'เพื่อไทย' ถล่มงบคมนาคม โวยลั่น 'บุรีรัมย์' อู้ฟู่ ตั้งฉายางบ 66 ฉบับผีปอบ

สภาฯ ถกงบฯ66 วันสุดท้าย “เพื่อไทย” ชำแหละเละ “คมนาคมเรียกค่าไถ่” รวยอู่ฟู้ ค่าก่อสร้างกรมทางหลวง-ทางหลวงชนบท 31% โวย งบ “บุรีรัมย์” มากกว่า “เชียงใหม่” สองเท่า ซัด บางพรรคหาเสียงล่วงหน้า อัดฉีด “อบจ.ศรีสะเกษ” จะได้งบ 940 ล้านบาท

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วาระแรกในชั้นรับหลักการต่อเป็นวันที่ 3 ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายชวนได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบถึงกรอบระยะเวลาการชี้แจงและการอภิปรายว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) และส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เหลือเวลา 9 ชั่วโมง 8 นาที ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้าน เหลือเวลา 6 ชั่วโมง 56 นาที และประธานที่ประชุมเหลือเวลา 2 ชั่วโมง 48 นาที

จากนั้นได้เข้าสู่วาระการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว โดยนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การจัดงบประมาณครั้งนี้สูญเปล่า ไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่ม มีแต่จะสร้างหนี้เพิ่มให้ประชาชน ในงบปี 66 เราตั้งเงินบริหารหนี้สาธารณะอยู่ 3.6 แสนล้านบาท แต่ใช้เงินต้นแค่แสนล้าน ดอกเบี้ยวันนี้เราต้องใช้อีก 2.6 แสนล้านบาท ที่คนไทยต้องร่วมกันรับผิดชอบ โดยเฉพาะงบของกระทรวงคมนาคม ก่อนปี 62 ปกติงบจะเปลี่ยนตามหัวและความยากจน งบจีดีพีของแต่ละพื้นที่ ภาคไหนยากจนรัฐบาลก็ช่วยเยอะ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้น

นายวิสาร กล่าวต่อว่า กระทรวงคมนาคมได้งบไปทั้งหมด 5.7 % ของงบประมาณประเทศ โตขึ้น 4.2% ถามว่างบไปอยู่ที่ไหน โดยรัฐบาลใช้งบประมาณในการก่อสร้างถึง 15% ของงบประเทศ คิดเป็นเงิน 500,000 ล้านบาท โดยเฉพาะกรมทางหลวงและทางหลวงชนบทมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างมากที่สุดถึง 1.58 แสนล้านบาท หรือกว่า 31%ของบก่อสร้างทั้งประเทศ โดยมีงบประมาณเงินกู้ผูกพันและมีผลกระทบต่อการคลังมากที่สุด คาดว่าจะมีการตั้งงบกินยาวข้ามปี โดยงบประมาณ5อันดับแรก กระทรวงคมนาคมมีงบผูกพันไว้ 300,000 ล้านบาท และงบใหม่ประมาณ 50,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่ากระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกลาโหม

“ส่วนงบส่อโกง ตนไม่ได้อิจฉาตาร้อนพี่น้องจ.บุรีรัมย์ แต่ชื่นชมว่ามีสนามกีฬา มีการพัฒนาประเทศมากมาย จากจังหวัดที่ถือว่าต้องตำน้ำกิน แต่วันนี้อยู่ในจังหวัดที่เป็นระดับต้นๆ แต่มันผิดปกติตรงที่ว่าตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศตั้งแต่ปี 62 งบมันเปลี่ยนไปมาก โดยไม่มีเหตุผลและไม่เกิดประโยชน์ เพื่อเอาตังค์ทอนและหัวคิว โดยข้อมูลจากสภาพัฒน์ระบุว่า จังหวัดเชียงใหม่มีประชากรประมาณ 1.7 -1.8 ล้านคน ส่วนประชากรที่จ.บุรีรัมย์มีประมาณ 1.5 ล้านคน แต่รายได้ที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจจ.เชียงใหม่ เป็นจังหวัดทำรายได้นักท่องเที่ยวมีคนเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ถือว่าเป็นอันดับที่ 12 ของประเทศไทย เพราะเป็นหัวเมืองภาคเหนือและเป็นศูนย์ระเบียงเศรษฐกิจ แต่จ.บุรีรัมย์ไต่ระดับมาอยู่ในลำดับที่ 32 แต่ได้งบประมาณ โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคมที่ให้อบจ.เชียงใหม่อยู่ที่ 3,120ล้านบาท แต่จ.บุรีรัมย์ได้งบ 6,487 ล้านบาท โดยได้รับมากกว่าจังหวัดเชียงใหม่ถึงสองเท่า” นายวิสาร กล่าว

นายวิสาร กล่าวอีกว่า ส่วนงบประมาณบำรุงทางที่จ.บุรีรัมย์ได้งบประมาณนำโด่ง โดยทั่วไปมาตรฐานจะอยู่ที่1 แต่จ.บุรีรัมย์ได้มากกว่าค่าเฉลี่ยถึง 4.29 เท่า และจ.สุรินทร์ได้ไป 3.58 เท่า และยังมีงบประมาณลงสนามบินบุรีรัมย์อีก 200 กว่าล้าน ชี้ให้เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม จริงใจที่จะตรวจสอบเรื่องการทุจริตหรือไม่ ที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับการยกย่องอันดับต้นๆคือการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งมี 120 ประเทศ ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 109 ถือว่าตกต่ำมาตลอด ตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ และที่อนาถใจอีกคืองบตรวจสอบที่จะดูแลการทุจริตคอรัปชั่นมีแค่ 1,600,000 บาท และเป็นงบเกี่ยวกับการบริหารป้องกันการทุจริตมีประมาณ 5,000,000 บาท ถามว่าแบบนี้มีความจริงใจที่จะดูแลงบประมาณให้มีความโปร่งใสหรือไม่

นายวิสาร อภิปรายต่อว่า อีกทั้งยังมีอีกหลายโครงการที่เป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม โดยรัฐวิสาหกิจทุกอันโตหมด ไม่ว่าการท่าอากาศยานหรือสนามบินมีการสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเจ้าสัว โดยกระทรวงคมนาคมยอมผ่อนปรนให้เขาผ่อนจ่ายได้ รวมถึงการสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงทั่วประเทศก็ช้าทุกโครงการ 5 ปีเพิ่งสร้างได้ 3.5 กิโลเมตร ส่วนการก่อสร้างสถานที่คัดกรองของสนามบินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิต้องใช้เงินถึง18,784 ล้านบาท และที่สนามบินอื่นอีกทั้งเชียงราย หาดใหญ่ ภูเก็ต ดอนเมืองอีกประมาณ 7,600 กว่าล้านบาท ทั้งหมดนี้เขาใช้วิธีตั้งงบจากหน่วยงานและสภาแห่งนี้ก็ควบคุมไม่ได้ ไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจใดใดก็ตามถ้าจะกู้เงินหรือทำอะไรก็แล้วแต่ รัฐบาลจะต้องเป็นคนค้ำประกันให้อยู่ดี เพราะฉะนั้นตนจึงบอกว่าสิ่งที่เรารับไม่ได้คือเรื่องนี้ นอกจากนี้มอเตอร์เวย์กรุงเทพ-โคราชที่ยังสร้างไม่เสร็จไม่มีงบก่อสร้างแต่มีการควบคุมคนงาน แถมยังของบประมาณเพิ่มจากคณะรัฐมนตรี และเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องให้ รวมถึงยังมีมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรีอีก งบประมาณทั้งหมดส่อให้เห็นทั้งเงินในประมาณและเงินนอกงบประมาณส่อโกง ทั้งทางราง ทางน้ำ ทางบก ทางอากาศ ตั้งงบไว้จ่ายค่าไถ่ แต่มารีดไถ่จากประชาชน

นายวิสาร อภิปรายต่อว่า ตนดีใจแทนพี่น้องชาวจ.สุรินทร์ที่มีถนนลาดยางดีๆอยู่ ขูดแล้วก็ทำใหม่ต่อ จนไม่รู้จะปูทางอย่างไรแล้ว อีกไม่นานคันนาที่จ.สุรินทร์อาจจะต้องลาดคอนกรีตหรือลาดยางก็ได้ เรื่องที่แย่ที่สุด ถามว่ามีการตกลงเพื่อทุจริตเชิงนโยบายหรือไม่ เช่นที่จ.ยโสธร และจ.อำนาจเจริญ มีงบ อบจ. อยู่ที่ 122 ล้าน จ.อุบลราชธานี มี 522 ล้าน เพราะเป็นจังหวัดใหญ่ แต่จ.ศรีสะเกษที่พรรคการเมืองพรรคหนึ่งไปหาเสียงไว้ เขาก็พยายามโฆษณาชวนเชื่อบอกว่าถ้าได้ส.ส.ยกจังหวัดอีก 2 ตำแหน่ง อบจ.ศรีสะเกษ จะได้งบประมาณ 940 ล้านบาท แม้ว่าตอนนี้ประเทศมีมีหนี้สาธารณะสะสมกว่า 9.9ล้านล้าน มีหนี้จากรัฐวิสาหกิจ 8.7แสนล้าน หนี้ค้ำประกันอีก 2.5แสนล้านบาท แต่เงินภาษีของประชาชน ถูกนำไปละเลง เพื่อเป็นจังหวะให้กระทรวงคมนาคมเรียกค่าไถ่

“วันนี้ฝากถามนายกว่าเคยได้ยินนายก 500 หรือไม่ เพราะคำว่านายกฯ 500 มีจริงๆ จังหวัดแถวอีอีซีให้หัวละ 50 ทำอย่างไรก็ได้ให้เอามา 10 คน ผมสงสารประชาชนและเกษตรกรไทย วันนี้การจัดงบประมาณ พรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้านหลายพรรคไม่รับ เพราะถ้าเรารับเท่ากับว่าเราไปสมรู้ร่วมคิดแบ่งเค้ก เราจะปล่อยให้เป็นหนอนกัดกินประเทศไม่ได้ ผมขอเรียกงบปี 66 ว่าเป็นงบประมาณฉบับผีปอบ เพราะจะกัดกินลำไส้เครื่องในมนุษย์ทุกเดือนๆ จนหนี้สินประเทศเกินเยียวยา พรรคเพื่อไทยขอไม่รับร่างฉบับผีปอบนี้” นายวิสาร กล่าว