"สุดารัตน์" พรรคไทยสร้างไทย ลุยช่วยชาวนา ซับน้ำตาชาวอีสาน ประกาศ “ทุ่งกุลาต้องไม่ร้องไห้อีกต่อไป” โชว์วิสัยทัศน์แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ นำร่องซื้อข้าวเปลือกจากชาวนากก.ละ 12 บาท แนะรัฐบาลเร่งซื้อนำตลาด ดึงข้าวออกระบบ หลังราคาดิ่งสุดรอบ 10 ปี
13 พ.ย.2564 - ที่อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย นายพงศกร อรรณนพพร นายต่อพงศ์ ไชยสาส์น นายทองหล่อ พลโคตร ผู้บริหารพรรคฯ และ ทีมไทยสร้างไทยร้อยเอ็ด นายชัชวาล แพทยาไทย นายกิจประเสริฐ นพรัตน์ และนายธนะรัช นพรัตน์ ลงพื้นที่ให้กำลังใจพี่น้องชาวนา พร้อมรับฟังความทุกข์ยาก โดยเฉพาะราคาข้าวที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี โดยได้ร่วมกับพี่น้องชาวนา ขึ้นรถเกี่ยวข้าว และนำข้าวขึ้นรถอีแต๋นไปขายข้าวให้โรงสีด้วยตนเอง เพื่อให้รู้ข้อเท็จจริงของปัญหา และได้ร่วมสัมผัส ความทุกข์ของเกษตรกรอย่างใกล้ชิด
พร้อมประกาศสู้เคียงข้างเกษตรกรให้ผ่านพ้นความทุกข์ยากไปด้วยกัน โดยตั้งใจมาช่วยซับน้ำตาและร่วมหาทางออก หลังราคาข้าวเปลือกตกต่ำ เหลือเพียงกิโลกรัมละ 6-8 บาทเท่านั้น เป็นความทุกข์ซ้ำซากของชาวนาที่ "ยิ่งทำยิ่งเจ๊ง ยิ่งทำยิ่งจน ยิ่งทำยิ่งเป็นหนี้"
สถานการณ์ดังกล่าว ถูกซ้ำเติมด้วยต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เช่นราคาปุ๋ย เพิ่มขึ้นจาก 600 เป็น 1,200 บาท ต้นทุนในการผลิตต่อไร่ไม่ต่ำกว่า 3,500 บาท โดยยังไม่รวมค่าแรง ต้นทุนที่สูงขึ้นเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่แพงขึ้น แต่ขณะที่ผลผลิตต่อไร่ของชาวนากลับลดลง เหลือไร่ละไม่เกิน 300-400 กิโลกรัม ปัจจุบันราคารับซื้อข้าวเปลือกไม่เกิน 8 บาทต่อกก. ดังนั้นรายได้จากการขายข้าวหนึ่งไร่ ได้ไม่เกิน 3,200 บาท ชาวนาจึงขาดทุนยับเยิน
ประกอบกับการส่งออกข้าวในปีที่ผ่านมาลดลงกว่าร้อยละ 25 เป็นผลให้สต๊อกข้าวในประเทศ ล้นเกินความต้องการ จึงทำให้กดราคาข้าวที่กำลังเก็บเกี่ยวให้ตกต่ำลงไปอีก ราคาจึงต่ำสุดในรอบ 10 ปี เป็นที่มาที่พรรคไทยสร้างไทย ต้องเดินหน้าเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม เพราะ”ทุกข์ของชาวนาก็คือทุกข์ของพรรคไทยสร้างไทย”
โดยระยะเร่งด่วน รัฐบาลต้องดึงข้าวออกจากระบบในขณะนี้ให้มากที่สุด เร็วที่สุด พรรคไทยสร้างไทย จึงเสนอรัฐบาลให้จัดงบประมาณ 24,000 ล้านบาท เพื่อซื้อข้าวเปลือกประมาณ 2 ล้านตัน ในราคากิโลกรัมละ 12 บาท นำไปสีเป็นข้าวสาร แจกให้ครัวเรือนยากจน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดและน้ำท่วมครัวเรือนละ 50 กิโลกรัม จำนวนประมาณ 20 ล้านครัวเรือน จะทำให้ดึงราคาข้าวเปลือกกลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ ตามกลไกอุปสงค์และอุปทาน
โดยในวันนี้ มูลนิธิไทยพึ่งไทยจะรับซื้อข้าวเปลือกโดยตรงจากชาวนา นำร่องให้เห็นตัวอย่างในการแก้ไขปัญหาให้ชาวนา ในราคากิโลกรัมละ 12 บาทเพื่อนำไปสีเป็นข้าวสาร แจกจ่ายพี่น้องที่กำลังประสบปัญหาโควิด-19 และน้ำท่วม พร้อมนำไปขายเพื่อเปิดตลาดให้ชาวนาสีข้าวขายตรงให้ผู้บริโภค รวมทั้งรัฐบาลต้องใช้กลไกของทั้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงต่างประเทศ ในการลุยเจรจาหาตลาดส่งออกข้าวไทยโดยด่วนที่สุด
ในส่วนของระยะกลาง ต้องหาแนวทางลด ต้นทุนการผลิต ทั้งราคาปุ๋ยที่แพงขึ้นกว่าเท่าตัว และปัจจัยการผลิตอื่นๆ ไม่ให้เป็นภาระของพี่น้องชาวนา โดยเฉพาะการยกเลิกการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตที่สำคัญอีกตัวของภาคเกษตร ที่พรรคไทยสร้างไทยเสนอไปแล้ว ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันที่เซลล์ลดลงทันทีลิตรละ 6 บาท
และในระยะยาว รัฐต้องเร่งจัดสรรงบประมาณ วิจัยพันธุ์ข้าว ปรับปรุงผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น เพื่อเป็นกลไกในการแข่งขันกับประเทศผู้ค้ารายอื่น พร้อมสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจอื่นควบคู่ไปกับการปลูกข้าว ป้องกันอุปทานของผลผลิตล้นตลาด จนกดราคาข้าวต่ำลง และมุ่งช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อปรับเปลี่ยนการผลิตไปสู่ข้าวออร์แกนนิค และการแปรรูปข้าวเป็นอาหาร และสินค้าชนิดอื่น ที่จะเป็นการเพิ่มมูลค่าของข้าวให้สูงขึ้น ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้ รัฐต้องมีความจริงใจในการดูแลพี่น้องชาวนา วางแผนยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรอย่างจริงจัง เพื่อให้คนตัวเล็ก ซึ่งถือเป็นคนกลุ่มใหญ่


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ภราดร' ท้า 'รัฐบาล' ถ้าบริสุทธิ์ใจทำไมไม่มีหมายจับ 'เบน สมิธ–ยิม เลียก'
'เสธ.แมว' ท้า 'รัฐบาล' ถ้าบริสุทธิ์ใจตอบให้ได้ ทำไมยังไม่มีหมายจับ 'เบน สมิธ–ยิม เลียก' มองเงินอายัดพุ่ง 26,000 ล้าน แต่ ก.ล.ต.กลับนิ่ง เผยบางคนในเครือข่ายสแกมเมอร์เริ่มหมอบ เตรียมแยกตัวเป็นพยาน
หนุ่มสุรินทร์เกี่ยวข้าวหอมมะลิ 22 ไร่ บริจาคโรงทานหลวง ถวายเป็นพระราชกุศล
ชาวนาตาอ็องเก็บเกี่ยวข้าวหอมมะลิราว 10 ตัน เตรียมนำไปสี-บรรจุถุง ส่งให้โรงทาน ณ ท้องสนามหลวง หุงแจกประชาชนที่ไปถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
พิษณุโลกเร่งระบายน้ำออกจากทุ่งบางระกำโมเดล
พิษณุโลก เร่งระบายน้ำออกจากทุ่งบางระกำ หลังรับน้ำจากสุโขทัยอีก จนจุน้ำ 204 ล้าน เพิ่มจากเมื่อวาน 5 ล้าน ลบ.ม จากอิทธิพลของพายุคัลแมกี ชาวนาสะเทือนอกนาข้าวหอมมะลิจมน้ำหนัก
ชาวนาอ่างทองใจสลาย น้ำท่วมนาใกล้เก็บเกี่ยว สูญเงินลงทุน รายได้หายไปกับน้ำ
ชาวนาอ่างทองจำนวนมากกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ข้าวใกล้เก็บเกี่ยวไม่ถึง 2 สัปดาห์ถูกน้ำท่วมทุ่ง สร้างความสูญเสีย
ชาวนาพิจิตร ร้องขายข้าวเปลือกแล้วไม่ได้เงิน สูญนับล้านตั้งแต่สงกรานต์
ชาวนาอำเภอตะพานหินรวม 14 ราย เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร หลังนำข้าวไปขายให้ท่าข้าวเอกชน
ข้าวเปียกขายไม่ออก! ชาวนาบุรีรัมย์หอบข้าวตากริมถนน สู้ฝน-สู้ราคา
หลังพายุ “คัลแมกี” ถล่มทำข้าวเปียกชื้น โรงสีไม่รับซื้อหรือกดราคาต่ำกว่า 10 บาทต่อกิโล ชาวนาหลายหมู่บ้านใน อ.เมือง บุรีรัมย์ ต้องขนข้าวเปลือกกลับมาตากหน้าบ้าน ริมถนน หวังไล่ความชื้นก่อนนำไปขายใหม่เพื่อใช้หนี้และเลี้ยงครอบครัว


