เพื่อไทยยุ่งแล้ว! คนอีสานชู 'สุดารัตน์' ขี่ 'แพทองธาร'

10 ก.ย.2565 - อีสานโพล ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสานมหาวิทยาลัยวิทยาลัยขอนแก่น ได้เปิดเผยผลสำรวจในหัวขัอ "ความเครียดของคนอีสานกับปัญหาเศรษฐกิจ" โดยผลการสำรวจพบว่า 3 ปัญหาที่คนอีสานกำลังเผชิญและมีความเครียดมากที่สุด คือ ค่าครองชีพสูงและราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพิ่มขึ้นมาก และรายได้ไม่พอกับรายจ่ายจนต้องมีหนี้เพิ่ม และยังมีปัญหาเศรษฐกิจอื่นๆ ที่คนอีสานราวๆ 30% รู้สึกเครียดมากและรอการบรรเทาปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการหางานใหม่ยากหรือหางานทำยาก ภาระรายจ่ายด้านการศึกษา ผ่อนชำระหนี้กับสถาบันการเงินไม่ไหวขาดทุนจากการทำเกษตรหรือแทบไม่มีกำไร ขาดแคลนเงินทุนหรือสินเชื่อในการทำมาหากิน เป็นผู้สูงอายุที่มีเงินไม่พอใช้หรือมีภาระต้องเลี้ยงดูผู้สูงอายุ และผ่อนชำระหนี้นอกระบบไม่ไหว

รศ. ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดเผยว่าการสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานต่อความเครียดที่คนอีสานกำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและการเงินเพื่อสะท้อนปัญหาของคนอีสานให้กับทางภาครัฐหรือพรรคการเมืองต่างๆ ได้หาแนวทางบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจให้กับคนอีสาน จากกลุ่มตัวอย่างอายุ18 ปีขึ้นไป 1,065 รายในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด โดยเมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับความเครียดเกี่ยวกับปัญหาด้านเศรษฐกิจและการเงินใน 14ประเด็น พบว่า ค่าครองชีพสูง/ราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น เป็นปัญหาที่ทำให้คนอีสานมีความเครียดมากที่สุดคือ ร้อยละ 62.4 รองลงมา ร้อยละ 56.9 เครียดมากจากปัญหาค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพิ่มขึ้นมาก

อันดับ3 ร้อยละ 42.5 เครียดมากจากปัญหารายได้ไม่พอกับรายจ่ายจนต้องมีหนี้เพิ่ม ตามมาด้วย ร้อยละ 37.1เครียดมากจากปัญหาผ่อนชำระหนี้กับสถาบันการเงินไม่ไหว ร้อยละ 33.8 เครียดมากจากการหางานใหม่ยากหรือหางานทำยาก ร้อยละ 33.0 เครียดมากจากภาระรายจ่ายด้านการศึกษา ร้อยละ 32.2เครียดมากจากปัญหาขาดทุนจากการทำการเกษตรหรือแทบไม่มีกำไร ร้อยละ 31.9 เครียดมากจากปัญหาขาดแคลนเงินทุนหรือสินเชื่อในการทำมาหากิน ร้อยละ 29.7 เครียดมากจากการเป็นผู้สูงอายุที่มีเงินไม่พอใช้หรือมีภาระต้องเลี้ยงดูผู้สูงอายุร้อยละ 28.6 เครียดมากจากการผ่อนชำระหนี้นอกระบบไม่ไหวร้อยละ 24.0 เครียดมากจากธุรกิจมียอดขายลดลงหรือขายได้น้อย ร้อยละ 19.3 เครียดมากจากการมีอุปสรรคการทำมาหากินจากหน่วยงานรัฐ ร้อยละ 13.8 เครียดมากจากการโดนหลอกหรือโดนโกงจนสูญเสียเงินจำนวนมาก และร้อยละ 7.9 เครียดมากจากปัญหานักท่องเที่ยวยังมีน้อยส่งผลต่อการทำมาหากินถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ท่านอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

"เมื่อสอบถามต่อว่า ถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ ท่านอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจพบว่า อันดับ1 เป็นของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 23.4 รองลงมาคุณแพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 21.1 อันดับ 3 คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 20.2 ตามมาด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 12.5 นานอนุทิน ชาญวีรกุล ร้อยละ 9.9 คนอื่นๆ จากพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 6.5 คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ร้อยละ 2.8 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ร้อยละ 1.7 และอื่นๆ ร้อยละ 1.9"

รศ.ดร.สุทิน กล่าวต่ออีกว่าและเมื่อสอบถามว่า ถ้าเลือกตั้ง ส.ส. วันนี้ท่านมีแนวโน้มจะลงคะแนนให้พรรคใดเพื่อมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ พบว่า อันดับ1 คือ พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 35.9 รองลงมาพรรคก้าวไกล ร้อยละ19.8 อันดับ 3พรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ 14.7 ตามมาด้วยพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 12.6 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ10.7 พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 3.1 พรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 1.9 และพรรคอื่นๆ ร้อยละ 1.4

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุวัจน์' หวนคืนชื่อเดิม 'พรรคชาติพัฒนา' แต่งตั้ง สส.แจ้ เป็นรองหัวหน้าพรรค

พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า , นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ,

'ชัยเกษม' ออกตัวไม่เกี่ยวปรับครม. ผู้บริหารพรรคจะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ สบายๆ

นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเดินทางมาไหว้วันนี้เกี่ยวอะไรกับการปรับ ครม.หรือไม่

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 20: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'เผ่าภูมิ' ปัดนายกฯ ส่งสัญญาณนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวได้เดินทางมารับเอกสารกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนไม่ให้คอมเมนท์ ยืนยันว่าขณะ

อดีตบิ๊กข่าวกรองเตือนสติ! อย่าหลับตาพูดลืมตาดูสถานการณ์โลกด้วย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ