สมกับที่แม้วให้นั่งหัวหน้าพรรค 'ชลน่าน' พลิ้ว! บอกจุดยืน พท.ไม่ได้แก้ ม.112

'หมอชลน่าน' แจงจุดยืน 'พท.' ไม่ได้แก้ม.112 แต่เป็นตัวกลางอาสานำปัญหาเข้ากลไกสภาฯ ป้องกันการปะทะทางความคิดบนถนน

03 พ.ย.2564 - นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงจุดยืนการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าในที่ประชุมหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านวันนี้จะหยิบมาพูดคุยกัน ในฐานะที่เป็นสมาชิกรัฐสภา ประเด็นที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ไปในนามประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรค แต่เจตนารมณ์จริงกับที่นำเสนอในสื่อมวลชนค่อนข้างไม่ตรงกัน เพราะเจตนารมณ์ของพรรค ที่ชัดเจน คือ ต้องการปกป้องคุ้มครองผู้ที่ถูกบังคับใช้กฎหมายและถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ถูกจับเป็นนักโทษทางความคิดเพียงเพราะเห็นต่างเท่านั้น ก็ใช้กฎหมายบังคับใช้ ถือเป็นการนำกฎหมายมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง และเราเห็นสภาพปัญหาที่จะเป็นวิกฤตทางการเมือง เพราะมีความเห็นต่างกันมากในเรื่องนี้ เนื่องจากมีผู้เรียกร้อง ผู้สนับสนุน และผู้ต่อต้าน ถ้าเราในฐานะพรรคการเมืองปล่อยไว้ทั้งที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติไม่ดึงปัญหามาแก้ไขในรัฐสภาตามวิถีประชาธิปไตย สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นคือการแก้ไขนอกสภา เราไม่อยากให้เกิดปัญหาเหล่านั้นขึ้น จึงรีบอาสานำทุกเรื่องที่เป็นปัญหาเข้าสู่รัฐสภา เพื่อแก้ไขปัญหาตามวิถีประชาธิปไตย

"เราไม่ได้มุ่งหมายว่าจะแก้อย่างไร หน้าที่เราคือรับเรื่องมากก่อน ส่วนจะแก้อย่างไรเป็นหน้าที่ของรัฐสภาตามประเด็นที่เสนอเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่มีสภาพการบังคับใช้ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย เริ่มต้นจากตำรวจ อัยการ ศาล เหล่านี้คือกระบวนการยุติธรรม ซึ่งแล้วแต่เขาเสนอเข้ามา พรรคเพื่อไทยไม่ได้บอกว่าจะทำอะไร เราอย่าตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดี ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ จะกลับไปวงจรอุบาทว์เหมือนเดิม มีการปะทะทางความคิดที่แตกแยกกัน" นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงมุมมองต่อการแก้ไขม. 112 ซึ่งดูเหมือนว่า พรรคจะน้อมรับความเห็นดังกล่าว นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราฟังความเห็นทุกฝ่ายทุกคน ส่วนจะนำเข้าสู่สภาในมุมไหนหรืออย่างไร มันก็เป็นตามไปสภาพนั้น เราต้องยอมรับความเห็นทั้งสองฝ่าย เพราะเป็นตัวกลางในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติและเป็นหน้าที่ ซึ่งจะปล่อยให้ไปสู้กันบนถนนไม่ได้ ส่วนจะเป็นไปตามความเห็นของผู้ใดก็เป็นไปตามระบบรัฐสภาที่ใช้เสียงข้างมาก ผ่านกระบวนการแก้ไขปัญหา ซึ่งไม่ใช่การแก้ไขกฎหมายเพียงอย่างเดียว แต่กระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่มิชอบ เราสามารถใช้กลไกรัฐสภาตรวจสอบและควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินในส่วนนี้ได้ เช่น การตั้งกระทู้ถามสด และนำเข้าสู่กรรมาธิการเพื่อตรวจสอบ อาทิ ทำไมไม่ให้ประกันตัวว่าเพราะอะไร หรือเสนอเป็นญัตติด่วนก็ได้ โดยทำได้หลายมิติ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ฮาร์ท' ซวยแล้ว! ศาลรับฟ้องคดี 112

พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 ได้นำตัว นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือฮาร์ท อดีตพิธีกรและนักร้องชื่อดัง มายื่นฟ้องต่อศาลในความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินีรัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์,พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ

'เทพไท' เตือน เพื่อไทย อย่าเหิมเกริมย่ามใจอำนาจของตัวเอง แทรกแซงแบงก์ชาติ

เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความ ระบุว่า ถ้าพรรคเพื่อไทย คิดจะแก้ พรบ.แบงค์ชาติ ก็ไม่ต่างอะไรกับตัดตีนให้เข้ากับเกือก

โฆษกรัฐบาล แปลกใจ คนตั้งคำถามกับแบงก์ชาติ กลายเป็นถูกสังคมสงสัยในเจตนา

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นที่น่าแปลกใจเพราะจนถึงตอนนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งก็คือหน่วยงานรัฐ และมีภารกิจเป็นธนาคารกลาง ถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานว่าเป็นอิสระจากรัฐบาลได้หรือไม่

สส.ก้าวไกล ตอกรัฐบาลเพื่อไทยอยากย้อนกลับไปสู่ยุคควบคุมผู้ว่าแบงก์ชาติได้ง่าย

นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะอดีตรองผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงสถานการณ์ระหว่างฝ่ายการเมืองรัฐบาลกับ ธปท. ในขณะนี้ ว่า ความจริงไม่ใช่เรื่องใหม่

เศรษฐา โปรยยาหอมชาวอีสาน ไตรมาส 4 รับเงินหมื่นแน่

นายกฯ ขึ้นเวทีมหาสารคาม “อุ๊งอิ๊ง” สส.เพื่อไทย พรึบ ชู 3 ปัญหาวาระแห่งชาติ ‘หนี้นอกระบบ-ยาเสพติด-ภัยแล้ง’ ย้ำคำมั่นเงินหมื่นดิจิทัลได้แน่ไตรมาส 4 ด้านปชช.คึกคักบอก ‘รักเศรษฐา’