21 ก.ค.2565 - จากนั้นเวลา 12.55 น. น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ดพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปราย พล.อ.ประยุทธุ์ ประเด็นเหมืองทองอัครา มีเนื้อหาเล่าถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากคำสั่งคสช.ที่ 72/2559 ที่สั่งปิดเหมืองทองอัครา โดยมีเนื้อหาสำคัญตอนหนึ่งว่า หลังมีการสืบพยานพิจารณาคดีที่บริษัทคิงส์เกต ฟ้องร้องรัฐบาลต่ออนุญาโตตุลาการแล้วเสร็จในเดือน ก.พ. 2563 กระทรวงอุตสาหกรรมมีหนังสือลับที่สุดด่วนที่สุด ที่ อก 0507/ล1846 ลงวันที่ 24 มี.ค. 2563 เรื่องรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาข้อพิพาท โดยที่ปรึกษากฎหมายของไทยตั้งข้อสังเกตว่า ต้องมีการชดใช้ค่าเสียหายแน่นอน ในปี 2560 ก่อนที่บริษัทคิงส์เกตจะฟ้องรัฐบาลไทย เคยเจรจายื่นข้อเรียกร้อง 16 ขอแต่รัฐบาลปัดตก
เมื่อมีคดีความกันสุดท้ายในปี 64 ทั้งคิงส์เกตและรัฐบาลไทย ได้ขอให้คณะอนุญาโตตุลาการชะลอการชี้ขาดให้ทั้งสองฝ่ายได้เจรจาหาข้อยุติข้อพิพาท ซึ่งข้อเรียกร้องแทบเหมือนเดิม บางข้อดำเนินการไปแล้ว เช่นการอนุมัติคำขอใบอนุญาติสำรวจแร่ทองคำจำนวน 44 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 3.9 แสนไร่ จากนั้นทนายของบริษัทคิงส์เกต ได้ยื่นหนังสือถึงคณะอนุญาโตตุลาการ ขอถอนการเครมค่าเสียหาย
พล.อ.ประยุทธ์ มองคิงส์เกตเป็นเหมือง แต่เขามอง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหมู ที่ไล่ต้อนอะไรก็ได้ทั้งหมด หากการให้สิทธิ์ข้างต้นเป็นตามขั้นตอนปกติ ไม่เกี่ยวกับการประณีประนอม เหตุใดถึงมีการถอนการเคลมค่าเสียหาย เท่ากับว่าการทำตามสิ่งที่คิงส์เกตเรียกร้อง เป็นการเอาทรัพย์สมบัติของประเทศไปชดใช้ค่าเสียหายแลกกับการถอนฟ้องใช้หรือไม่
น.ส.จิราพร กล่าวว่า การกระทำลักษณะนี้เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญและการขัดกันแห่งผลประโยชน์ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ได้ผลประโยชน์ทางตรงและทางอ้อมจากการนำงบประมาณแผ่นดินไปต่อสู่คดี และพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องท่าให้อดีตนายกฯคนเก่งกลับประเทศ เพราะความเสียหายตลอด 8 ปี จะเอาใครกลับมาสักคนก็ต้องใช้เวลาแก้ แต่ถ้าสภาโหวตเอาพล.อ.ประยุทธ์ ออกประเทศจะดีขึ้นทันที และที่พล.อ.ประยุทธ์ ยังขออยู่ต่อ ก็เพื่อต้องการสะสางให้เรื่องเหมืองทองอัครา สมประโยชน์กับอีกฝ่ายให้ตัวเองพ้นจากความผิดใช่หรือไม่ หากกฎหมายเป็นกฎหมายเชื่อว่าในอนาคตจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการออกคำสั่งคสช.นี้
และด้วยหลักฐานที่จะยื่นต่อป.ป.ช. เอาผิดพล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ย้ายออกจากบ้านหลวงที่อยู่ในค่ายทหาร ไปอยู่บ้านหลวงหลังใหม่ ไฟฟรี น้ำฟรี ข้าวฟรี ที่เรียกว่าเรือนจำได้ ในส่วนของครม. เมื่อทราบถึงความผิดพล.อ.ประยุทธ์ แล้วยังไว้วางใจให้อยู่ต่อ จะถือว่าทุกท่าน เป็นผู้สนับสนุนให้ พล.อ.ประยทธ์ กระทำผิด ถ้าอาทิตย์หน้าพล.อ.ประยุทธ์ ยังนั้งหัวโต๊ะประชุม ครม.ตนจะยื่นฟ้องพล.อ.ประยุทธ์ และครม.ทั้งหมด หากพล.อ.ประยุทธ์ รอดการลงมติครั้งนี้ได้ แต่ไม่มีทางรอดพ้นการกระทำที่ทรยศชาติได้ พรรคการเมืองที่จะค้ำยันพล.อ.ประยุทธ์ ต่อ จะเข้าข่ายผู้ร่วมขบวนการเอาเงินประชาชนไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว พล.อ.ประยุทธ์ ประยุทธ์ผู้ทรยศต่อชาติคนนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ เผยไต๋นั่งควบกลาโหม ทุกอย่างมีโอกาสขึ้นอยู่กับเงื่อนเวลา
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในที่ประชุมได้มีรัฐมนตรีซักถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.หรือไม่ ว่า ไม่มีใครถามอะไรเลย ทุกคนยังทำงานอย่างต่อเนื่อง
ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 19: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)
(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า
'พิมพ์ภัทรา' พร้อมรับทุกอย่างหากถูกปรับครม. ย้ำให้ถามหัวหน้าพรรครทสช.
น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)มีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ ว่า เมื่อมีการกล่าวถึงเรื่องการจะปรับครม.ย่อมมีความหวั่นไหวเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
'ธรรมนัส' เชื่อ 'บิ๊กป้อม' มีชื่อสำรอง หาก 'ไผ่ ลิกค์' คุณสมบัติไม่ผ่านเป็นรมต.
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอชื่อต่อนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ กับโควตาที่ยังว่างอยู่ ว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร
'พิชิต' ชี้ 'ยิ่งลักษณ์' กลับไทย โมเดลคล้ายทักษิณ
นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี ที่มีชื่อจะมานั่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
'ภูมิธรรม' เผยปรับครม.ยังไม่ชัดเจน เป็นแค่เรื่องคาดเดา อำนาจจริงอยู่ที่นายกฯ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน เป็นเรื่องที่บุคคลภายนอกและสื่อมวลชนคาดเดา อำนาจจริงอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรี