ยํ้า8ก.พ.จัดเลือกตั้ง รวม‘7จว.ชายแดน’

เลขาฯ กกต.ยืนยันเลือกตั้ง 8 ก.พ.  วันเดียวทั่วประเทศ แม้ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด วางแผนแบ่งโซนสีจัดเลือกตั้ง หน่วยไหนกระทบเลื่อนลงคะแนนหน่วยนั้น ประกาศราชกิจจาฯ แนวทางจัดเลือกตั้ง สส.ในเขต 7 จังหวัดสู้รบ สั่งตั้งหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่ปลอดภัย ให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกประชาชนในศูนย์อพยพลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต  พร้อมจัดรถรับ-ส่งพาหย่อนบัตร

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2568 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  กล่าวถึงการออกแนวทางการเลือกตั้งในจังหวัดที่อยู่ติดกับชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบว่า  ได้มีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว  เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ชายแดนยังไม่เรียบร้อย เราจึงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถจัดการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ให้ได้ เพื่อจัดการเลือกตั้งในวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร ถึงแม้เราจะเตรียมความพร้อมในส่วนของเจ้าหน้าที่กกต.และเครือข่ายไปแล้ว ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และพรรคการเมืองด้วย ว่าหากเกิดสถานการณ์เช่นนี้เราจะเดินไปด้วยกันอย่างไร เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย 

ทั้งนี้ เราก็ต้องออกระเบียบให้เป็นไปตามเงื่อนไขกฎหมายที่กำหนดไว้ ทั้งการติดป้ายประกาศหาเสียง การทำหนังสือแจ้งเจ้าบ้าน ซึ่งจะต้องทำให้ครบ ในส่วนของรูปแบบการเลือกตั้งกฎหมายได้ให้หลายวิธีการ เช่น พื้นที่สีขาว เป็นพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา ก็เลือกตั้งไปตามปกติ พื้นที่สีเหลือง เป็นพื้นที่ที่มีผู้อพยพแต่มีจำนวนไม่มาก ก็อาจจะตั้งหน่วยเลือกตั้งใหม่นอกหน่วยเลือกตั้งเดิมแต่อยู่ในเขตเลือกตั้งนั้น ซึ่งประชาชนเดินทางสะดวก และสุดท้ายพื้นที่สีแดง ถ้าเลือกตั้งไม่ได้จริงๆ ก็จะใช้ตามมาตรา 102 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.เลื่อนไปเฉพาะหน่วยเลือกตั้งนั้น เช่น เกิดพายุ อุทกภัย ถ้าทำแบบนี้ก็จะทำให้การเลือกตั้งเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักรและไม่กระทบใคร แต่ถ้าประชาชนอยู่นอกพื้นที่มากกว่า 75% ก็อาจจะต้องรณรงค์ให้ประชาชนลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า แล้วออกมาใช้สิทธิในที่ 1 ก.พ.2569 ซึ่งทั้งหมดเราทำตามกฎหมาย และกฎหมายให้ช่องทางให้หมดแล้ว เพียงแต่ว่าเราจะเลือกรูปแบบไหนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในวันนั้น

"ทำทุกอย่างให้เป็นปกติตามที่กฎหมายได้ให้อำนาจ ซึ่งเราก็ทำให้เป็นหน่วยปกติไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เราก็ไม่อยากอธิบายว่าทำไมเราต้องทำแบบนั้นแบบนี้ เพราะบางครั้งคนอาจจะไม่เข้าใจ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าถ้าผู้มีสิทธิเลือกตั้งอยู่ในหน่วยเกิน 75% เราก็จะเลือกตั้งตามปกติ ซึ่งหน่วยจำนวนไม่มาก เราก็ต้องดูจากวันที่ 11 ม.ค.2569 ที่จะมีการเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ก่อน เนื่องจากมีกว่า 51 อบต.ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปะทะชายแดน ซึ่งเราจะขอประเมินสถานการณ์ก่อน ส่วนจะมีการจัดรถรับ-ส่งให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถไปใช้สิทธิถึงหน้าหน่วยนั้น เรื่องนี้เป็นการอำนวยความสะดวกซึ่งจะเป็นรถของสำนักงาน กกต.เอง"

เมื่อถามว่า มีการทำแผนรับมือในพื้นที่ที่ยังมีเหตุปะทะกันอย่างไร เลขาฯ กกต.ตอบว่า คุยกับ ผอ.กกต.จังหวัด โดย ผอ.กกต.จังหวัด และได้คุยกับฝ่ายมั่นคงในจังหวัด ซึ่งก็มีการประเมินอยู่ทุกวัน โดยฝ่ายความมั่นคงก็ให้ความสนใจในกระบวนการเลือกตั้ง อยากให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถ้าเราจะเลื่อนวันลงคะแนนเราก็ทำได้เลย ถ้าเกิดเหตุเหมือนกับการเลือกตั้งซ่อม สส.ที่ศรีสะเกษ

ซักว่าถ้าสถานการณ์การสู้รบยังเป็นแบบนี้อยู่ เรายังไม่ต้องมีการเลื่อนเลือกตั้งจากวันที่ 8 ก.พ.2569 ออกไปใช่หรือไม่ นายแสวงยืนยันว่า  เป็นวันที่ 8 ก.พ.2569 อยู่แล้ว แต่ถ้าเลื่อนเหมือนตอนที่เจอพายุหรือเหตุจำเป็น แบบนั้นสามารถเลื่อนในวันเลือกตั้งได้เลย หรือถ้ามีเหตุปะทะกันในพื้นที่ไหนหน่วยไหน ถ้าเลือกไม่ได้ก็จะเลื่อนหน่วยนั้น

วันเดียวกันนี้ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องแนวทางดำเนินการการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งที่มีสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

สาระสำคัญกำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำเขตเลือกตั้งและผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งในจังหวัดจันทบุรี ตราด บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สระแก้ว สุรินทร์ และอุบลราชธานี ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง โดย

1.การปิดประกาศ หรือระเบียบตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อได้ปิดประกาศ ณ ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง หรือสถานที่ที่ประชาชนสะดวกในการตรวจสอบแล้ว ให้ดำเนินการประกาศ ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือระบบหรือวิธีการอื่นใดที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถเข้าถึงได้โดยสะดวกด้วย หากไม่สามารถปิดประกาศ ณ ที่เลือกตั้งหรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง หรือสถานที่ที่ประชาชนสะดวกในการตรวจสอบได้ ให้ถือว่าการประกาศในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือระบบหรือวิธีการอื่นใด เป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว

2.กรณีจัดส่งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในทะเบียนบ้านพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ไปยังเจ้าบ้านในเบื้องต้น ให้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด หากไม่สามารถจัดส่งได้ ให้รายงานให้ กกต.ทราบ และให้เก็บรักษาเอกสารดังกล่าวไว้ในที่ปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดลง แล้วจึงจัดส่ง เอกสารดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

3.จัดให้มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อยู่ในศูนย์อพยพลงทะเบียน ขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้ง ภายในระยะเวลา ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กำหนดวัน และเวลายื่นคำขอลงทะเบียนใช้สิทธิออกเสียง ลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง โดยขอความร่วมมือให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนน ก่อนวันเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้งที่มีความปลอดภัยและอยู่ใกล้เคียงกับเขตเลือกตั้ง ที่เกิดสถานการณ์ความไม่สงบ และในวันออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งให้ประสานหน่วยงานของรัฐ จัดพาหนะรับ-ส่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลาง นอกเขตเลือกตั้งดังกล่าวด้วย

4.การจัดหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้งที่อยู่ในเขตเลือกตั้ง หากยังมีสถานการณ์ความไม่สงบ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งพิจารณาเปลี่ยนแปลงเขตของหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้ง ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งสามารถเดินทางได้สะดวกและปลอดภัย โดยหน่วยเลือกตั้ง และที่เลือกตั้งดังกล่าวต้องอยู่ในเขตเลือกตั้ง ตามมาตรา 30 วรรคสาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

5.ภายใน 7วัน นับแต่วันเลือกตั้ง ให้ประสานนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือผู้มีสิทธิเลือกตั้งในศูนย์อพยพที่ไม่ได้ ไปใช้สิทธิเลือกตั้งลงทะเบียนแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วย

กกต.สรุปยอดจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้งและนอกราชอาณาจักร รวม 6 วันของการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 20-25 ธันวาคม 2568 รวมจำนวน 526,639 คน พบว่ามีผู้ขอลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง จำนวน 1,226 คน มีผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจำนวน 482,460 คน และมีผู้ขอลงคะแนนออกเสียงนอกราชอาณาจักรจำนวน 42,953 คน

สำหรับการเปิดให้ประชาชนที่มีกิจธุระจำเป็นไม่สามารถไปออกเสียงเลือกตั้งในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ หรือประชาชนที่อยู่นอกราชอาณาจักร รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ไปปฏิบัติการในวันเลือกตั้งสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2568-5 มกราคม 2569.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'แสวง' ยันเลือกตั้ง 8 ก.พ. วันเดียวทั่วประเทศ อาจเลื่อนเฉพาะหน่วยที่ยังเป็นพื้นที่สีแดง

"แสวง" ยืนยันเลือกตั้ง 8 ก.พ. วันเดียวทั่วประเทศ แม้ชายแดนไทย–กัมพูชายังตึงเครียด วางแผนแบ่งโซนสีจัดเลือกตั้ง หน่วยไหนกระทบเลื่อนลงคะแนนหน่วยนั้น พร้อมประสานฝ่ายมั่นคงประเมินสถานการณ์รายวัน เลงใช้เลือกตั้งอบต.ในพื้นที่สู้รบเป็นโมเดล

'จาตุรนต์' ห่วงปชช.ไม่รู้ออกเสียงประชามติพร้อมวันเลือกตั้ง หวั่นไม่ผ่านเสี่ยงแก้ใหม่ได้ยาก

'จาตุรนต์' ห่วง ประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้ออกเสียงประชามติพร้อมวันเลือกตั้ง อัด กกต. เฉื่อย-เนือยไม่ให้ข้อมูล หวั่น ไม่ผ่านเสี่ยงแก้ใหม่ได้ยาก ยันพรรคการเมืองเดินหน้ารณรงค์ให้ความรู้ได้ ไม่ห้ามชี้นำ เชื่อหากเป็นเกมการเมืองอาจมีคนไปกระซิบไม่ให้คนสนใจ เตรียมทำชุดข้อมูลให้ผู้สมัคร สส.เพื่อไทย ให้ความรู้ประชาชน