'กล้า' เปิดตัว 'กอร์ปศักดิ์' นั่งประธานยุทธศาสตร์พรรค

30 เม.ย.2565 - ที่ ห้องวายุภักษ์ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ โรงแรมเซ็นทราบาย เซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ พรรคกล้า จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิกาพรรคกล้า และสมาชิกพรรคเข้าร่วมงาน โดยไฮไลน์การประชุมครั้งนี้ได้มีการเปิดตัวนาย กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นประธานยุทธศาสตร์และนโยบายพรรคกล้า

นายกรณ์ กล่าวในหัวข้อ ฟื้นเศรษฐกิจ แก้วิกฤตปากท้องว่า ในการประชุมครั้งนี้เท่ากับเวลาที่เราได้มาทำงานครอบ2ปีพอดี ซึ่งเป็น2ปีที่ประชาชนมีความเดือดร้อนหนักหนาสาหัส เพราะประสบกับสถานการณ์โควิด และปัญหาทางเศรษฐกิจ และที่หนักที่สุดที่ทำให้ประชาชนคนไทยมีความทุกข์มากที่สุดคือการที่เขามองไม่เห็นอนาคตว่าจะดีขึ้นเมื่อไหร่ ได้อย่างไร พรรคกล้าเราตั้งใจเสนอว่าถึงเวลาแล้วที่เราต้องสร้างโอกาสสร้างรายได้ เราต้องชัดเจนว่าจะสร้างกลับคืนมาให้ประชาชนได้อย่าไร

นายกรณ์ กล่าวต่อว่า พรรคกล้าขอเสนอ 4 แนวทางและการสร้างรายได้ สร้างโอกาส คือ 1.สร้างอุตสาหกรรมใหม่ จะนำไปสู่การลงทุนครั้งใหญ่ ที่เรียกว่ากล้า Green Deal 2.ยกเลิกสิ่งที่อยู่ใต้ดินให้มาอยู่บนดิน สิ่งที่อยู่ในที่มืดมาอยู่ในแสงสว่าง เพื่อเป็นแหล่งรายได้ใหม่ให้รัฐบาล โดยเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี 3. ผลักดันเศรษฐกิจดิจิตอล สร้างช่องทางการค้าขายออนไลน์ให้กับประชาชน และ4. การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซึ่งทั้ง4 แนวทางหลักนี้ จะนำไปสู่แหล่งรายได้หลักของไทย แต่ทั้งหมดจะนำไปสู่ความสำเร็จได้ มี 2คำ คือเทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างได้ด้วยวิธีคิด และทัศนคติที่ปรับใหม่ ทั้งเรื่องการศึกษา ระบบราชการที่จะต้องปฏิรูปสู่เทคโนโลยี ถ้ายังไม่มีการปฏิรูประบบราชการจะกลายเป็นคอขวดและตัวถ่วงของประชาชนและภาคเอกชน ดังนั้นต้องปฏิรูปนำระบบราชการให้เข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่าง 100 เปอร์เซนต์ นำระบบราชการเข้าสู่โทรศัพท์มือถือได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ความฝัน เพราะพิสูจน์แล้วว่าตอนนนี้คนไทย30กว่าล้านคนใช้แอปเป๋าตังค์ รวมถึงเรื่องการปครอง ต้องมีการกระจายอำนาจ หมดยุคการรวมศูนย์อำนาจแล้ว

“ตลอด 2ปีที่ผ่านมาเราสัมผัสได้ว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะนำไปสู่คำตอบให้กับสังคม เราลงเลือกตั้งซ่อมหลายครั้งและเห็นว่าประชาชนให้โอกาสกับเรามากขึ้น และเราต้องทำงานอย่างหนักก่อนจะถึงการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ภายในอีก 10 เดือนข้างนี้ ผมมั่นใจว่าสิ่งที่ประชาชนอยากเห็น คือการเมืองแบบใหม่ การเมืองที่มีความสร้างสรรค์ การเมืองที่ทำด้วยคนที่เป็นมืออาชีพ พวกเราจะไม่ป่าวประกาศว่าจะได้ ส.ส.กี่คน หรือแลนด์ไสลด์ หรือเราจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะเราเป็นพรรคใหม่ยังมีการบ้านที่ต้องทำอีกมาก แต่ที่อยากจะบอกคือ เราพร้อมทำงานหนัก พร้อมรับฟังประชาชน และพร้อมที่จะเสียสละ และสำหรับพรรคกล้าประชาชนต้องมาก่อน” นายกรณ์ กล่าว

จากนั้นนายกรณ์ ได้เปิดตัวคณะกรรมการเศรษฐกิจ โดยมีนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ เข้ามาเป็นประธานยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคฯ โดยมีตน และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคฯ ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจต่อไป ส่วนนายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค ฯ ดูแลเรื่องเศรษฐกิจคนตัวเล็ก และนายสมคิด จิรานันตรัตน์ ที่ปรึกษาธนาคารแห่งประเทศไทย มาเป็นที่ปรึกษานโยบายด้านเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจดิจิตอลของพรรค รวมทั้งยังมี ร.อ.หญิงเดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และอดีตคณะทำงานพรรคประชาธิปัตย์ จะเข้ามาดูแลงานด้านท่องเที่ยว โดยเฉพาะเศรษฐกิจท่องเที่ยวภาคล้านนา

ด้านนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมา เรามีสมาชิก 24,000 คนแล้ว มีการตั้งตัวแทนพรรค และสาขาพรรคแล้ว 89 แห่ง สิ่งที่พวกเราทำให้หลายพรรคสงสัยได้คือตัวเลขผู้เสียภาษี ซึ่งพรรคกล้ามีรายได้จากการบริจาคภาษีเป็นลำดับ 3 ของประเทศ การเดินทางของพรรคกล้าจนถึงวันนี้เราเดินมาด้วยหัวใจ แม้พรรคเราจะเล็กแต่ใจเราใหญ่ ส่วนในมุมเศรษฐกิจขณะนี้หนี้ทุกอย่างมันจุก หนี้เต็ม ดังนั้นสิ่งเดียวที่ประเทศจะไปได้ก็คือการสร้างรายได้ แต่รัฐนี้มีความพร้อมหรือไม่ในการสร้างรายได้ หากระบบราชการเรายังไม่ตอบโจทย์โครงสร้างเศรษฐกิจใหม่และการสร้างรายได้แบบใหม่ หัวใจสำคัญรัฐและเอกชนต้องอยู่ในฐานะหุ้นส่วน

ขณะที่นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า วันนี้เรากำลังเจอกับวิกฤติเศรษฐกิจ โดยต้องอาศัยเศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็กซึ่งมีพื้นฐานจากเศรษฐกิจพอเพียง ที่เน้นเรื่องการพึ่งพาตัวเอง และการลดความเสี่ยง โดยเศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก ต้องสร้างโอกาส ติดอาวุธเรื่องความรู้และทุน และการให้แต้มต่อคนตัวเล็ก เพื่อให้การแข่งขันเป็นธรรม โดยใช้โมเดลการค้าขายออนไลน์เหมือนที่จีนเคยทำประสบความสำเร็จมาแล้ว วันนี้ตนเชื่อว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคที่โควิดเริ่มซา รัฐบาลควรหนุนเรื่องการท่องเที่ยว แต่ต้องเปลี่ยนรูปแบบ เพราะมีการท่องเที่ยวอีกหลายรูปแบบที่เราไม่เคยผลักดัน

อาทิ ท่องเที่ยวเชิงชอปปิ้ง การท่องเที่ยวเชิงกิจกรรม และการท่องเที่ยวสายมู เรื่องเครื่องรางของขลัง เป็นต้น นอกจากนั้นประเทศไทยยังได้เปรียบเรื่องอุตสาหกรรมอาหาร ที่เปลี่ยนเกษตรกรเป็นผู้ประกอบการเกษตร โดยต้องเริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ไปหาตลาดก่อนว่าจะจะส่งออกไปประเทศไหน และเขาต้องการอะไร แล้วไปหารือกับกระทรวงเกษตรฯว่าเราจะปลูกอะไร หากทำแบบนี้ได้เกษตรไทยก็ไปได้ ส่วนเรื่องซอฟพาวเวอร์เป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวใหม่ ซึ่งต้องทำควบคู่ไปกับการท่องเที่ยว พรรคกล้าต้องการสร้างโอกาสนิยม ทำให้ทุกคนเป็นเศรษฐีใหม่ ซึ่งจะทำให้ประชาชนเติบโต แข็งแรง และยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ทวี' ยันไม่เคยได้ยิน เพื่อไทยจะเอาตำแหน่งประธานสภาฯ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสว่าพรรคเพื่อไทยจะขอเก้าอี้ประธานสภา ว่า รัฐธรรมนูญได้มีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงการเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาว่าเป็นเรื่องของสภา ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

'ไชยา' ลั่นปรับครม.กี่ครั้งก็ตาม ก.เกษตรฯต้องอยู่กับเพื่อไทย

นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายชื่อถูกปรับออก ว่าตนทราบตามข่าว ไม่ได้หวั่นไหวอะไร และ 7 เดือนที่ผ่านมา ทำหน้าที่ในกรอบในข้อจำกัดของงบประมาณ ถ้าหากเป็นไปตามนโยบายของผู้ใหญ่ตนก็ไม่ขัดข้อง ก็แล้วแต่

'เศรษฐา' เผยไต๋นั่งควบกลาโหม ทุกอย่างมีโอกาสขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในที่ประชุมได้มีรัฐมนตรีซักถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.หรือไม่ ว่า ไม่มีใครถามอะไรเลย ทุกคนยังทำงานอย่างต่อเนื่อง

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 19: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'พิมพ์ภัทรา' พร้อมรับทุกอย่างหากถูกปรับครม. ย้ำให้ถามหัวหน้าพรรครทสช.

น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)มีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ ว่า เมื่อมีการกล่าวถึงเรื่องการจะปรับครม.ย่อมมีความหวั่นไหวเกิดขึ้นเป็นธรรมดา

'ธรรมนัส' เชื่อ 'บิ๊กป้อม' มีชื่อสำรอง หาก 'ไผ่ ลิกค์' คุณสมบัติไม่ผ่านเป็นรมต.

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอชื่อต่อนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ กับโควตาที่ยังว่างอยู่ ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร