'ศิธา' ผุดไอเดียรถเมล์ไฟฟ้าใต้ทางด่วน เที่ยวละ10 บาท

“ศิธา” เสนอไอเดีย พลิกโฉมที่รกร้างใต้ทางด่วนรามอินทรา เอกมัย สู่การขนส่งมวลชนผ่านรถเมล์ไฟฟ้า นำประชาชน โซนเหนือกรุงเทพ สู่ใจกลางเมืองด้วยค่าโดยสารเพียง10 บาท  พร้อมพัฒนา พื้นที่สีเขียว สองข้างทาง

1 พ.ค.2565 – ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย  น.ต. ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่า กทม.พรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย และ นายประภัสร์ จงสงวน ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคไทยสร้างไทย แถลงข่าวถึงโครงการArticulate Bus ที่เป็นรถ EV หรือรถเมล์ไฟฟ้าใต้ทางด่วน รามอินทรา-เอกมัย จากสุขาภิบาล 5 เขตสายไหม ไปถึง เอกมัย ซึ่งจะสิ้นสุดตรงสวนสมเด็จ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน

ทั้งนี้จะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ได้อย่างน้อย 8 เขต ประชาชนจะได้รับประโยชน์มากกว่า 1.2ล้านคนที่อยู่อาศัยในกรุงเทพโซนฝั่งเหนือ ทั้งเขตสายไหม บางเขน คันนายาว คลองสามวา มีนบุรี หนองจอก วังทองหลาง ลาดพร้าว ฯลฯ ในการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมือง ที่สะดวกรวดเร็ว และค่าใช้จ่ายถูกกว่า

น.ต.ศิธา กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชน ในพื้นที่ดังกล่าว ต้องเดินทางผ่านถนนรามอินทรา เพื่อไปออกถนนวิภาวดีรังสิต เป็นส่วนใหญ่ และรถโดยสารประจำทางก็มีน้อยมาก ดังนั้นจึงจะนำพื้นที่รกร้างใต้ทางด่วน โดยประสานกับการทางพิเศษ ซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์ มาสร้างเป็นทางรถเมล์ไฟฟ้าใต้ทางด่วนรามอินทรา-เอกมัย จะนำพี่น้องประชาชน ไปขึ้นรถไฟฟ้าได้หลายเส้นทางสำคัญ ทั้งสายสีเหลือง จากสำโรง-ลาดพร้าว เส้นสีชมพู จากมีนบุรีมาแคราย ส่งคนขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีน้ำเงิน mrt ลาดพร้าว ไปถึงบางซื่อ รวมทั้งสายสีน้ำตาล บึงกุ่ม-แคราย และเส้นสีส้มมีนบุรี-ตลิ่งชัน ซึ่งการเดินรถเมล์ไฟฟ้าล้อยางจะเป็นฟีดเดอร์สำคัญ รับส่งคนได้หลายพื้นที่ รวมทั้งรถเมล์ไฟฟ้าสายดังกล่าวจะวิ่งไปจนถึงสวนสมเด็จ ซึ่งเป็นต้นทางของถนนเอกมัย สามารถส่งคนเข้าเมืองได้ที่บริเวณดังกล่าวได้เลย

น.ต.ศิธา ระบุว่า ขณะเดียวกัน จะมีการพัฒนาพื้นที่สองข้างทาง ยังสามารถพัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียว ให้พี่น้องชาวกรุงเทพฯได้ใช้ประโยชน์มากขึ้น จะมีพื้นที่สำหรับวิ่งออกกำลังกาย Bike lans หรือ jogging track เพิ่มขึ้นด้วย นั่นคือสิ่งที่ ศิธาขอคิดต่างเพื่อคนกรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับคนกรุงเทพฯ

“ซึ่งการผลักดันนโยบายนี้ ก็มาจากการนำปัญหา ของพี่น้องคนกรุงมาแก้ไข โดยนำข้อมูลมาคิดวิเคราะห์ในหลากหลายมุมมองทั้งจำนวนประชากร จำนวนรถสาธารณะ พื้นที่ใต้ทางด่วนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จนกลายเป็นนโยบาย ที่แตกต่างเพื่อคนกรุงเทพฯ โครงการนี้เป็นเพียงตัวอย่างจะมีโครงการที่ดีเช่นนี้อีกอย่างน้อย 6 โครงการในกรุงเทพ เพื่อแก้ไขปัญหาการเดินทางของกรุงเทพในแต่ละโซนทั้งฝั่งพระนคร และฝั่งธนบุรี” น.ต.ศิธา ระบุ

น.ต.ศิธา ระบุด้วยว่า โครงการทั้งหมดจะใช้งบประมาณ น้อยมากไม่ถึง1,000 ล้านบาท แต่ก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาล ทั้งในแง่การคมนาคมที่สะดวกรวดเร็ว ทั้งในแง่การพัฒนาพื้นที่เพื่อให้พี่น้องชาวกทม.ได้ใช้ประโยชน์ และเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนได้มากกว่า1.2 ล้านคน ที่สำคัญ ค่าโดยสารจะถูกมาก ตลอดสายเพียง 10 บาทเท่านั้น ตั้งแต่ต้นทางสายไหมถึงเอกมัย

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า วันนี้ถึงเวลาแล้ว ที่คนกรุงเทพต้องได้ผู้ว่าฯ ที่กล้าคิดต่าง กล้าคิดนอกกรอบ ไม่เช่นนั้นปัญหาของคนกทม.ก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม โดยเฉพาะการไม่กล้าที่จะเปลี่ยนข้อจำกัดทางกฎหมาย ที่ เป็นอุปสรรคขวางกั้นการพัฒนากรุงเทพมหานครและพัฒนาคุณภาพชีวิตของกรุงเทพฯ

“ศิธา ทิวารี จะเป็นผู้ว่าที่กล้าคิดต่าง และสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกรุงเทพ ได้จริง ย้ำว่า การลงทุนด้วยแนวคิดที่แตกต่าง คือเหตุผลสำคัญที่พรรคไทยสร้างไทยได้ตัดสินใจส่ง ศิธา ทิวารี ลงสมัครผู้ว่าในครั้งนี้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกรุงเทพอย่างแท้จริง” คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คุณหญิงสุดารัตน์ วิงวอน ‘โปรดใช้หัวใจฟังความทุกข์ที่แสนสาหัสของพี่น้อง’

หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ ลงพื้นที่ ม.อ. สงขลานครินทร์ ฟังความเจ็บปวดผู้อพยพกว่า 9,000 ราย หลายคนติดหลังคา-แช่น้ำนานหลายวัน เล่านาทีเอาชีวิตรอด วอนนายกฯ เร่งเยียวยาตามความเสียหายจริง

'จินนี่ ยศสุดา' ลูกสาวคุณหญิงหน่อย พร้อมลงสนามการเมืองเต็มตัว

'จินนี่' ลูกสาวคุณหญิงสุดารัตน์ เตรียมลงสนามเลือกตั้งช่วยพรรคไทยสร้างไทย ลั่นการเมืองไม่ใช่มรดกจากแม่ แต่มาด้วยใจตามความตั้งใจของตัวเอง

'หญิงหน่อย' ชี้เปรี้ยง! รีแบรนด์ พท. ต้องเลิกบริหารแบบครอบครัว

'อดีตปธ.ยุทธศาสตร์เพื่อไทย' ชี้ พท. ต้องเลิกบริหารแบบพรรคครอบครัว-บริษัทจำกัด ถึงจะรีแบรนด์ได้ มอง 'จุลพันธ์' มีโอกาสนั่งหัวหน้าคนใหม่ แต่ตัวจริงคือแคนดิเดตนายกฯ

7-Eleven x TSB ผนึกกำลังสร้างเมืองสะอาด-เปิดจำหน่าย HOP Card หนุนคนใช้รถเมล์ไฟฟ้า

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หรือ TSB กล่าวว่า ความร่วมมือกับ 7-Eleven ครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการขยายช่องทางจำหน่ายบัตรโดยสาร แต่คือการสร้างระบบนิเวศใหม่ของการเดินทางพลังงานสะอาด ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ในทุกชุมชน ผ่านเครือข่ายร้านค้าที่ใกล้ตัวที่สุดของคนไทย”