ผู้ป่วยเหมืองทองชงข้อมูลฝ่ายค้าน ใช้ซักฟอก 'ชลน่าน' โทษ 'ประยุทธ์' ใช้กม.พิเศษปิดเหมือง

เครือข่ายผู้ป่วยเหมืองทองร้อง'เพื่อไทย'ชงข้อมูลใช้ซักฟอก ยันชาวบ้านได้รับผลกระทบ จี้ให้เพิกถอนการต่ออายุประทาน-ระงับการเปิดพื้นที่สัมปทานแปลงใหม่ 'ชลน่าน'โทษ'ประยุทธ์'ใช้กฎหมายพิเศษปิดเหมือง

11 มี.ค.2564- ที่พรรคเพื่อไทย(พท.) พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลและน.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค พท.ร่วมรับหนังสือร้องเรียนจากเครือข่ายผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่ทองคำพิจิตร-เพชรบูรณ์ กว่า 30 คน

น.ส.พรีมสินี สินทรธรรมทัช ผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ตัวแทนจากเครือข่ายฯ กล่าวว่า ได้นำข้อมูลของผลกระทบด้านสุขภาพและด้านอื่นๆ ที่เกิดขึ้นกับประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รอบบริเวณเหมืองทองคิงส์เกตมาให้กับพรรคฝ่ายค้าน เพื่อนำไปใช้ประกอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน พ.ค.นี้ และให้หาทางช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ เพราะตั้งแต่มีการเปิดเหมืองทองในปี 2544 ก่อนที่จะมีคำสั่งให้หยุดการทำเหมืองในวันที่ 1 ม.ค. 2560 ชาวบ้านที่อาศัยอยู่โดยรอบของพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมือง ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ วิถีชีวิตและการประกอบอาชีพ และผลกระทบจากการต่อสู้ดำเนินคดี ซึ่งปัญหาเหล่านี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยเมื่อเดือน พ.ค.57 ตนและชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบเหมืองได้ยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักนายกฯ จนส่งผลให้มีการส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างทั้งปัสสาวะ เลือด น้ำและดิน ซึ่งรพ.รามาธิบดีรายงานผลการตรวจด้านสุขภาพของประชาชนในพื้นที่รอบเหมืองแร่ทองคำ 731 คน พบโลหะหนักในร่างกายเกินค่าปกติ 401 ราย นอกจากนี้ชาวบ้านยังตรวจเลือดอีกหลายครั้ง ซึ่งผลการตรวจเลือดยังพบโลหะหนักค่าเกินปกติในร่างกายเช่นเดิม

น.ส.พรีมสินี กล่าวว่า เครือข่ายฯ ขอเรียกร้องให้เพิกถอนการต่ออายุประทานบัตรเหมืองและใบประกอบโลหกรรม รวมถึงระงับการเปิดพื้นที่สัมปทานแปลงใหม่เอาไว้ก่อน จนกว่าจะให้มีการจัดทำการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและสุขภาพ (EHIA) ทั้งในส่วนของเหมืองแร่ โรงประกอบโลหกรรม รวมถึงระงับการเปิดพื้นที่สัมปทานแปลงใหม่เอาไว้ก่อน จนกว่าจะดำเนินการ ดังนี้ 1.จัดทำการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและสุขภาพ (EHIA) ทั้งในส่วนของเหมืองแร่และในส่วนของโรงประกอบโลหะกรรม 2.ให้ตรวจสุขภาพของประชาชนโดยรอบพื้นที่อย่างกว้างขวาง ละเอียดถี่ถ้วน เพื่อหาสารพิษและโลหะหนักที่สัมพันธ์กับการทำเหมืองทองคำ เพื่อเป็นฐานข้อมูลก่อนที่จะอนุญาตให้กลับมาเปิดเหมืองใหม่

3.ให้มีการจัดทำพื้นที่แนวกันชนและพื้นที่ปลอดภัยจากผลกระทบด้านต่างๆ โดยเหมืองจะต้องอยู่ห่างจากชุมชนในรัศมีไม่ต่ำกว่า 5 กิโลเมตร 4.ให้มีการสอบวินัยและดำเนินคดีต่ออธิบดี กพร.และข้าราชการใน กพร.ตามประมวลกฎหมายอาญา 157 และฐานความผิดอื่นๆ เสียก่อน โทษฐานที่อนุญาตประทานบัตร ใบอนุญาตประกอบโลหะกรรม อาชญาบัตรพิเศษและใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ให้บริษัทกลับมาเปิดเหมืองใหม่โดยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแร่ฉบับใหม่ โดยเฉพาะกรณีที่ไม่จำแนกแยกแยะเขตแหล่งแร่เพื่อการทำเหมืองออกจากพื้นที่ที่ควรสงวนหวงห้ามไว้ตามมาตรา 17 วรรคสี่ และมาตราที่เกี่ยวข้องอื่นๆ 5.นำข้อมูลผลกระทบที่เกิดขึ้นไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลรับผิดชอบกับการกระทำของตน

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ นอกจากทำลายประเทศชาติแล้วยังทำลายพวกเรา ใช้พวกเราเป็นเครื่องมือ ที่ผ่านมาปิดเหมืองทองโดยอ้างเรื่องปัญหาสุขภาพ ปัญหาโลหะหนัก แต่กลับไปใช้กฎหมายพิเศษ ใช้คำสั่ง คสช.ซึ่งทั่วโลกไม่ยอมรับไปปิดเหมือง ทั้งที่สามารถใช้กฎหมายปกติได้ สุดท้ายก็ต้องกลับมาเปิดเหมืองเพราะมีปัญหาการฟ้องร้อง กลัวจะสู้เขาไม่ได้ รัฐบาลไม่มีความจริงใจ วันนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านยินดีรับข้อร้องเรียน เพื่อส่งต่อปัญหาไปยังกรรมาธิการฯ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ และจะนำปัญหาดังกล่าวไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลต่อไป