ขุนคลังแจงปรับลดลง 7.6 พันล้านพร้อมแนะรัฐบาลเพิ่มรายได้-ลดกู้เงิน!

'อาคม' แจงสภาปรับงบประมาณปี 2566 วงเงิน 7.644 พันล้านบาท พร้อมแนะรัฐบาลหาทางเพิ่มรายได้-ลดการกู้เงิน

17 ส.ค.2565 - นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 กล่าวรายงานผลการพิจารณาของคณะ กมธ.ฯ.ว่า กมธ.พิจารณารายละเอียดงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณรวม 734 หน่วย และให้ความสำคัญผลสัมฤทธิ์ที่ประชาชนจะได้รับจากการใช้จ่ายงบประมาณที่มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 แผนการปฏิรูปประเทศฉบับปรับปรุง ร่างนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติและนโยบายแห่งชาติของรัฐบาล ตลอดจนการจัดงบประมาณแก้ปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า เพื่อให้การดำเนินการของหน่วยรับงบประมาณสามารถขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาต่างๆ ต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสบผลสำเร็จ เป็นรูปธรรม เกิดผลสัมฤทธิ์และประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน สอดคล้องกับสภาพการเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ ตลอดจนสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโควิด-19 โดยมีข้อสังเกตสำคัญให้รัฐบาลดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการเพิ่มรายได้และลดการกู้เงินของรัฐบาลเพื่อเพิ่มพื้นที่ทางการคลัง ปรับปรุงกระบวนการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ ควบรวมหน่วยงานที่มีพันธกิจซ้ำซ้อนกัน หรือบูรณาการเพื่อลดความซ้ำซ้อนและประหยัดงบประมาณ รวมถึงกระจายงบประมาณให้ทั่วถึงในทุกพื้นที่ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนบนพื้นฐานความโปร่งใสและตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาของประชาชน

นายอาคม กล่าวต่อว่า มีการปรับลดงบ 7,644,243,800 ล้านบาท โดยได้พิจารณาสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์และแผนแม่บทต่างๆ รวมถึงให้ความสำคัญกับเงินนอกประมาณหรือรายได้ที่จัดเก็บเองเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา อาทิ 1.รายการที่สามารถปรับลดเป้าหมายหรือปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินงานให้เกิดความประหยัด เช่น การฝึกอบรมสัมมนา การจ้างที่ปรึกษา การเดินทางไปราชการต่างประเทศ เป็นต้น 2.รายการที่มีผลดำเนินการล่าช้ากว่าปกติและคาดว่าไม่สามารถดำเนินการได้ทันหรือรายการผูกพันงบประมาณเดิมที่ผลการจัดซื้อจัดจ้างต่ำกว่าวงงบประมาณเสนอไว้ 3.รายการที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือที่ดำเนินการไปแล้ว โดยใช้จ่ายจากการโอนเปลี่ยนแปลงหรือการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี 2565 และ 4.รายการที่ยกเลิกโครงการหรือสามารถจากแหล่งอื่นที่นอกเหนือจากงบประมาณ นอกจากนั้นยังพิจารณาเพิ่มงบประมาณให้หน่วยรับงบประมาณตามความเหมาะสมและจำเป็น

“การพิจารณารายละเอียดงบประมาณทั้งการปรับลด การเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณดังกล่าว กมธ.ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับความพร้อมและศักยภาพของหน่วยงาน ความซ้ำซ้อน เป้าหมายการดำเนินการ ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ภารกิจสำคัญเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสังคมภายหลังภาวะวิกฤตโควิดและประชาชนโดยตรงเป็นสำคัญ รวมทั้งสนับสนุนให้เศรษฐกิจเติบโต เข้มแข็ง รองรับการเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้กรอบวงเงินประมาณ จำนวน 3.185 ล้านล้านบาท” นายอาคม กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส่องปูมหลัง 'มาริษ เสงี่ยมพงษ์' สะพัด เข้าวิน รมว.ต่างประเทศ แทน 'ปานปรีย์'

ภายหลัง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ นั้น ทำให้ตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศว่างลง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องเร่งหาบุคคลเพื่อมารับหน้าที่ดังกล่าว โดยนายเศรษฐา ได้ระบุสเปกว่าคนที่จะมาเป็นรมว.ต่างประเทศ