'สุทิน' โวฝ่ายค้านเต็มร้อย เชื่อมั่นลึกๆมีโอกาสคว่ำงบฯ

เสียงฝ่ายค้านเต็มร้อยไม่มีบกพร่อง แต่จะมีทางอื่นมาเพิ่มเติมหรือไม่ เราไม่อยากคาดหวัง แต่รู้ว่าคิดตรงกัน แต่เขาจะกล้าที่จะมายกมือให้กับเราหรือไม่ ตนยังเชื่อมั่นลึกๆ ว่าโอกาสคว่ำมี แต่ไม่มั่นใจ 100% เพราะเราไปฝากไว้กับใจคนไม่ได้

31 พ.ค.2565- นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบวันแรก ทางฝ่ายค้านถือว่าเป็นการพิจารณาที่สำคัญ เพราะน่าจะเป็นปีสุดท้ายของสภาชุดนี้ และจะเป็นงบประมาณฉบับที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งมีข้อพึงระวังว่ารัฐบาลอาจจะจัดงบโดยหวังการเลือกตั้งเป็นเป้าหลัก

ประธานวิปฝ่ายค้านกล่าวต่อว่า การอภิปรายวันนี้จะเริ่มโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่จะแถลงงบประมาณ ตามด้วยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ที่จะนำอภิปราย จากนั้นเริ่มอภิปรายตามลำดับ โดยวันนี้จะเป็นการฉายภาพปัญหาของประเทศว่า สภาพปัญหาและความต้องการของประเทศในวันนี้คืออะไร และบริบทโลกบริบทประเทศเป็นอย่างไร รวมถึงจะดูปัญหาการเงินการคลังของประเทศด้วย ส่วนในวันที่ 1 มิ.ย. จะเป็นเรื่องของการจัดงบที่ไม่ตอบสนองปัญหาและความต้องการของประชาชน และวันที่ 2 มิ.ย. จะเป็นเรื่องกลุ่มทุจริต โดยฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีเวลาฝ่ายละ 7 ชม. 30 น. ต่อวัน และจะไปจบการอภิปรายเวลาประมาณ 01.00 น. แต่ในการอภิปรายในวันสุดท้ายอาจจะจบได้ในช่วงเย็น

นายสุทิน กล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญต้องทำความเข้าใจกับรัฐบาลและประชาชน เพราะมีคนสื่อสารผิดว่าถ้างบประมาณถูกคว่ำในวาระแรก ประชาชนจะลำบากมาก ประเทศจะเดินหน้าไม่ได้ ซึ่งเป็นการสร้างความเข้าใจที่ไขว้เขวให้ชาวบ้านเข้าใจผิด ความจริงแล้วเรื่องนี้มีรัฐธรรมนูญที่เป็นทางออก เพื่อให้การจัดงบประมาณมีความสมบูรณ์และเป็นประโยชน์ ถ้าถูกตีตกในวาระ 1 ก็ให้ใช้งบประมาณในปีเก่าไปพลางๆ เพราะเจตนารมณ์ของคนเขียนรัฐธรรมนูญอยากให้พิจารณากฎหมายด้วยความรอบคอบ แม้จะตกแต่ก็มีกันชนสำหรับประชาชนและประเทศไว้แล้ว สามารถกลับไปทำมาใหม่ได้ ไม่ใช่ฝ่ายค้านไม่คำนึงถึงประชาชน เราคำนึงและคิดว่ามีช่องทางที่จะเดินหน้าได้อยู่แล้ว และจะดีกว่าดันทุรังเดินหน้าต่อ

เขาบอกว่า งบประมาณปีนี้ที่เป็นห่วงคือ ระบบราชการทำไว้ตั้งแต่เดือนต.ค. แต่สถานการณ์โลกในช่วงนี้ผันผวนมาก ทั้งสงคราม น้ำมัน และเงินเฟ้อ ขณะที่งบประมาณทำมาก่อนหน้านั้น รัฐบาลจะปรับตัวทันหรือไม่ นั่นคือสิ่งที่เราห่วง อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้ตั้งใจนำเรื่องงบประมาณมาซ้อมใหญ่ เพื่อเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเราจะนำข้อมูลที่ได้จากการอภิปรายงบประมาณไปใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

เมื่อถามว่า เช็กเสียงฝ่ายค้านเป็นอย่างไรบ้าง นายสุทิน กล่าวว่า เสียงฝ่ายค้านเต็มร้อยไม่มีบกพร่อง แต่จะมีทางอื่นมาเพิ่มเติมหรือไม่ เราไม่อยากคาดหวัง แต่รู้ว่าคิดตรงกัน แต่เขาจะกล้าที่จะมายกมือให้กับเราหรือไม่ ตนยังเชื่อมั่นลึกๆ ว่าโอกาสคว่ำมี แต่ไม่มั่นใจ 100% เพราะเราไปฝากไว้กับใจคนไม่ได้.