27 ก.ย. 2565 - นายธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานกระบวนการยุติธรรม สถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก มีรายละเอียดดังนี้
ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคำร้องของ ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ยื่นต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของนายกรัฐมนตรีในวันที่ 30 กันยายน 2565 นี้นั้น
มีข้อกฎหมายที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำคำวินิจฉัย ของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีดังกล่าว ซึ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้แก่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 ข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 และระเบียบศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการบริหารจัดการคดี พ.ศ. 2563 โดยมีสาระสำคัญที่น่าสนใจโดยสังเขปดังนี้
1.ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นองค์คณะทุกคนต้องร่วมพิจารณาคดีและร่วมทําคําวินิจฉัย เว้นแต่มีเหตุถูกคัดค้านหรือมีเหตุจำเป็นอื่นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หรือหากตุลาการคนใดไม่ได้ร่วมในการพิจารณาประเด็นสำคัญแห่งคดีย่อมไม่มีอำนาจทำคำวินิจฉัยคดีนั้น
2.องค์คณะของศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาคดีและในการทําคําวินิจฉัย ต้องประกอบด้วยตุลาการไม่น้อยกว่า 7 คน
3.การทำคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ถือเสียงข้างมาก ในกรณีที่คะแนนเสียงเท่ากัน ให้ศาลปรึกษาหารือกันจนกว่าจะได้ข้อยุติ
4.ตุลาการซึ่งเป็นองค์คณะทุกคนจะงดออกเสียงในประเด็นใดประเด็นหนึ่งตามที่ศาลกําหนดไว้ไม่ได้ เว้นแต่ตุลาการผู้นั้นจะไม่ได้ร่วมในการพิจารณาประเด็นสำคัญแห่งคดี
5.คําวินิจฉัยของศาลอย่างน้อยต้องประกอบด้วยข้ออ้างและคําขอตามที่ปรากฏในคําร้องขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัย ข้อโต้แย้งในคําชี้แจงข้อกล่าวหา ประเด็นแห่งคดี สรุปข้อเท็จจริงที่ได้จากการพิจารณา เหตุผลในการวินิจฉัยในแต่ละประเด็น และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิง รวมทั้งผลแห่งคําวินิจฉัย
6.ในการวินิจฉัยคดี จะเริ่มต้นจากการที่ตุลาการซึ่งเป็นองค์คณะทุกคนทําความเห็นส่วนตนเป็นหนังสือ พร้อมทั้งแถลงด้วยวาจาต่อที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ต่อจากนั้นที่ประชุมจะปรึกษาหารือร่วมกัน แล้วจึงมีการลงมติในการวินิจฉัยคดี และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง
7.คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้มีผลในวันที่อ่าน
8.ความเห็นส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้ทำโดยสังเขปและต้องเผยแพร่ต่อสาธารณะ โดยเผยแพร่ผ่านทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และปิดประกาศไว้ ณ ที่ทำการศาลรัฐธรรมนูญภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีคำวินิจฉัย
9.สำหรับคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีคําวินิจฉัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มติเอกฉันท์! ศาลรธน. ไม่รับคำร้อง 'เรืองไกร' กล่าวหารัฐสภาแก้ รธน.ล้มล้างการปกครอง
‘ศาลรธน.’ มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง ‘เรืองไกร’ ปมกล่าวหาประธานรัฐสภา–สมาชิกรัฐสภาใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ชี้การประชุมร่วมแก้รัฐธรรมนูญยังไม่ปรากฏพฤติการณ์เข้าข่ายมาตรา 49 แม้อัยการสูงสุดไม่ดำเนินการแต่ผู้ร้องมีสิทธิเข้าศาลโดยตรงก็ตาม
เปิดทรัพย์สินอดีตตุลาการศาล รธน. 'ปัญญา อุดชาชน'
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง รายชื่อที่น่าสนใจ นายปัญญา อุดชาชน กรณีพ้นจากตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2568
'สว.สำรอง' ร้องศาลวินิจฉัย MOA 'ปชน.-ภท.' ส่อขัดรธน.
'สว.สำรอง' ร้องศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย MOA 'ปชน.-ภท.' เป็นการกระทำขัดรธน.หรือไม่ พร้อมเตือน 'อนุทิน' ห้ามแทรกแซงสำนวนฮั้ว สว.
ดร.ณัฏฐ์ ชำแหละโมเดลแก้รธน. ฉบับ 3 พรรคการเมือง
“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน ชำแหละ โมเดล “ที่มา” และ “คณะผู้จัดทำรัฐธรรมนูญ” ฉบับพรรค “ปชน.พท.-ภท.“ ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
บันไดสามขั้นได้ รธน.ฉบับใหม่ ครม.-พรรคร่วมรัฐบาล ต้องเสนอร่างแก้ไข รธน.ประกบ
การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่การให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญมายกร่าง รธน.ฉบับใหม่ เป็นอีกหนึ่งประเด็นการเมืองที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้มีการทำประชามติสามครั้ง
นายกสมาคมทนายฯ วิจารณ์ศาลรธน. ถึงขั้น 'ช็อค' อ้างเป็นตลกร้ายทางการเมือง
นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ได้ให้ความเห็นผ่านเฟซบุ๊คสมาคมทนายความเเห่งประเทศไทยผ่านบันทึก


