
“ส.ว.คำนูณ” ระบุ “ร่างพ.ร.บ.สอบสวนฯ” ไม่ใช่อาชญากร วอนนายกฯส่งเข้าสภาทันที พร้อมขอวิปรัฐบาลดำเนินการปรับแก้ “ร่างพ.ร.บ.ตำรวจ” วาระ 2 ให้สอดรับประเด็นปฏิรูปใหญ่ “พนักงานสอบสวน” เป็นสายงานอิสระในสตช. และให้ “อัยการ” เข้าร่วมสอบแค่ต้นในคดีสำคัญ ยกระดับมาตรฐานทุกด้าน กันผู้ต้องหาเป็น “พยาน” ได้
12 มิ.ย.2565 – นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา และกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. …. รัฐสภา ได้โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวในชื่อ Kamnoon Sidhisamarn เรื่องขอคืนความเป็นธรรมให้ ร่าง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญา พ.ศ. …. ที่รัฐบาลชะลอไว้ยังไม่ส่งเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา และถูกกล่าวถึงในเชิงลบในการประชุมพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติในรัฐสภาเมื่อ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่าเป็นเรื่องซ่อนเร้น เป็นเขื้อไฟ และเป็นการทำลายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
“ไม่เป็นความจริงเลย ร่างกฎหมายสอบสวนคดีอาญาทีวัตถุประสงค์เพื่อปฏิรูปใหญ่ระบบสอบสวนคดีอาญาของประเทศ โดยให้องค์กรตำรวจเป็นผู้นำร่อง”
นายคำนูณกล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญามีสาระสำคัญ 2 ประเด็นใหญ่ ๆ คือ
หนึ่ง ปฏิรูปกฎเกณฑ์การสอบสวนของพนักงานสอบสวนให้อำนวยความสะดวกกับประชาชนมากยิ่งขึ้น รวมทั้งคุ้มครองสิทธิของประชาชน สิทธิของผู้ต้องหา ให้ตรงตามมาตรฐานสากล โดยกำหนดไว้ให้ชัดเจนในกฎหมายระดับพระราชบัญญัติเป็นการเฉพาะ
สอง ปฏิรูประบบการถ่วงดุลระหว่างพนักงานสอบสวนของตำรวจกับพนักงานอัยการในการสอบสวนคดีอาญา โดยให้พนักงานอัยการเข้ามาร่วมสวบสวนได้ตั้งแต่ต้นในคดีสำคัญ
และเมื่อรวมกับร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฉบับดั้งเดิมที่ยกร่างโดยคณะกรรมการชุดนายมีชัย ฤชุพันธุ์ที่ให้แยกสายงานสอบสวนเป็นอิสระในการให้ความเห็นทางคดีแล้ว จะเกิดลักษณะ 2 ด้านขึ้นกับพนักงานสอบสวน
“ด้านหนึ่ง สร้างสายงานสอบสวนให้เป็นเสมือนองค์กรของข้าราชการผู้ประกอบวิชาชีพทางกฎหมายแขนงหนึ่งที่มีอิสระในการทำความเห็นทางคดี มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และมีรายได้ใกล้เคียงกับผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายที่มีหน้าที่ทำความเห็นทางคดีและสั่งคดีในฐานะพนักงานอัยการและผู้พิพากษา แม้จะคงสังกัดอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ตาม อีกด้านหนึ่ง ยกระดับมาตรฐานใหม่ในระบบการสอบสวนคดีอาญาของพนักงานสอบสวนเอง และให้องค์กรภายนอกคือพนักงานอัยการเข้ามาร่วมทำงานตั้งแต่ต้นในคดีสำคัญ เพื่อความรอบคอบ รัดกุม รวดเร็ว ถ่วงดุล และเป็นหลักประกันความยุติธรรมที่ประชาชนจะได้รับ”
นายคำนูณ กล่าวในท้ายที่สุดว่ายังไม่สายเกินไป นายกรัฐมนตรีสามารถทำให้ถูกต้องได้ โดยการส่งร่างพ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญาเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาทันที และดำเนินการผ่านวิปรัฐบาลให้การพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติวาระ 2 ที่ค้างอยู่ในรัฐสภา เป็นไปตามแนวที่ใกล้เคียงกับประเด็นการปฏิรูปใหญ่ที่เคยกำหนดไว้ในร่างฯฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ให้มากที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อำนวย นิ่มมะโน' แจงเหตุผล สละสิทธิเป็น ส.ว.
พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า สละสิทธิการเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เพราะเหตุใด?
'หมอพรทิพย์' แนะ 'บิ๊กตู่' สร้างผลงานชิ้นสุดท้าย ก่อนครบวาระ!
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
'ราษฎรอาวุโส' ทุบโต๊ะ โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู ฟางเส้นสุดท้ายต้องปฏิรูประบบพิทักษ์สันติราษฎร์
ตำรวจเครียดจัดฆ่าตัวตายสูง และฆ่าผู้อื่นตาย ตำรวจเป็นข้าราชการที่มีการฆ่าตัวตายสูงสุดและฆ่าผู้อื่นตาย เกิดกรณีกราดยิงที่หนองบัวลำภู ที่มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตจำนวนมาก
เหตุการณ์กราดยิง 36 ศพต้องไม่สูญเปล่า จวก 'ประยุทธ์' 8 ปี ไม่รักษาสัญญาปฏิรูปตำรวจ
'ธนชาติ-ว่าที่ผู้สมัครส.ส.สกลนคร ทสท.' ยกเหตุการณ์กราดยิง36ศพ ไม่ควรสูญเปล่า จี้จัดการต้นตอของปัญหา ซัด'ประยุทธ์'ไม่รักษาสัญญาปฏิรูปตำรวจ 8 ปี ไม่มีความคืบหน้า ทำให้มีการรับส่วย-ซื้อขายตำแหน่ง
เลขาครป.จี้แก้เหตุกราดยิงที่ต้นเหตุ ฟาด 'ประยุทธ์' ละเลยการปฏิรูปตำรวจปล่อยยาบ้าเกลื่อนเมือง
เลขาครป.จี้รัฐแก้ไขปัญหาเหตุการณ์สะเทือนขวัญกราดยิงที่หนองบัวลำภูที่ต้นเหตุ ซัด 'ประยุทธ์' ละเลยการปฏิรูปตำรวจปล่อยยาบ้าเกลื่อนเมือง โยงเจ้าหน้าที่รัฐไทยคลั่งเพราะเสพติดอำนาจและปืนตั้งแต่6ตุลาฯ19
'วิโรจน์' โยงกราดยิงโคราชถึงหนองบัวลำภู ถ้าไม่ปฏิรูปกองทัพ-ตำรวจ อีกไม่นานจะซ้ำรอย
'วิโรจน์-ก้าวไกล'โยงเหตุการณ์กราดยิงโคราชมาถึงกราดยิงหนองบัวลำภู สะท้อนแวดวงทหาร-ตำรวจ ต้องมีปัญหาน้ำท่วมปากซ่อนอยู่ เตือนถ้าไม่ปฏิรูปกองทัพ ไม่ปฏิรูปตำรวจ อีกไม่นานการกราดยิงก็จะเกิดขึ้นอีก