'ชัชชาติ' เมินเงิน กทม.เหลือแค่ 90 ล้านบอกนโยบายที่หาเสียงไว้ใช้เงินไม่เยอะ

กกต.มอบประกาศรับรองให้ ชัชชาติ-45 ส.ก.แล้ว เลขาฯ กกต.ยันทำหน้าที่ตามกฎหมาย-ไม่หวั่นไหวกระแสสังคม แจง ส.ก.อีก 5 รายอยู่ระหว่างตรวจสอบเรื่องร้องเรียน

01 มิ.ย.2565 - สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ประจำกรุงเทพมหานคร ได้จัดพิธีมอบประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องผลการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เป็นตัวแทนมอบ

โดยนายแสวงกล่าวตอนหนึ่งว่า ขอแสดงความยินดีกับท่านที่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ที่ได้รับเสียงมหาชน โดยขอให้ได้ทำหน้าที่สำเร็จตามที่เสนอไว้ และตามที่ประชาชนคาดหวังไว้ และขอขอบคุณผู้สมัครทุกคน ที่ได้ร่วมกับสำนักงาน กกต. และ กทม. ในการทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตั้งแต่การเริ่มสมัคร การหาเสียง จนถึงการประกาศผล ซึ่งการหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นไปด้วยความสร้างสรรค์ มีรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา ทำให้การเลือกตั้งเป็นที่สนใจ และจนถึงวันนี้ก็ถือว่าการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

“ขอพูดในนามสำนักงาน กกต. ว่า กกต.ตั้งขึ้นมาให้ทำหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อทำตามความต้องการของผู้ใด สิ่งที่เราทำทุกอย่าง ต้องเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมาย เราทราบความรู้สึก หรือกระแสของสังคมทุกการเลือกตั้ง แต่ความรู้สึก หรือกระแสที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้เราต้องละเลยความถูกต้องตามกฎหมาย เพราะความถูกต้องไม่ว่าเมื่อวาน วันนี้ หรืออนาคตก็ยังจะเป็นความถูกต้อง ไม่ว่าผู้แพ้หรือผู้ชนะก็ต้องการความถูกต้อง เราทำงานโดยไม่ได้หวั่นไหวหรือน้อยใจกับการทำงานแต่อย่างใด อยากให้ทราบว่า กกต.ทำงานทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย” เลขาธิการ กกต. กล่าว

จากนั้นจึงเข้าสู่พิธีการมอบประกาศรับรอง โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ขึ้นรับประกาศรับรองเป็นลำดับแรก จากนั้นจึงตามด้วยบรรดา ส.ก.ที่ได้รับการประกาศรับรองจาก กกต. 45 รายทยอยเข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่ม ส.ก.จากพรรคเพื่อไทย 18 ราย นำโดย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้อำนวยการเลือกตั้ง ส.ก. พรรคเพื่อไทย และนายวิชาญ มีนชัยนันทน์ ประธานภาคกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย รวมทั้ง ส.ก.จากพรรคอื่นๆ ทยอยเข้ารับประกาศ ขณะที่กลุ่ม ส.ก.พรรคก้าวไกล นำโดยนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางมารับประกาศจาก กกต.ทีหลังจาก ส.ก.กลุ่มอื่น

ทั้งนี้นายชัชชาติได้ลุกขึ้นทักทายและแสดงความยินดีกับ ส.ก.ทุกคนหลังรับใบประกาศจาก กกต. โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่ตื่นเต้น และพร้อมที่เปิดตัวทีมงานบริหาร กทม.ในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากเข้ามอบนโยบายให้กับข้าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ศาลาว่าการ กทม.เสาชิงช้า ส่วนกรณีงบประมาณของ กทม.เหลือเพียง 90 ล้านบาทจะเพียงพอหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า เดี่ยวให้รองผู้ว่าฯ กทม.ไปดู แต่ไม่เป็นไร เพราะนโยบายตัวเองไม่ได้ใช้เงินเยอะ

นอกจากนั้น เลขาธิการ กกต. ยังให้สัมภาษณ์ภายหลังถึงกรณีผู้สมัคร ส.ก.ที่ยังไม่ได้รับการรับรองอีก 5 รายนั้น เนื่องจากมีคำร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงานฯ ซึ่งสำนักงานจะเร่งรัดดำเนินการโดยเร็ว เพราะประชาชนรอ ส.ก.ของเขาอยู่ เหมือนกับการประกาศผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. 45 เขต ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สำนักงานได้มีการเร่งรัดเรื่องการพิจารณาเรื่องร้องเรียน ซึ่งเป็นการพัฒนาการทำงานของสำนักงานตามนโยบายของ กกต. ที่อยากให้เรื่องการประกาศผล การเร่งรัดสำนวน ทำให้เร็วขึ้นซึ่งเราก็สามารถประกาศผลได้ภายใน 8-9 วัน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการถูกกระแสกดดันจากสังคม

ส่วนกรณีป้ายหาเสียงที่สามารถทำไปทำเป็นกระเป๋าได้นั้น กกต.จะมีการศึกษาเพื่อวางกรอบในการเลือกตั้งในอนาคตหรือไม่ เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ เรื่องแบบนี้เคยมีแนวมาแล้ว ถ้าจำได้สมัยก่อนมีซีดี ถามว่าเป็นการให้ทรัพย์สินหรือไม่ ซึ่งในข้อเท็จจริงสิ่งเหล่านี้เป็นสื่อที่จะใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์กับประชาชน เหมือนเสื้อสกรีนตัวหนังสือก็ถือว่าเป็นสื่อชนิดหนึ่งในการโฆษณาหาเสียงของผู้สมัคร กรณีป้ายหาเสียงของนายชัชชาติจึงไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ สังคมอาจจะลืมไปว่าหลักการมันเหมือนกันแต่รูปแบบมันต่างกัน อย่างไรก็ตามตนคิดว่ากฎหมายที่มีอยู่ก็ชัดเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องมีการไปแก้ไขกฎหมาย ขอแค่คนใช้กฎหมายตรงไปตรงมา ใครให้ความเห็นเราก็ฟัง แต่เราเป็นคนทำงาน เราจะเห็นหน้างานทุกงาน แต่การแสดงความเห็นบางครั้งไม่ได้ดูกฎหมาย บางความเห็นดูกฎหมายแต่ก็สำคัญผิดไป บางความเห็นไม่รู้ข้อเท็จจริงไม่รู้หน้างาน ซึ่ง กกต.รับฟังหมด แต่เวลาทำงานต้องยึดหลักกฎหมาย ไม่ได้ทำตามความต้องการของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทั้งนี้ความเห็นต่างๆ ความรู้สึก สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ความถูกต้องตามกฎหมายอย่างที่ตนได้พูดว่าวานนี้ถูกต้อง วันนี้ถูกต้อง อนาคตก็ต้องถูกต้อง ทุกอย่างเรามีคำอธิบาย

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ขณะนี้มีการลงชื่อถอดถอน กกต.นั้น นายแสวง กล่าวว่า ทราบว่ามีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในสังคม แต่ก็ไม่เฉพาะ กกต. ก่อนหน้านี้ก็มีเกิดขึ้นกับหน่วยงานอื่นๆ เป็นอารมณ์ของสังคม ส่วนที่มีคนบอกว่าหลังจากการเลือกตั้งเสร็จ กกต.น่าจะประกาสผลได้เลย แต่ในข้อเท็จจริงมีคนอีกครึ่งหนึ่งที่มอง กกต.อยู่ว่าถ้าไม่ทำตามกฎหมาย เราก็อาจจะถูกข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อย่างกรณีผู้ว่าฯกทม. มาตรา 17 พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่นระบุว่าจะต้องมีการตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่ง 3 วัน หลังการเลือกตั้ง กกต.รายงานผลคะแนน จากนั้นผู้ตรวจการเลือกตั้งรายงานผลภายใน 4-5 วัน สำนักงาน กกต.ก็ต้องมาประมวลผลก่อนบรรจุวาระการประชุมกกต. ซึ่งตนก็คิดว่าเร็วสุดๆแล้ว

ส่วนการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งลำปาง เรามีแผนเตรียมไว้แล้ว ในทุกการเลือกตั้งสำนักงานพร้อมอยู่เสมอ เรามีแผน หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นก็สามารถนำไปครอบได้เลย ว่าแต่ละช่วงเวลาต้องทำอะไรบ้าง ขอให้มีพระราชกฤษฎีกาก่อน กกต.ก็จะมีการประชุมและประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต.ขยับรับสมัครอบต.ใต้เป็น 8-12 ธ.ค. เหตุอุทกภัยกระทบหลายจังหวัด

กกต.ปรับรอบรับสมัครเฉพาะ 5 จังหวัดน้ำท่วม ส่วนจำนวน อบต.ทั่วประเทศลดเหลือ 4,985 แห่งจากการยกฐานะเป็นเทศบาล ต้องแบ่งเขตใหม่ก่อนจัดเลือกตั้งช่วงเมษายน 2569 หลายพื้นที่เปิดรับสมัครวันแรกคึกคัก

กกต. แจงนักการเมือง-พรรค บริจาคช่วยน้ำท่วมได้เต็มที่ แต่ระดับท้องถิ่นต้องระวังช่วง 180 วันก่อนครบวาระ

กกต. ชี้ "บริจาคช่วยภัยพิบัติ" สส.-สมาชิกพรรคทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท แต่จะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ ส่วนพรรคการเมืองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อเหตุการณ์ ย้ำโปร่งใส–โฆษณาได้ 

กกต. ขอเชิญชวนสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภา อบต. และนายก อบต. ระหว่างวันที่ 1 - 5 ธันวาคม 2568

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ระหว่างวันที่ 1 – 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสามารถตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และเตรียมหลักฐานและเอกสารประกอบการ ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 1.1 มีสัญชาติไทยโดยการเกิด 1.2 ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุ ไม่ต่ำกว่า 25 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง สำหรับผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 1.3 มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลที่สมัครรับเลือกตั้ง ในวันสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง 1.4 วุฒิการศึกษา • สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่ได้กำหนดวุฒิการศึกษา • ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาตำบล สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา 2. ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.1 ติดยาเสพติดให้โทษ 2.2 เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต 2.3 เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ 2.4 เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 39 (1) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช (2) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ หรือ (4) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 2.5 อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือ ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.6 ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล 2.7 เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 2.8 เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริต ต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ 2.9 เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็น ของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2.10 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน 2.11 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง 2.12 เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ 2.13 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2.14 เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ 2.15 เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 2.16 อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2.17 เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง 2.18 ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ไม่ว่าจะได้รับโทษหรือไม่ โดยได้พ้นโทษหรือ ต้องคำพิพากษามายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี 2.19 เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น แล้วแต่กรณี มายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 2.20 อยู่ในระหว่างถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หรือตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2.21 เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกันหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น 2.22 เคยพ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเหตุมี ส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่กระทำหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น หรือมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการ ที่กระทำกับหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น โดยมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าเป็นการต่างตอบแทน หรือเอื้อประโยชน์ส่วนตนระหว่างกัน และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.23 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพราะจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ หรือมติคณะรัฐมนตรี อันเป็นเหตุให้เสียหาย แก่ราชการอย่างร้ายแรง และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.24 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่และอำนาจ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ และอำนาจ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือมีความประพฤติในทางที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแก่ราชการ และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.25 ลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3. หลักฐานและเอกสารประกอบการยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลพร้อมทั้งหลักฐานการสมัคร ดังนี้ 3.1 ใบสมัครรับเลือกตั้งตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/1 3.2 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก หรือ รูปภาพที่พิมพ์ชัดเจนเหมือนรูปถ่ายของตนเอง ขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 13.5 เซนติเมตร จำนวนตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3.3 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 3.4 สำเนาทะเบียนบ้าน 3.5 ใบรับรองแพทย์ 3.6 หลักฐานการศึกษา 3.7 หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี (2565, 2566, 2567) นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยัน การไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษีตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/2 4. ค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง 4.1 นายกองค์การบริหารส่วนตำบล 2,500 บาท 4.2 สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล 1,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี ตามมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบลได้ทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือ Application Smart Vote หรือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการสายด่วน 1444

ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต

ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)

กกต. ไม่มีปัญหาถ้าพรุ่งนี้ยุบสภา ก็พร้อมจัดการเลือกตั้ง-ทำประชามติ

เลขาฯกกต. กล่าวถึงความพร้อมการเลือกตั้งอบต. 11 ม.ค.2569 ว่า เราได้ตื่นตัวและสื่อสารไปยังพื้นที่ และหน่วยงานองค์การบริหารส่วนตำบลที่จะทำการเลือกตั้ง รวมทั้งถ้าจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน