'มัลลิกา' เคลียร์สถานการณ์ราคาข้าว อัดการเมืองปั่นดราม่าข้าวถูกกว่ามาม่า

'มัลลิกา-ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์' ร่ายยาวเหตุราคาข้าวถูกลง แต่รัฐบาลยังมี 'ประกันรายได้' จ่ายส่วนต่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเริ่มงวดแรก 9 พ.ย.นี้ งวด 2-3-4 ตามไปติดๆ เผย 'จุรินทร์' เร่งเครื่องหนักช่วยเหลือชาวนา อัดการเมืองปั่นดราม่าราคาข้าวถูกกว่ามาม่าเสียอีก

6 พ.ย.2564 - นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หนึ่งในทีม JurinSvengerS ให้สัมภาษณ์พิเศษ ถึงสถานการณ์ชาวนาและราคาข้าวที่ตกในช่วงว่า เพราะบาทแข็งก่อนหน้านี้แล้วเพิ่งจะอ่อนลงมานี่เอง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการส่งออกก็มีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดแล้วขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ในการขนส่งทางเรือซึ่งเราก็แก้สถานการณ์ทุกระลอกประจวบกับเพราะน้ำท่วมฝนลงตอนเก็บเกี่ยวข้าวทำให้ข้าวมีความชื้นมากกว่า 30-40% ชาวนาไม่มีที่เก็บก็ขายในความชื้นที่มากซึ่งข้าวปกติความชื้นต้องไม่เกิน 15%

"แต่อย่างไรก็ตามชาวนาก็จะได้ส่วนต่างราคาข้าวที่ตกลงช่วงนี้จากโครงก-ารประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว จะสังเกตเห็นว่าโครงการสองปีที่ผ่านมาชาวนาได้เฮตลอด แต่มาช่วงต้นฤดูปีการผลิตปีนี้เท่านั้นซึ่งเป็นปีที่3ของรัฐบาลที่สถานการณ์หลายอย่างมาประจวบกัน"

ถามถึงค่าต้นทุน ค่าส่วนต่าง ค่าน้ำท่วม ได้เมื่อใด ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ บอกว่า น้ำท่วมลงทะเบียนในพื้นที่และได้รับตามสิทธิของเหตุที่จังหวัดนั้นๆประกาศภัยพิบัติซึ่งเรื่องนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับผิดชอบและดำเนินการอยู่ ค่าส่วนต่างของโครงการประกันรายได้เกษตรกรงวดแรกของปีการผลิตนี้ได้ 9 พ.ย. 2564 และงวดที่ 2-3-4 จ่ายตามไป เนื่องจากงวดแรกนั้นประกาศราคาเกณฑ์กลางจากอนุกรรมการเมื่อวันที่ 4 พ.ย.2564 ส่วนงวดที่ 2-3-4 ประกาศราคาเกณฑ์กลางเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2564

นางมัลลิกา กล่าวต่อว่า ส่วนค่าไถหว่านหรือเงินช่วยต้นทุนการผลิตนั้น ภาษาทางการเรียกโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตร ไร่ละ 1,000 บาทได้ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ อยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรี ทางท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์"จุรินทร์"นำเข้าขออนุมัติแล้วจาก นบข.หรือคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติแล้วและด้วยเป็นก้อนงบประมาณที่มากและบริหารจัดการเพื่อให้ถูกระเบียบบกฎหมายวินัยการเงินการคลังจึงต้องหารืออย่างรอบคอบกับกระทรวงการคลังและทุกฝ่ายแล้วกำลังจะนำเข้าขออนุมัติครม.ต่อไป แล้วเมื่อครม.เคาะก็จะจ่ายตามมาหลังจากนี้

เมื่อถามว่า ทำไมข้าวกิโลละ 5 บาทถูกกว่ามาม่าเสียอีก นางมัลลิกา อธิบายว่า เป็นดราม่าจุดประเด็นจากพรรคการเมืองหนึ่ง ที่เคยทำจำนำข้าวแล้วเกิดการทุจริตอย่างมโหฬาร แต่เขาไม่อธิบายข้อเท็จจริง คือ เลือกที่จะพูดข้อมูลด้านเดียวแต่ความจริงคือข้าวตกต่ำที่สุด มากกว่านี้เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้วนะคะ แต่ในวันนี้ข้าวราคาตกเรายอมรับ แต่ชาวนาได้ส่วนต่างจากราคาข้าวที่ตกลงนั้นจากหลักประกันของรัฐบาล ซึ่งตรงนี้ตัวแทนพรรคการเมืองนั้นเลี่ยงที่จะพูดถึงและไม่อธิบายประชาชน ความจริงจะดีมากเลยถ้าท่านเป็นผู้แทนแล้วอธิบายให้ประชาชนทราบถึงระเบียบกฏเกณฑ์ ขั้นตอนในนโยบายปัจจุบันไม่ใช่บิดเบือนสร้างฝันถึงนโยบายอดีตซึ่งเต็มไปด้วยการทุจริต

แต่ส่วนต่างในโครงการประกันรายได้ชาวนานั้น เงินทุกบาทเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงไม่มีใครสามารถเบียดบังทำการทุจริตได้เลยแม้แต่บาทเดียว เพียงแต่เมื่อสถานการณ์ราคาข้าวไม่ดี ก็จะเป็นภาระงบประมาณของรัฐบาลมากหน่อย แต่ถ้าข้าวราคาดีเหมือนกับพืชชนิดอื่น ที่เราบริหารจัดการราคาพุ่งเกินรายได้ที่ประกันไว้ก็ไม่ตกเป็นภาระของงบประมาณคือไม่ต้องจ่าย เช่น ปาล์มน้ำมันที่ราคาถึงกิโลละ 9 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กิโลละ 9-10 บาท มันสำปะหลังกิโลละ 2.70 บาท และยางพารา เป็นต้น ส่วนผลเม้เราก็บริหารจัดการให้ราคาดีเพราะบริหารตลาดและผลักดันการส่งออกไปตลาดที่ใกล้และเร็ว

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวต่อว่าไปนอกจากโครงการประกันรายได้เกษตรกร รัฐบาลยังดูแลด้วยมาตรการเสริมซึ่งมีทั้งสินเชื่อชะลอการขายคือเก็บข้าวไว้ก่อนให้มันแห้งค่อยขายราคาดีค่อยเอาออกมาขาย สินเชื่อสหกรณ์กลุ่มเกษตรกรเพื่อเก็บรวบรวมข้าวและชดเชยดอกเบี้ยสำหรับผู้ประกอบ ซึ่งมาตรการทั้งหมดคลอดออกมาพร้อมกันยอมรับว่าการจัดการด้านงบประมาณกับกระทรวงการคลังค่อนข้างช้ากว่าปีที่1และปีที่2 ทำให้ผู้ประกอบการโรงสีสหกรณ์กลุ่มการเกษตรรมาตรการเสริม 3 ตัวนี้จากครม.ด้วย และเมื่อ 4 พฤศจิกายนเพิ่งเคาะผ่าน

เมื่อถามว่าแล้วจะทำยังไงให้ข้าวแพง นางมัลลิกา กล่าวว่าใช้ยุทธศาสตร์ข้าวไทยปี 63-67 และยุทธวิธีตลาดนำการผลิต จะร่วมมือกันระหว่างกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าส่งออกข้าวโดยผลิตให้ตรงกับตลาดซึ่งกำลังทำอยู่ ส่งเสริมตลาดข้าวพรีเมียม แปรรูป และบุกตลาดโดยเปิดตลาดใหม่ ฟื้นตลาดเก่า ลุยเพิ่มปริมาณในตลาดเดิม ด้วยการส่งเสริมการขายการสร้างมาตรฐานที่ปลอดภัยให้กับผู้บริโภคซึ่งปัจจุบันท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดำเนินงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนในรูปแบบ กรอ.พาณิชย์ เพื่อลดอุปสรรคในการส่งออกและแก้ไขปัญหาทุกอย่างอย่างทันท่วงที

รองนายกฯจุรินทร์ เป็นประธานคณะอนุกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์เข้าไทยปี 2563-2567 เป้าหมายทำให้ไทยเป็นผู้นำการผลิตการตลาดข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวคุณภาพของโลกภายใต้หลักการตลาดนำการผลิตมี 4 ด้านคือ

1.ด้านตลาดต่างประเทศพัฒนาข้าวให้ตรงความต้องการตลาดใช้ทีมเซลล์แมนประเทศไทยหรือทูตพาณิชย์ทูตเกษตรที่มีอยู่ทั่วโลกติดตามความต้องการตลาด

2.ด้านการตลาดในประเทศมุ่งรักษาเสถียรภาพราคา ซึ่งตรงนี้ก็ใช้หลักประกันรายได้เกษตรกรและมาตรการเสริมคู่ขนานกันไปนั่นเอง

3.ด้านผลิตภัณฑ์แปรรูปและนวัตกรรมจากข้าวเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้น

4.ด้านการผลิตจะเน้นการลดต้นทุนภายใน5ปีต้นทุนการผลิตซึ่งเป็นภาระของชาวนานั้นจะต้องไม่เกินไร่ละ 3,000 บาทและจะต้องพัฒนาพันธุ์ข้าวให้ได้พันธุ์ที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรสูงขึ้น

นางมัลลิกา ยังกล่าวถึงระยะอันใกล้นี้จะผลักดันการส่งออกอย่างไร ในสถานการณ์โควิด ว่า 1.รองนายกฯจุรินทร์ สั่งการให้เร่งเจรจาการเปิดด่านทุกเส้นทางเพื่อระบายสินค้าส่งออกของไทยทุกชนิดเพื่อเพิ่มรายได้ที่จะนำเข้าประเทศซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดีจากประเทศที่เกี่ยวข้องกับการค้าชายแดนและผ่านแดน และตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้แม้ทุกประเทศเจอสถานการณ์วิกฤติแต่ประเทศไทยสามารถพักดันการส่งออกด้านชายแดนและผ่านแดนได้เป็นอย่างดีและเราจะทำต่อไป เรื่องสินค้าข้าวก็เช่นกัน

2.การส่งออกตลาดโลก แถวเน้นขยายตลาดในเขต Rcep ซึ่งมีประชากรรวมกันครึ่งโลกผู้บริโภคจำนวนมากและในต้นปีหน้าจะเป็นการเริ่มใช้เงื่อนไขด้าน FTA ระหว่างกันเราจะขยายตลาด และบุกตลาดทั้งประเทศหลักและเมืองรอง รวมทั้งแผนการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในกิจกรรมระดับโลกเราจะเข้มงวดกับ 58 พื้นที่ทูตพาณิชย์ของเราเพื่อความสำเร็จเชิงนโยบายทุกฝ่ายต้องทำงานเชิงรุก และตอนนี้การส่งออกข้าวกระเตื้องมา 2 เดือนแล้วเป้าหมายสิ้นปีนี้จะต้องได้ไม่ต่ำกว่า 6 ล้านตัน ตอนนี้มาตรการเสริมออกก็จะยิ่งคึกคักมากขึ้นแต่ช่วงสองเดือนที่ผ่านมาผู้ประกอบการไปขออนุญาตการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้น

3.รองนายกฯจุรินทร์ได้เร่งรัดกรมการค้าต่างประเทศให้ติดตามการเจรจากับทางการจีนที่ยังต้องซื้อข้าวไทยที่ค้างตามข้อตกลงเดิมอยู่อีกประมาณกว่า 2 แสนตัน จังหวะนี้ค่าเงินบาทอ่อนค่าราคาข้าวไทยปรับลดลงมาอยู่ในระดับที่แข่งขันได้มากขึ้นน่าจะเป็นผลบวกกับการเจรจา

"พี่น้องเกษตรกรชาวนาและตัวแทนชาวนาซึ่งอยู่ในคณะทั้งอนุกรรมการราคากลางและกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ข้าวแห่งชาติ ทราบถึงความจิงใจของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาเพราะตลอด2ปีที่ผ่านมาเรารับมือทำงานเชิงรุกด้วยกันมาอย่างดีจะสังเกตว่าไม่เคยมีม็อบเลย และวันนี้รัฐบาลกับกระทรวงพาณิชย์ก็จะเดินหน้าแก้ไขด้วยความจริงใจแต่ด้วยหลายปัจจัยที่ท้าทายการทำงานของรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์แต่เราก็จะทำให้ได้ไวและจะทำให้ได้จริง"

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุ ว่าโครงการประกันรายได้เกษตรกรพืช 5 ชนิด กำลังเดินหน้าปีที่ 3 ของรัฐบาลและหนึ่งในนั้นคือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหรือชาวนา งวดแรกจ่ายส่วนต่างวันที่ 9 พ.ย. 2564 จากนั้นก็ตามไปเราช่วยเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 4.68 ล้านครัวเรือน เข้าหอมมะลิประกันรายได้ที่ 15,000 บาทต่อตัน(14ตัน) เข้าหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน(16ตัน) ข้าวหอมปทุม 11,000 บาทต่อตัน(25ตัน) เข้าเจ้า 10,000 บาทต่อตัน (30ตัน) และข้าวเหนียว 12,000 บาทต่อตัน(16ตัน)

"ชาวนาจะได้เงินสองกระเป๋าคือได้จากการขายข้าวหากราคาตกต่ำก็จะได้เงินส่วนต่างเข้ากระเป๋าชาวนาเอง แต่ถ้าราคาข้าวดีขึ้นกว่ารายได้ที่ประกันไว้ตามนั้น และก็แปลว่าเกษตรกรจะได้เงินกระเป๋าเดียวจากราคาข้าวแต่เป็นราคาที่สูงจากการยกระดับราคานั่นเอง"นางมัลลิกา กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลช่วย SME ไทย เข้าถึงแหล่งเงินทุน ผ่านมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ

รัฐบาลบูรณาการความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับ SME ไทย ผ่านการจัดงานมหกรรมทรัพย์หลักประกันทางธุรกิจ

'พาณิชย์' ลุยต่อ จัดธงฟ้าราคาประหยัด ลดภาระค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน ชาว จ.สุรินทร์ และ จ.อุบลราชธานี

“พาณิชย์” เดินหน้าลดค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน จัดงานธงฟ้าราคาประหยัด ทั้งที่จ.สุรินทร์ และจ.อุบลราชธานีนำสินค้าจากผู้ประกอบการ ห้าง เกษตรกร SMEs วิสาหกิจชุมชน เครือข่ายรุ่นใหม่ YEC และ Young Smart Farmer รวม 10 หมวดสินค้า กว่า 1,000 รายการ ลดสูงสุด 60%

'ภูมิธรรม' ชื่นชมคอร์สสอนทำอาหารไทยในฮ่องกงกำลังเป็นที่นิยม ช่วยดันซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเปิดงาน Thai Food Festival ที่โรงแรม Hotel ICON

พาณิชย์ดันซอฟต์พาวเวอร์ไทย ลุยงาน Hong Kong FILMART 2024 คาดสร้างมูลค่าการค้า 800 ล้านบาท

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์บูรณาการร่วมกันระหว่าง กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดทัพผู้ประกอบการธุรกิจภาพยนตร์และบริการที่เกี่ยวเนื่อง 27 ราย พร้อมด้วยสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ และสมาคมส่งเสริมคอนเทนต์วายไทย เตรียมลุยตลาดแรกของปีภายในงานแสดงสินค้า Hong Kong International Film & TV Market 2024 (FILMART)

'จุรินทร์' ซัดรัฐบาลทำงานไม่ทันฝ่ายนิติบัญญัติ โยนถามก้าวไกลเรื่องซักฟอก

“จุรินทร์” ซัดรัฐบาลทำงานไม่ทันฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนการอภิปรายจะมีหรือไม่อยู่ที่ก้าวไกลเพราะ ปชป.เสียงไม่พอ

พาณิชย์ลุยรถธงฟ้า100จุดทั่วกรุง ปชช.ปลื้มซื้อสบายราคาประหยัด

พาณิชย์ยังเดินหน้านำรถโมบายธงฟ้าสินค้าราคาประหยัด เข้าถึงชุมชนอย่างต่อเนื่อง 100 จุดจำหน่ายทั่วกรุงเทพฯ ประชาชนให้ความสนใจออกมาจับจ่ายคึกคัก และมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าราคาต่ำกว่าท้องตลาด สะดวกสบายในการเลือกซื้อ