'เพื่อไทย-ก้าวไกล' ร่วมแถลงข่าว ทำงานร่วมกันในสภากทม.เพื่อคนกรุงเทพฯ เน้น ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เตรียมเสนอถ่ายทอดสดประชุม สภากทม. ให้ประชาชนมีส่วนร่วม สะพัด เก้าอี้ประธานสภากทม. เพื่อไทย ตีตราจอง วิรัตน์-นวรัตน์ ขับเคี่ยวหนัก
27 พ.ค.2565 - ที่โรงแรมแลงแคสเตอร์ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงข่าวจับมือทำงานร่วมกันในสภากรุงเทพมหานคร โดยมีแกนนำของทั้งสองพรรคมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ฝั่งพรรคเพื่อไทยนำโดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผอ.การเลือกตั้งส.ก.พรรคเพื่อไทย นายวราวุธ ยันต์เจริญ รอง ผอ.เลือกตั้ง ส.ก.พรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกทม. และว่าที่ ส.ก.ทั้ง 20 เขตของพรรคเพื่อไทย ด้านพรรคก้าวไกล นำโดย นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.พรรคก้าวไกลและว่าที่สก.พรรคก้าวไกล
นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ขอถือโอกาสนี้ ขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวกทม.ทุกคน ที่ได้มอบความไว้วางใจส.ก.จากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ได้มีการหารือกันระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลแล้ว จึงได้ตกลงในการทำงานร่วมกันในประเด็นดังต่อไปนี้ 1.ส.ก.จากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล จะร่วมกันทำงานเพื่อยกระดับประสิทธิภาพ และความโปร่งใส ของสภากรุงเทพฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพฯ 2.หลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้การรับรองผลการเลือกตั้ง สมาชิกสภากทม.ทั้งสองพรรค จะร่วมกันเห็นชอบในการลงมติเพื่อเลือกประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ เพื่อให้การทำงานมีเอกภาพ โดยการแบ่งหน้าที่ต่างๆ ต้องเป็นไปอย่างความเหมาะสม โดยคำนึงถึงสมาชิกสภากทม.ทุกคนในการทำงาน เพื่อควบคุม ตรวจสอบและ ดูแลการบริหารราชการ กทม.ที่มีผู้ว่าฯ กทม.เป็นผู้บริหาร
นายชัยธวัชกล่าวว่า 3.ส.ก.จากทั้งสองพรรคจะร่วมกันเห็นชอบให้มีการแก้ไขข้อบังคับการประชุมสภาฯ เพื่อให้มีการตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อทำให้การบริหารของ กทม.เป็นไปด้วยความสุจริต โปร่งใส ตอบสนองประโยชน์ของชาว กทม.อย่างแท้จริง และ 4.ส.ก.จากทั้งสองพรรคจะร่วมกันเห็นชอบให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภากทม.เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน และเพื่อความโปร่งใสในการทำงาน เพื่อให้ภาคประชาชนสามารถตรวจสอบการทำงานของสมาชิกสภาฯได้ ส.ก.จากทั้งสองพรรคมุ่งหวังที่จะทุ่มเทการทำงานให้กับประชาชนชาว กทม. อย่างเต็มที่ และเพื่อยกระดับการทำงานของสภากทม. ให้เป็นที่พึ่งของประชาชนชาวกทม.ทุกคนต่อไป
นายวิชาญ กล่าวว่า การจัดสรรประธานและรองประธานสภาฯ เป็นเรื่องของทั้งสองพรรค ส่วนกรรมการขึ้นกับสัดส่วนแต่ละพรรคที่ต้องไปว่ากัน ส่วนประธานสภากทม.เป็นของพรรคเพื่อไทย ส่วนจะเป็นใครต้องพิจารณากันอีกครั้ง
มีรายงานว่าตำแหน่งประธานสภากทม. มีแนวโน้มสูงที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอแคนดิเดตไป 2 รายชื่อคือนายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ส.ก.มีนบุรี และนายนวรัตน์ อยู่บำรุง ส.ก.หนองแขม เนื่องจากเป็นส.ก. มาหลายสมัย เป็นผู้อาวุโส และสามารถประสานงานได้กับทุกพรรค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถอดรหัส 'ทักษิณ' โชว์เขี้ยว! พลิกเกม-ขย้ำกลับ 'พรรคส้ม' เปิดแผลนั่งร้าน 'ธนาธร'
ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ “พรรคประชาชน” ไม่เพียงแค่เป็น “ศึกซักฟอก” ครั้งแรกของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร แต่ยังถูกออกแบบมาให้กระทบชิ่งถึง “ทักษิณ ชินวัตร” โดยตรง
'เจิมศักดิ์' กาง 7 ข้อ วิเคราะห์ 'รัฐบาลแพทองธาร' กับค่าเสียโอกาสและผลกระทบ
'เจิมศักดิ์-นักวิชาการเศรษฐศาสตร์' ยก 7 ประเด็นสำคัญ สะท้อนถึงค่าเสียโอกาสและผลกระทบจากการดำรงตำแหน่งของนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ชี้ความไม่ชัดเจนทางการเมืองและเศรษฐกิจอาจส่งผลกระทบในระยะยาวต่อการพัฒนาประเทศไทย
สืบจากศพ ‘หมอพรทิพย์’ พลิกปม ใครฆ่า...!!?? ‘อดีต ผกก.โจ้-แตงโม’ I อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร
สืบจากศพ ‘หมอพรทิพย์’ พลิกปม ใครฆ่า...!!?? ‘อดีต ผกก.โจ้-แตงโม’ อิสรภาพแห่งความคิด กับ..สำราญ รอดเพชร : วันเสาร์ที่ 15 มีนาคม 2568
'ทักษิณ' ปัดล้างบางสว.สีน้ำเงิน รับคุย 'เนวิน-อนุทิน' เสถียรภาพรัฐบาลแน่น!
'ทักษิณ ชินวัตร' ปัดล้างบาง สว. สีน้ำเงิน เปิดปากยอมรับพูดคุยกับ 'อนุทิน-เนวิน' จริงแต่เป็นการให้คำปรึกษาเท่านั้น ไม่มีอำนาจสั่งการ พร้อมย้ำเสถียรภาพรัฐบาลยังคงมั่นคงดี ไม่มีปัญหา
ย้อนอดีตประจานปัจจุบัน! ยุคทักษิณเรืองอำนาจ บลัฟฝ่ายค้านให้ยืมเสียงซักฟอกตนเอง
‘ปิยบุตร’ ย้อนอดีตยุค ‘ทักษิณ’ เป็นนายกฯ ที่ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ชี้ 2 ปัจจัยหลัก หนุนอำนาจเบ็ดเสร็จ – เผยไทยรักไทยเคยมีเสียง ส.ส. มากถึง 377 เสียง ถึงขั้น ‘บลัฟ’ ให้ฝ่ายค้านยืมเสียงเพื่อตรวจสอบตนเอง
อิ๊งค์ ขย่ม ฝ่ายค้าน เขย่า | ห้องข่าวไทยโพสต์
ห้องข่าวไทยโพสต์ : วันศุกร์ที่ 14 มีนาคม 2568