'ศิธา' เปิดนโยบายแก้ปัญหากทม. คุยทำงานตลอดแต่ไม่ออกสื่อ 'สุดารัตน์' ฟุ้งจะคืนอำนาจให้คนกรุง

30 มี.ค.2565 - น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่ากทม. พรรคไทยสร้างไทยกล่าวว่า วันนี้เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เข้ามาทำงานการเมืองตั้งแต่ปี 2543 ที่คลองเตย สำนึกบุญคุณชาวคลองเตยที่เลือกตั้งให้ได้เป็น ส.ส. 2 สมัยในปี 44 และ 48 จนถูกตัดสิทธิทางการเมือง5 ปี แม้เวลานั้นไม่ได้ออกสื่อ แต่ยังคงลงพื้นที่พบประชาชนคนคลองเตยอย่างต่อเนื่อง และการประกาศลงสมัครครั้งนี้ เจอคำถามว่าจะชนะหรือเขาลงพื้นที่มาตั้งนาน จึงตอบไปว่าเคยเป็นนักบินเครื่องบินรบมาก่อน อะไรเป็นภารกิจก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะทำหน้าที่เหมือนตอนช่วยดับเพลิงในพื้นที่คลองเตยสมัยเป็นส.ส. และที่ผ่านมาลงพื้นที่พบประชาชนมาโดยตลอด รู้งานรู้หน้าที่อยู่ในคลองเตยมาถึงทุกวันนี้ เนื้องานที่ทำมาเกี่ยวกับการทำงานในกทม.

โดยแยกนโยบายกทม. เป็น 3 P โดย P แรกคือ People สร้างเมืองแห่งโอกาสให้ชาวกรุงเทพ เพราะประชาชนคือผู้สร้างเมือง ไม่เชื่อว่าจะมีฮีโร่จากไหนมาสร้างกทม. แต่ประชาชนจะเป็นผู้สร้างเมือง เราจะลงทุนกับเรื่องการศึกษา และชีวิตประชาชนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

P ที่ 2 คือ Profit สร้างมหานครแห่งความมั่งคั่ง แก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน เช่นหาบเร่แผงลอย ที่มีเทศกิจคอยทำหน้าที่ตรวจสอบชาวบ้าน มีอะไรอยู่ใต้โต๊ะ จะนำเรื่องเหล่านี้ออกมาวางให้ประชาชนเห็น ให้คนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบมาอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและจะคืนอำนาจให้ประชาชนมีส่วนกับการแต่งตั้งโยกย้าย

P ที่ 3 สามคือ Planet โดยจะสร้างคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพอย่างยั่งยืน

“มีคำกล่าวว่า กรุงโรมไม่ได้สร้างได้วันเดียว ผมก็บอกว่ามหานครของโลกก็ไม่สามารถสร้างได้ด้วยคนคนเดียวด้วยเช่นกัน หากมองว่าการไปถ่ายรูปชี้ปัญหา ทำพีอาร์แล้วจะบอกว่า คือการแก้ไข ผมยอมแพ้ ลงพื้นที่แบบนี้ถามพี่น้องในคลองเตยได้ว่าผมทำแบบนี้ไม่เคยประชาสัมพันธ์ พี่น้องในเขตคลองเตย ผมดูแลได้ทั่วถึงคุยได้ทุกชุมชนไม่ต้องออกสื่อเขาก็เห็น ให้ใจแล้วเขาก็ให้ใจกับผม 22 ปี ก็ยังให้ใจกับผมอยู่ จะทำตรงนี้ให้ประชาชน โดยจะเป็นหัวเรือในส่วนกทม. ประสานกับคุณหญิงสุดารัตน์ ซึ่งเป็นหัวเรือในการนำพาพรรคไทยสร้างไทยเสนอนโยบายที่โดนใจประชาชนและทำให้กทม.เป็นเขตตัวอย่างให้คนทั้งประเทศได้รู้ ไม่ต้องมาห่วงว่า ผมจะแพ้จะชนะผมสู้ขาดใจ” น.ต.ศิธา กล่าว

ภายหลังจากเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่ากทม. และว่าที่ผู้สมัครสก.คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม กรณีสนามเลือกตั้งครั้งนี้เป็นสนามแรกนับตั้งแต่ตั้งพรรคมีความมั่นใจหรือไม่ว่า พรรคไทยสร้างไทยตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา รวมเวลาแล้ว 7-8 เดือน แม้จะเป็นพรรคใหม่แต่หัวใจเต็ม 100 กรุงเทพฯคือหัวใจของประเทศ เคยเป็นส.ส. กรุงเทพฯมา 30 ปี น.ต.ศิธา ก็เคยเป็น ส.ส.กรุงเทพฯมา เราร่วมทุกข์กับคนกรุงเทพฯ มองเห็นว่าวันนี้กรุงเทพฯจำเป็นต้องได้คนที่รู้ปัญหา น.ต.ศิธา รู้ปัญหามายาวนาน แม้เวลาหาเสียงจะสั้นและเป็นพรรคใหม่ แต่เราลุยสู้เต็มที่และมั่นใจว่า จะเป็นผู้ว่าฯกทม.ที่ทำในสิ่งที่ผู้ว่าฯกทม.คนอื่นไม่เคยทำ คือการคืนอำนาจให้คนกทม. ให้ได้ร่วมคิดนโยบายและจัดสรรงบประมาณและร่วมตรวจสอบการใช้งบประมาณโดยสภาชุมชนทุกหมู่บ้านทุกชุมชน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธนกร' เชื่อครม.ใหม่เดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนทันที ปัญหาประเทศรอไม่ได้

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่มีการปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนเชื่อว่า รัฐมนตรีทุกคนมีศักยภาพและประสบการณ์ในการทำงาน

'อุ๊งอิ๊ง' ดูไว้! นักการเมืองต้องรักษาสัจจะเหมือน 'อภิสิทธิ์' เคยหาเสียงไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์

เมื่อน.ส.แพทองธาร ชินวัตร กล่าวในงานอีเวนต์ ”10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10“ ว่า พรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูกตั้งรัฐบาลผสม

'จักรพงษ์' ปัดเลื่อนชั้นขึ้นนั่ง รมต. จากสายตรงเศรษฐา ยันไร้ปัญหากับปานปรีย์

นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวถึงกรณีที่ถูกมองว่าเป็นการพาร์ทชั้นจากเดิมที่อยู่ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่า ไม่ได้พาร์ทชั้นหรอก

'สุชาติ' ลั่นทำงานเพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง ไม่ซีเรียสเป็น รมช.พาณิชย์

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ถึงการได้กลับเข้าทำเนียบรัฐบาลในรอบ 7 เดือน ว่า ได้กลับเข้ามาทำงานให้ประเทศชาติบ้านเมืองเหมือนเดิม

ทำเนียบคึกคัก! รัฐมนตรีใหม่ถ่ายภาพทำบัตร ก่อนเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯ

รัฐมนตรีใหม่ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ได้เดินทางเข้าทำเนียบฯเพื่อถ่ายภาพทำประวัติ และทำบัตรประจำตัวรัฐมนตรี ที่ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคั

'ก้าวไกล' ไม่กังวลถูกยุบพรรค 'ชัยธวัช' บอกคุยลูกพรรคหลายรอบแล้ว

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาให้พรรคก้าวไกลแก้ข้อกล่าวหาในคดีล้มล้างการปกครอง ว่า คดีนี้มีความร้ายแรงมากกว่าคดีก่อนหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ