ฝัน260เสียงหนุนตู่ ธรรมนัสเมินร่วมครม./บิ๊กป้อมเงิบ‘สาธิต’ปาด‘ไพบูลย์’

“บิ๊กป้อม” หน้าหงาย    ประธาน กมธ.วิสามัญแก้ไข 2 กฎหมายลูกพลิก! ที่ประชุมเลือก “สาธิต” ปาดหน้า “ไพบูลย์” เจ้าตัวชี้ไม่ใช่การเมืองเพราะต้องทำให้เป็นธรรมทุกฝ่าย “ธรรมนัส” ควง “ดิว อริสรา” ลงพื้นที่คลองเตย เผยไม่มีทางร่วมสังฆกรรมเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลลุงตู่แน่ เย้ย 260 เสียงสงสัยฝันไป “ประยุทธ์” หงุดหงิดบอกไม่มีปรับ ครม. “พี่ป้อม” ยันเสียงหนุนรัฐบาลไม่นับเศรษฐกิจไทยอยู่แล้ว แต่เชื่อไม่หักกัน

เมื่อวันอังคารที่ 1 มีนาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ..... และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่...) พ.ศ..

... ว่าควรเป็นฝ่ายรัฐบาล โดยพรรค พปชร.จะส่งนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. ซึ่งน่าจะทำหน้าที่ได้ดี

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรปฏิเสธจะตอบคำถามถึงท่าทีฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยที่จะให้นายไพบูลย์นั่งเป็นประธาน กมธ.

และในเวลา 10.30 น. ในการประชุม กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป. 2 ฉบับครั้งแรก มีนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว.ทำหน้าที่ประธานชั่วคราวในการประชุม เพื่อคัดเลือกตำแหน่งประธาน กมธ.และตำแหน่งอื่นๆ ซึ่งในส่วนการคัดเลือกประธาน กมธ.นั้น นายสมชาย แสวงการ ส.ว. ได้เสนอชื่อนายไพบูลย์ ขณะที่นายเกษมสันต์ มีทิพย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เสนอชื่อนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ซึ่งที่ประชุมมีมติ 22 ต่อ 21 เสียง เลือกนายสาธิตเป็นประธาน กมธ.วิสามัญฯ ก่อนที่จะเลือกรองประธาน กมธ. 8 คน กมธ.และที่ปรึกษา 10 คน โฆษก กมธ. 7 คน โดยเลขานุการคณะ กมธ. คือนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และนายจักรพันธ์ พรนิมิตร ส.ส.กทม. พรรค พปชร. เป็นผู้ช่วยเลขานุการ กมธ.

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว. ในฐานะโฆษก กมธ.วิสามัญฯ แถลงภายหลังการประชุมนัดแรกว่า คณะ กมธ.จะประชุมให้เสร็จสิ้นภายในช่วงปิดสมัยประชุม และเมื่อเปิดประชุมสมัยหน้าในเดือน พ.ค. จะนำร่างที่พิจารณาเสร็จแล้วนำเสนอต่อที่รัฐสภา โดยจะประชุมทุกวันพุธ เวลา 10.30 น. และวันพฤหัสบดี เวลา 09.30 น. โดยจะเริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้า    ขณะที่นายสาธิตกล่าวภายหลังได้รับเลือกเป็นประธานคณะ กมธ.ว่า เป็นเรื่องภายใน กมธ. ที่เขาจะใช้สิทธิพิจารณา โดยหลักทั่วไปวิปรัฐบาลต้องตกลงว่าจะเสนอใคร เพียงแต่ว่าวันนี้มีการโหวตเลือกประธาน ซึ่งตนติดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงเป็นเรื่องของ กมธ. หากตัดสินไม่ได้ก็โหวตตัดสิน ส่วนกรณีนายไพบูลย์ไม่ได้รับเลือก แม้เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะกระทบการทำงานหรือไม่นั้น คิดว่าใน กมธ.เองต้องใช้สติ และวุฒิภาวะทำงานร่วมกัน  โดยเฉพาะ กมธ.ชุดนี้ที่มีความพิเศษที่จะกำหนดกติกาการเลือกตั้ง และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย คงไม่มีฝ่ายค้านและรัฐบาล ฉะนั้นทุกฝ่ายต้องเห็นพ้องต้องกันและทำงานร่วมกัน

  เมื่อถามว่า ทราบเมื่อไหร่ว่าได้ถูกเสนอชื่อเป็นประธาน กมธ. นายสาธิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ หากจำไม่ผิดคือ พรรค ก.ก. โทรศัพท์มาทาบทาม ก็ไม่เชิงปฏิเสธ เพราะเป็นเรื่องของ กมธ.ที่ต้องพูดคุยกัน และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ก็แนะนำไม่ให้ไปร่วมประชุมวันนี้ เพราะหากรัฐมนตรีไป กมธ.จะให้เกียรติเป็นประธาน ก็เลยไม่ไป ซึ่งไม่ทราบว่ามีการเสนอชื่อ แต่เมื่อเสนอและโหวตชนะ จึงได้โทร.มาแจ้ง เพื่อให้ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ประธานหรือไม่ ก็ยืนยันไปว่าพร้อมทำหน้าที่เพื่อไปดูกฎหมายเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ปัดการเมืองเลือกประธาน กมธ.

ถามอีกว่า กรณีที่พรรค ก.ก.เสนอชื่อคนพรรค ปชป. ถือเป็นเกมการเมืองระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ นายสาธิตกล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้เสนอตัว และไม่รู้เรื่อง อย่าไปแบ่งฝ่าย เพราะกติกาเมื่อร่างมาแล้วก็ถูกใช้ด้วยความเป็นธรรม และยอมรับกับทุกฝ่าย ส่วนที่พรรคก้าวไกลเสนอตัวเอง เพราะส่วนหนึ่งเป็นเพราะคุณสมบัติส่วนตัว ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการปาดหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพราะหากต้องการปาดหน้าใครต้องเข้าร่วมประชุมแล้ว ดังนั้น เมื่อ กมธ.ให้เกียรติมาแล้ว ก็ยืนยันว่าจะทำหน้าที่

"ผมเข้าใจหลักการทั่วไป แต่ก็ต้องเคารพ กมธ.เหมือนกัน เมื่อผ่านขั้นตอนวิปรัฐบาลแล้ว ถ้าเสนอชื่อใน กมธ.ได้ก็จบ แต่กรณีนี้มีการเสนอชื่อสองคนก็นำไปสู่การโหวตเลือก ผมก็ปฏิเสธไม่ได้" นายสาธิตกล่าว และว่า ยังไม่ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร แต่ได้คุยกับนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ แล้ว ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป.ก็ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตรแล้วเราก็เข้าใจ และขอให้เป็นเรื่องในกลไกของ กมธ.   

พล.อ.ประวิตรกล่าวหลังรับทราบว่าการโหวตของ กมธ.ที่เลือกนายสาธิตเป็นประธาน กมธ. ว่าเป็นเรื่องของสภา เขาอยากได้รัฐมนตรี ไม่ใช่การผิดพลาดเรื่องเสียง

มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า หลังการประชุม ครม.เสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ได้หารือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลวงเล็กในห้องรับรอง หรือห้องสีเหลือง โดยใช้เวลาหารือกันนานประมาณ 15 นาที ซึ่งการหารือครั้งนี้เป็นความต้องการของ พล.อ.ประวิตร ที่ต้องการพูดคุยเกี่ยวกับการเลือกตั้งตำแหน่งต่างๆ ใน กมธ.วิสามัญฯ โดยได้สอบถามว่าเกิดข้อผิดพลาดอะไรอย่างไร ทำไมประธาน กมธ.จึงเป็นนายสาธิต ทั้งที่พรรค พปชร.เสนอชื่อนายไพบูลย์ ทำให้ทุกคนต่างช่วยกันหาเหตุผล ซึ่งหนึ่งในวงหารือระบุว่าผู้เสนอชื่อนายสาธิตเป็นคนของพรรค ภท. ทำให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท.ชี้แจงขึ้นว่า “ไม่มีใครประสานใดๆ มาเลย ผมไม่รู้เรื่อง”

วันเดียวกัน ยังคงมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองในส่วนต่างๆ โดย​ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) พร้อม ส.ส.และสมาชิกพรรค ลงพื้นที่ชุมชนการเคหะท่าเรือ คลองเตย ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกหลังถูกขับออกจากพรรค พปชร. เพื่อมอบถุงยังชีพให้ประชาชนในสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 โดยมี น.ส.อริสรา ทองบริสุทธิ์ หรือดิว อริสรา ดารานักแสดงร่วมลงพื้นที่ และมีการคาดการณ์ว่าดิว อริสรา อาจมาหน้าที่เป็นโฆษกพรรคในอนาคต

ทั้งนี้ น.ส.อริสรากล่าวถึงการมาร่วมกิจกรรมว่า ที่ผ่านมามีกิจกรรมอะไรที่สามารถทำได้ในช่วงสถานการณ์โควิดก็ทำมาตลอด ส่วนอนาคตจะก้าวเข้ามาสู่งานการเมืองหรือมาเป็นโฆษกพรรค ศท.หรือไม่ ให้เป็นเรื่องของอนาคต ไม่อยากให้คนมองว่าการเข้ามาทำกิจกรรมตรงนี้เพื่อเป้าหมายอะไร แต่อยากให้มองว่า เป็นการเห็นใจกันและกันมากกว่า

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวถึงการจัดประชุมใหญ่พรรคว่า จะจัดช่วงสิ้นเดือน มี.ค.นี้ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค โดย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้เป็นสมาชิกพรรคแล้ว ซึ่งจะเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรค ส่วนการส่งผู้สมัคร ส.ส.นั้น จะเน้นคัดเลือกผู้สมัครที่สังคมแต่ละจังหวัดให้การยอมรับ และต้องเป็นคนที่อยากเป็นผู้แทนของราษฎร ส่วนจะได้กี่เก้าอี้ มั่นใจว่า ส.ส.ทั้ง 18 คนเป็น ส.ส.น้ำดี และจะได้กลับมาเป็นผู้แทนฯ ครบทุกคน ส่วนพื้นที่อื่นเราก็คาดว่าจะชนะการเลือกตั้งได้มากพอสมควร

 “แคนดิเดตนายกฯ มีความพร้อมจะเปิดตัว แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเสนอใคร ซึ่งเคยบอกสเปกไปแล้วว่าจะต้องมีเคมีที่เข้ากันกับผมได้ และจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อปากท้องของประชาชนได้”

'ธรรมนัส' อัดฝัน 260 เสียง

เมื่อถามถึงจุดยืนทำงานของพรรค ร.อ.ธรรมนัส​กล่าวว่า เป็นพรรคอิสระที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ลงมติต่างๆ เรายึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก สิ่งไหนที่รัฐบาลเสนอและเป็นประโยชน์ เราก็พร้อมสนับสนุน แต่เรื่องไหนที่ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชนเราไม่เห็นด้วย ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสมัยประชุมหน้าจะยืนอยู่ข้าง พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่นั้น เราประกาศชัดเจนว่าเราจะยืนอยู่ฝ่ายประชาชน หากรัฐมนตรีคนใดที่ถูกอภิปรายและมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าทำให้บ้านเมืองเสียหาย เราโหวตสวนแน่นอน เพราะไม่เห็นด้วยที่จะให้ทำหน้าที่ต่อ ดังนั้นจะพิจารณาเป็นรายกรณีไป 

ถามถึงตัวเลข 260 เสียงที่จะหนุน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่รวมพรรคเศรษฐกิจไทยใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า “260 เสียง ฝันไปหรือเปล่า ผมไม่ได้ว่าใคร แต่เอาตัวเลขมาจากไหน ใครๆ ก็นับมือได้ แต่ไม่มีพรรคเศรษฐกิจไทยอยู่ในนั้นแน่นอน”

ร.อ.ธรรมนัสยอมรับว่า ตั้งแต่ออกมาจากพรรค พปชร. ยังไม่ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตรและคนอื่น เพราะเดินสายลงพื้นที่ต่างจังหวัดตลอด ส่วนรัฐบาลจะอยู่ยาวถึงปีหน้าหรือไม่ ตอบไม่ได้ เพราะในทางการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน

สอบถามถึงโควตารัฐมนตรีของพรรคในการปรับ ครม.จะต้องได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสระบุว่า ไม่เอา เราไม่เอาตำแหน่งอะไรทั้งนั้น ไม่ได้ใส่ใจเรื่องตำแหน่งหน้าที่ในคณะชุดนี้ ส่วนจะรับตำแหน่งใน ครม.ชุดหน้าหรือไม่ ค่อยว่ากัน แต่ในรัฐบาลชุดนี้ไม่

เมื่อถามว่า ถ้ารัฐบาลต่อไปยังเป็น พล.อ.ประยุทธ์จะพิจารณาหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า "พรรคผมก็ต้องเสนอคนของผมเป็นนายกฯ สิครับ จะเป็นใครเดี๋ยวค่อยดูอีกที"

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า มีการหารือหลายเรื่องที่เป็นเรื่องความก้าวหน้า เรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ต่อประเทศไทย ต่อสังคมในการทำงานในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล หลายเรื่องที่เป็นปัญหาอยู่ ฉะนั้นปัญหาอะไรที่มันไม่เกี่ยวข้องกันก็ให้ลดๆ ลงไปเสียบ้าง ก็ต้องขอร้องกันแค่นั้น

พล.อ.ประยุทธ์ยังตอบคำถามถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัสประกาศไม่ขอรับตำแหน่งรัฐมนตรีกับรัฐบาลชุดนี้ แสดงว่าหลังจากนี้จะไม่มีการปรับ ครม.แล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ย้อนถามด้วยน้ำเสียงดุดันว่า "ใครจะปรับเหรอ คุณจะปรับเหรอ ไม่ได้ปรับอะไรทั้งนั้น"

เมื่อถามว่า สบายใจหรือไม่ที่ ร.อ.ธรรมนัสประกาศเช่นนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า "ไม่ตอบ" ก่อนเดินขึ้นไปยังห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที

ขณะที่ พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัสระบุ 260 เสียงที่นายอนุทินบอกว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ร่วมเสียงพรรคเศรษฐกิจไทย ว่าตอนที่นายอนุทินพูดเขารวมพรรคเศรษฐกิจไทยด้วยหรือไม่

เมื่อถามว่า การที่ ร.อ.ธรรมนัส บอกว่าจะไม่สนับสนุนนายกฯ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เขายังสนับสนุนเหมือนเดิม แต่ที่ไปถามว่า 260 เสียงนั้น นายอนุทินพูดร่วมถึงพรรคเศรษฐกิจไทยหรือไม่ และเมื่อถามว่าหากถึงเวลาต้องโหวตคิดว่าพรรคเศรษฐกิจไทยยังสนับหนุน พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังสนับสนุน แต่ก็ให้เขาเป็นอิสระ

เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัสระบุพร้อมที่จะโหวตสวนกับอะไรที่ทำให้เกิดการเสียหาย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “อ่อ ถ้าทำเสียหายก็ทำเสียหายสิ แต่เขาสนับสนุน”  เมื่อถามว่าสิ่งที่ ร.อ.ธรรมนัสพูดดูเหมือนย้อนแย้ง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า สื่อคิดไปเอง

เมื่อถามว่า การที่พรรคเศรษฐกิจไทยจะเปิดชื่อแคนดิเดตนายกฯ จะมีชื่อ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่มีอยู่แล้ว ไม่มีชื่อผมอยู่แล้ว”

อัดปูอย่าพูดสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้

นายอนุทินกล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัสระบุว่า 260 เสียงไม่มีพรรคเศรษฐกิจไทย  ว่ากระแสข่าวที่บอกว่ามี 260 เสียงเพื่อหนุนนายกฯ นั้น เป็นสิ่งที่ผู้สื่อข่าวพูดกันใช่หรือไม่ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยมี ส.ส.อยู่ 62 คน ที่เหลือพรรคร่วมรัฐบาลอื่นก็ต้องไปนับกันเอาเอง พรรคใครพรรคมัน แต่ยังมั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยมีเสถียรภาพแน่นอน โดยหัวหน้าพรรคแต่ละพรรคร่วมรัฐบาลต้องไปดูแลรับผิดชอบให้เกิดเสถียรภาพสูงสุด หัวหน้าพรรค ก. จะไปสั่งหัวหน้าพรรค ข. ได้อย่างไร ต่างคนต่างต้องรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง พรรคร่วมรัฐบาลยังทำงานร่วมกันด้วยดี และใน ครม.ก็ทำงานอย่างสามัคคี

ส่วนนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ยินดีจะคุยหรือไม่หากพบหน้า ว่ายืนยันว่านายกฯ ยินดีและพร้อมพูดคุยกับทุกคน ทุกฝ่ายอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา เพราะทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ แต่ฝากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์คิดด้วยว่า ผู้ที่มีคดีติดตัวทุกคนควรกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตัวเองหรือไม่ หากยังคิดว่าประเทศไทยคือบ้านเกิดเมืองนอน ทางที่ดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ควรกล้ากลับมารับผิดชอบความผิดที่ตัวเองทำไว้กับประเทศเสียก่อน แล้วค่อยมาท้าทายคนอื่นว่ากล้าหรือไม่จะดีกว่า เพราะคนที่เป็นถึงอดีตนายกฯ นั้น ไม่ควรจะพูดในสิ่งที่แม้แต่ตัวเองก็ยังทำไม่ได้

ที่พรรค พปชร. พล.อ.ประวิตรได้เดินทางเข้าที่ทำการพรรค โดยได้เรียกประชุม ส.ส.ของพรรคที่ห้องทำงาน และก่อนเดินทางกลับ พล.อ.ประวิตรไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ทำเพียงยกนิ้วชี้มาบริเวณปากแสดงสัญลักษณ์ว่าไม่ให้สัมภาษณ์ 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการพรรค กล่าวถึงการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2565 ว่า น่าจะมีขึ้นช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ ที่นครราชสีมา เพราะมี ส.ส.เยอะมาก 16 เขต

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค กล่าวเสริมว่า​ การประชุมครั้งนี้จะเป็นการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคที่ขาดหายไป ส่วนจะมีการพูดถึงประธานยุทธศาสตร์พรรคคนใหม่แทน พล.อ.วิชญ์หรือไม่นั้น ยังไม่มีการพิจารณากัน และหัวหน้าพรรคยังไม่ได้พูดถึงใครที่จะมาดำรงตำแหน่งแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเรียก ส.ส.เข้าพบครั้งนี้​ พล.อ.ประวิตร​ได้ให้นโยบาย​ ส.ส.และกำชับให้ลงพื้นที่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภา​ 3​ เดือนนี้อย่างเต็มที่​ รวมทั้งยังได้พูดถึงการพิจารณากฎหมายลูก 2 ฉบับ ว่าเป็นเรื่องของสภา และไม่ได้ติดใจประเด็นที่นายไพบูลย์ไม่ได้รับเลือกเป็นประธาน กมธ.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประกาศลดบทบาทการทำหน้าที่ว่า ไม่ขอตอบ เพราะเป็นงานที่จะดำเนินการภายในพรรค ซึ่ง ปชป.ก็เหมือนทุกพรรคการเมือง ที่ไม่มีพรรคไหนราบรื่นร้อยเปอร์เซ็นต์ ย่อมต้องมีปัญหาอุปสรรคบ้าง แต่โดยหลักใหญ่แล้วทุกพรรคต้องเดินหน้าแก้ปัญหาภายในพรรคที่มี.     

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง