศาลาเพื่อแสดงความอาลัยแด่ จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับศพ จ.ส.อ.สำเริงไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยจะมีพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรม รวม 3 คืน ตั้งแต่คืนวันที่ 21-23 ธันวาคม 2568 ส่วนพิธีพระราชทานเพลิงศพกำหนดจัดขึ้นในวันพุธที่ 24 ธ.ค. 2568 ณ เมรุวัดห้วยปอ
ด้านนางเอี่ยม คลังประโคน อายุ 79 ปี มารดาของ จ.ส.อ.สำเริง กล่าวว่า ขอบคุณคนไทยทุกคนที่ไม่ทิ้งกัน ถึงแม้จะสละชีวิตไปแล้ว แต่ก็ยังมาให้กำลังใจวีรบุรุษ รู้สึกภาคภูมิใจกับการจัดพิธีอันทรงเกียรติให้ลูกชาย ก็มีทั้งเสียใจและภูมิใจ แต่อะไรจะเท่าชีวิตลูกคงไม่มีอีกแล้ว ถ้าชาติหน้ามีจริงก็ขอให้มาเป็นลูกของแม่อีก ตอนนี้คิดถึงลูกมาก ยังทำใจไม่ได้ที่สูญเสียลูก ตอนนี้เห็นทหารทุกคนก็เหมือนลูกของเรา ทำใจยากเหลือเกิน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พสกนิกรซาบซึ้ง ‘พระพันปีหลวง’ ทรงให้ไร้ข้อแม้!
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
จับตาสว.เคาะ2ป.ป.ช. ผุดกมธ.คุ้ยชีวิต2กกต.
จับตาสภาสูงโหวต 2 ป.ป.ช.ใหม่พุธนี้ วัดใจ สว.สีน้ำเงินให้ผ่านหรือตีตกสองบิ๊กตุลาการ
คนกรุงเทพฯเอือม‘พท.’ ปชน.แชมป์โพลต่อเนื่อง
คนกรุงเอือมเพื่อไทยชัดเจน นิด้าโพลเผย “จุลพันธ์” ติดโผนายกฯ อันดับ 5
เพื่อไทยโวปักธง‘สุพรรณบุรี’
"ยศชนัน" นำทัพเพื่อไทยประเดิมหาเสียง "อยุธยา-สุพรรณฯ" ประกาศปักธงไม่สนบ้านใหญ่
พท.ผวา ‘มันนีโพลิติกส์’
พรรคประชาชนเดินหน้าฝันแลนด์สไลด์ได้ สส. 250 ที่นั่ง จัดตั้งรัฐบาลประชาชน ดูจากตัวเลขผู้บริจาคให้พรรคมากกว่าแสนคน ขณะที่เพื่อไทยต้อนรับทีมสุวัจน์
ยึดเนิน350ได้แล้ว! ร่าง2ทหารกล้ากลับมาตุภูมิ/ส่งสัญญาณเตือนชนชั้นนำเขมร
ข่าวดี! ทหารไทยควบคุมเนิน 350 ได้แล้ว อยู่ระหว่างการสถาปนาความมั่นคง นำร่าง 2 วีรบุรุษกลับมาตุภูมิ ขณะที่กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ ตรวจพบการปะทะเป็นระยะ

