'มงคลกิตติ์' ปักธงชายแดนใต้ ทุบโต๊ะยุบ 'กอ.รมน.'

“มงคลกิตติ์” ร่อนลงชายแดนใต้ เปิดตัวผู้สมัคร 3 จังหวัด ฟุ้งนโยบายสางปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ ชี้เปรี้ยงยุบ กอ.รมน.

21 ส.ค.2565 – ที่โรงแรมรีเวอร์ อ.เมือง จ.ปัตตานี พรรคไทยศรีวิไลย์ นำโดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์  ร่วมประชุมกับสมาชิกพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมชี้แจงการทำงานของพรรคไทยศรีวิไลย์ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติงานในสภา ตลอดจนร่วมกันเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ภายใต้สโลแกน เลือกสงบ จบที่ไทยศรีวิไลย์  ชูนโยบายพรรคในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายมงคลกิตติ์ เปิดเผยว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นโยบายหลักของพรรคในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย 1.ให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก ฉุกเฉิน โดยเปลี่ยนใช้กฎหมายแบบปกติเหมือนกับจังหวัดอื่นๆ 2. รัฐบาลชุดต่อไปหากพรรคไทยศรีวิไลย์ได้ร่วมรัฐบาล ก็จะเสนอให้รัฐบาลถอนกำลังทหารส่วนเกิน ออกจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้คงกำลังทหารเหมือนกับจังหวัดอื่นๆ 3. จะเสนอแก้ไข ป.วิอาญา เรื่องการสืบสวนสอบสวน  โดยจะเพิ่มเงื่อนไข สำหรับผู้ที่กระทำความผิด จะต้องมีตัวแทนคณะกรรมการอิสลาม ส่งตัวแทนไปร่วมการสืบสวนสอบสวนด้วย และ 4. การคืนอาชีพให้กับประชาชน โดยไม่มีการผูกขาด 

“ส่วนกอ.รมน.นั้น ก็ควรที่จะยุบ เมื่อก่อนจะเล็กกว่านี้ แต่วันนี้มีมากเกินไป เอานายพลที่เกษียณเข้ามากันเยอะ เอานายพลที่ตำแหน่งลอยก็เอามาใส่ใน กอ.รมน. อีกทั้งตำแหน่งนายพลมีเยอะเกินไป มีทั้งค่าน้ำมัน 3-4 หมื่นบาท กลายเป็นเงินเดือนเกือบแสนห้า ก็เอาเข้ามาอยู่ใน กอ.รมน. ซึ่งถ้าไม่มีความจำเป็นก็ต้องยุบ กอ.รมน.  เพราะดูแล้ว ซับซ้อนกันกับกองทัพภาค อีกทั้งเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาน สู้เอางบประมาณส่วนนี้ไปซื้อเรือดำน้ำ และเครื่องบินรบไม่ดีกว่าเหรอ” นายมงคลกิตติ์ ระบุ. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'เสี่ยแฮงค์' ไม่กลัวพรรคอื่นเปิดนโยบายก่อน โว รทสช. มีดีแน่นอน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้

วัดใจพรรคการเมืองในสมรภูมิเลือกตั้ง กับเจตนารมณ์สร้างระบบ 'บำนาญผู้สูงอายุ' ต้องไปไกลกว่า 'นโยบายหาเสียง'

เวทีเสวนาวิชาการหัวข้อ “ระบบบำนาญแห่งชาติเพื่อความเป็นธรรมและยั่งยืน สู่นโยบายพรรคการเมืองด้านระบบความคุ้มครองทางสังคม