งบปี 66 ฉลุย! 'วุฒิสภา' ลงมติเห็นชอบแล้ว ห่วง 'ท้องถิ่น-จังหวัด' ได้งบน้อย

30 ส.ค.2565 - เมื่อเวลา 09.30 น. ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท ที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญ กำหนดให้วุฒิสภาต้องพิจารณาเห็นชอบภายใน 20 วันนับแต่วันที่ได้รับร่างพ.ร.บ. คือวันที่ 24 สิงหาคม โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะตัวแทนของคณะรัฐมนตรีเข้าชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภา
 
นายอาคม นำเสนอเนื้อหาตอนหนึ่งก่อนที่วุฒิสภาจะพิจารณา โดยยืนยันการจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยรับงบประมาณสอดคล้องกับแผนพัฒนาประเทศ แผนปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ รัฐบาลขอขอบคุณวุฒิสภา ที่จะพิจารณาและพร้อมขอรับข้อสังเกตไว้ด้วยความขอบคุณ พร้อมจะนำไปพิจารณาปรับปรุงให้การจัดสรรงบประมาณคุ้มค่าเป้นประโยชน์สูงสุดกับประชาชนอย่างยั่งยืน
 
จากนั้นเป็นการชี้แจงรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 66 วุฒิสภา โดย พล.อ.ชาตอุดม ติตถะสิริ ส.ว. ฐานะประธานกมธ.ฯ อภิปรายว่า การจัดสรรงบประมาณลงจังหวัดนั้นต่ำกว่ากรอบ ทั้งนี้รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับพื้นที่ เพิ่มกระจายอำนาจในการจัดสรรงบเชิงพื้นที่ตามความต้องการของจังหวัด และหน่วยงานในจังหวัดเพื่อลดความซ้ำซ้อน ความเหลื่อมล้ำการกระจายงบลงสู่พื้นที่ สำหรับประมาณการรายรับที่จะส่งให้ท้องถิ่น รวมถึงรายได้ของท้องถิ่นคาดว่ามียอดต่ำกว่า 10%- 20% ดังนั้นรัฐบาลควรเพิ่มอำนาจให้ท้องถิ่นในการจัดเก็บรายได้ โดยเฉพาะ อปท.ที่มีรายได้น้อยหรือไม่มีเงินสะสม
 
“ยกเลิกกำหนดสัดส่วนจังหวัดหรอกลุ่มจังหวัด ในงบลงทุน 70% แต่ควรพิจารณาลดเหลือ 30% ที่เหมาะสมกับความต้องการจังหวัด ขณะที่งบซ่อมถนน กระทรวงคมนาคมควรรับผิดชอบเสนอตามความต้องการจังหวัดในช่วงเวลาที่เหมาะสม ขณะที่การถ่ายโอน รพ.สต. ให้ท้องถิ่น อาจมีปัญหาเรื่องบุคลากรทั้งการบริหารบุคลากรและงบประมาณ ดังนั้นควรให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกำหนดมาตรการแก้ไขที่เหมาะสม” พล.อ.ชาตอุดม กล่าว  
 
พล.อ.ชาตอุดม กล่าวว่า สำหรับการควบคุมค่าใช้จ่ายบุคลากรส่วนราชการที่พบว่ามียอดเพิ่มขึ้นทุกปี กมธ.จึงมีข้อเสนออัตรากำลังภาครัฐ ด้วยการทบทวนบทบาท กรอบอัตราที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่แปรเปลี่ยน รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล 
 
ขณะที่ พล.อ.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฎ ส.ว. ฐานะกมธ.รายงานผลการศึกษาตอนหนึ่งว่า สาระโดยสรุปว่า โครงการสำคัญที่หน่วยรับงบประมาณขออนุมัติจาก ครม. หลายโครงการ ไม่สอดคล้องกับแผนแม่บทและแผนยุทธศาสตร์ชาติทั้งนี้พบว่าไม่ปฏิบัติตามมติ ครม. ทำให้ไม่สามารถติดตามการใช้จ่ายเงินของภาครัฐแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ดังนั้นการแก้ไขควรมีหน่วยงานเจ้าภาพเพื่อขับเคลื่อนโครงการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติและมติ ครม. 
 
"แผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณ คลาดเคลื่อนจากรางานการเงินของหน่วยรับงบประมาณและมีเงินสะสมคงเหลือ เช่น องค์กรมหาชน องค์กรกำกับของรัฐมีเงินคงค้างจำนวนมาก และพบว่ามียยอดสะสมอของเงินนอกงบประมาณสูงถึง 2.8ล้านล้านบาท ดังนั้นสำนักงบประมาณต้องเคร่งครัดนำข้อมูลนอกงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณที่ถูกต้องประกอบการพิจารณาต่อสภา เพื่อให้รักษากรอบการเงินการคลังของรัฐตามกฎหมาย” พล.อ.ปัฐมพงศ์ กล่าว
 
พล.อ.ปัฐมพงศ์ กล่าวด้วยว่าสำหรบความคืบหน้าการขับเคลื่อนกิจกรรมปฏิรูปประเทศ ที่จะสิ้นสุดการเบิกจ่ายในวันที่ 30 กันยายน 65 พบว่าหลายโครงการต้องกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี และจะ เร่งรัดเบิกจ่ายให้เสร็จในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 
 
ขณะที่การอภิปรายของส.ว. นั้น เบื้องต้นมีส.ว. ลงชื่ออภิปราย รวม 19 คน โดยนายพรเพชร กำหนดให้อภิปรายเรียงตามลำดับมาตรา คนละ 10 นาที ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่า ส.ว.ที่แจ้งขออภิปรายนั้น ส่วนใหญ่เป็นการอภิปรายภาพรวมของงบประมาณปี 2566 และหน่วยงานท้องถิ่น จังหวัดและกลุ่มจังหวัด รวมถึงองค์กรอิสระ แต่ไม่ปรากฎว่ามีผู้ใดที่อภิปรายในงบของกระทรวงกลาโหม งบกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงดีอีเอส.
 
จากนั้นเวลา 17.00 น. ที่ประชุมวุฒิสภา ลงมติในวาระที่ 3 ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เห็นชอบด้วยกับสภาผู้แทนราษฎร ด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 179 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี งดออกเสียง 3 เสียง และเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ จากนั้น จะจัดส่งให้คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)

สว.ป้อง 'อนุทิน-เอกนิติ' ร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' บอกอาจไม่รู้เบื้องลึกมาก่อน!

'พล.อ.สวัสดิ์' มอง 'อนุทิน-เอกนิติ' ร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อาจไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังมาก่อน ว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ ต้องให้ความเป็นธรรม เชื่อรัฐบาลชัดเจนหากพบเชื่อมโยงสแกมเมอร์จัดการตามกฏหมายอยู่แล้ว

สภาสูงอวยรัฐบาลแก้น้ำท่วมไม่ล่าช้า! แต่ติดใจเงินเยียวยา 9 พันบาท

'สว.ภิญญาพัชญ์' ชี้รัฐบาล ควรจัดศูนย์ One Stop Service บริการ ปชช. เร่งจ่ายเงินเยียวยา ถามให้ 9,000 เท่าเทียมหรือไม่ มองรัฐบาลทำงานไม่ล่าช้า ลงพื้นที่รวดเร็ว

มาดุ! 'บิ๊กเกรียง' ฉะคนปล่อยเฟคนิวส์ หาน้ำท่วมใต้คนตายเป็นพัน น่าจะเอาหัวเสียบประจาน

'บิ๊กเกรียง' รับมอบของบริจาคช่วยอุทกภัย ฉะ คนปล่อยเฟคนิวส์ หาว่าน้ำท่วมใต้คนตายเป็นพัน น่าจะหัวเสียบประจาน ถามเอาจากไหนมาพูด บอก เสียหาย ถ้าเล่นการเมืองกัน ทำขวัญของประชาชนตกต่ำ ให้กำลังใจ 'นายกฯอนุทิน-รัฐบาล' เชื่อทำตามแผนฟื้นฟู-เยียวยาอยู่แล้ว

มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง

‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม

'ชลน่าน' คาดถกแก้ รธน. วาระสอง ใช้เวลา 2 วันพอ แม้มีประเด็นให้เถียงกันหนัก

“ชลน่าน” ประเมิน ถกแก้รธน.วาระสอง 2 วันเพียงพอ แม้มีรายละเอียดมาก- ถกกันหนัก แต่ยุติด้วยเสียงข้างมาก เผยสงวนความเห็นไปสู้ในรัฐสภา ทวงคืน “สสร.- โละสูตร20 หยิบ1