'พีระพันธุ์' ปฏิเสธข่าวถูกดันนายกฯคนใหม่ เชื่อเป็นไปได้ยาก มั่นใจผลวินิจฉัย 'บิ๊กตู่' ไร้ปัญหา

16 ก.ย.2565 - ที่ จ.ชุมพร นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ตอบคำถามกรณีมีกระแสข่าวว่าหากผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดวาระ 8 ปีนายกรัฐมนตรี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สามารถไปต่อได้ อาจจะมีการดันให้นายพีระพันธุ์ ขึ้นมาเป็นนายกฯแทน ว่า ไม่ได้ยินข่าวเรื่องนี้ และเป็นไปได้ยากที่จะเป็นแบบนั้น เพราะตนไม่ได้อยู่ในบัญชี ส่วนที่มีข่าวในสื่อต่างๆ ก็เป็นเรื่องของสื่อมวลชนที่จะวิเคราะห์กันไปเอง อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าผลการวินิจฉัยในวันที่ 30 ก.ย.นี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากได้เป็นนายกฯ พร้อมหรือไม่ นายพีระพันธุ์ตอบว่า ตนเป็นนักการเมืองก็ต้องพร้อมที่จะทำหน้าที่ในทุกตำแหน่งอยู่แล้ว แต่อยากให้พูดในเรื่องที่เป็นไปได้จะดีกว่า เพราะส่วนตัวไม่เคยได้ยินข่าวนี้ ตอนนี้ในฐานะหัวหน้าพรรคก็จะยังทำงานในนามพรรคของตัวเองต่อไป ไม่ไปรวมกับใครอยู่ แต่ถ้าใครจะมารวมก็มาพิจารณาได้ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเป็นที่ปรึกษานายกฯ เพราะการทำงานทางการเมืองเป็นเรื่องส่วนตัวเป็นคนละเรื่องกับหน้าที่ในตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หัวหน้ารทสช. มั่นใจพรรคไม่สะเทือน ไร้คลื่นใต้น้ำ ปม 'กฤษฎา-สุพัฒนพงษ์' ลาออก

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีกระแสข่าวนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ออกจากตำแหน่งรมช.คลัง ว่า คงเป็นกระแสข่าว ตนยังไม่ทราบ ตนเพิ่งประชุมเสร็จเดี๋ยวนี้

'พีระพันธุ์' เผยเร่งเขียนกฎหมาย ดึงอำนาจกำหนดภาษีน้ำมันดีเซลกลับมาอยู่ ก.พลังงาน เหมือนเดิม

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีสมาคมขนส่งมีข้อกังวลเกี่ยวกับเรื่องการปรับเพดานการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไปที่ 33 บาทต่อลิตรอาจกระทบกับภาคการขนส่งนั้น ว่า เราพยายามที่จะดูแลราคาน้ำมันดีเซลมาให้ตลอด

'สุพัฒนพงษ์' ไขก๊อกพ้นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน และอดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้มีหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค

'โฆษกรัฐบาล' รับถูกทาบทามไปทำงานอื่น ย้ำนายกฯยังไม่ส่งสัญญาณเปลี่ยนตัว

นายชัย​ วัชรงค์​ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเปลี่ยนตัวโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ว่า​ ตนไม่ขอออกความเห็น เนื่องจากยังไม่ได้มีการสื่อสารอะไรมาถึงตน