
“อนุดิษฐ์” ไล่บี้ กลาโหมตรวจสอบ 3 โครงการ ทัพอากาศ ชี้ ผู้บริหารระดับสูงสมคบคิดหลายคน ขู่ นำเรื่องอภิปรายแน่ โว ใบเสร็จมัด
14 พ.ย. 2564 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติผิดมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ ได้แก่โครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบป้องกันทางอากาศ ระยะที่ 7 (N-SOC C2) โครงการพัฒนาป้องกันฐานที่ตั้งทางทหารของกองทัพอากาศ (GBAD) และโครงการจัดหาทดแทนวิทยุพื้นดิน-อากาศ มูลค่าเกือบ 3 พันล้านบาทว่า คณะกรรมาธิการได้รวบรวมข้อเท็จจริงจากการให้ถ้อยคำของผู้เกี่ยวข้อง พยานหลักฐานต่างๆครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทำรายงานสรุปผลการตรวจสอบเพื่อส่งไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)กระทรวงกลาโหม กองทัพไทย กรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณ เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ได้นำรายงานผลการตรวจสอบไปใช้ให้เป็นประโยชน์ หากเห็นว่ากระบวนการจัดหาในครั้งนี้ไม่ชอบ จะได้ระงับยับยั้งการจัดหาดังกล่าวที่ไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายต่อไป
ขอเรียกร้องให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม และ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบสวนเรื่องทั้งหมดเป็นการเฉพาะอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากผลการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. ชี้ชัดว่าการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ทั้ง 3 โครงการ พบข้อพิรุธในการจัดหาหลายประการ และมีพฤติกรรมของการกระทำทุจริตประพฤติผิดมิชอบ ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการสมคบคิดของผู้บริหารระดับสูงหลายคน ซึ่งหากเรียกเพียงหน่วยปฏิบัติมาชี้แจง อาจไม่ได้รับทราบความจริงทั้งหมด และที่สำคัญอาจมีการปกปิดหรือบิดเบือนข้อมูล ซึ่งหากกองทัพไทยหรือกระทรวงกลาโหมปล่อยผ่านไปโดยไม่ยอมตรวจสอบให้ละเอียด ย่อมทำให้ผู้ลงนามอนุมัติมาตามลำดับชั้น โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้อย่างแน่นอน หากกระทรวงกลาโหมปล่อยปละละเลย คงต้องนำการฉ้อฉลครั้งนี้ไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งต่อไป บอกได้เลยว่าต่างกว่าครั้งที่แล้ว เพราะคราวนี้จะมีใบเสร็จและรายนามของผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเนื่องจากความผิดสำเร็จแล้ว ดังนั้นเพื่อความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม และกองทัพอากาศสามารถเดินหน้าจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศได้ตามวัตถุประสงค์ เป้าหมาย จึงเห็นควรให้ กระทรวงกลาโหม กองทัพไทย กรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณ ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง การแก้ไขรายละเอียด และสาระสำคัญของการจัดหายุทโธปกรณ์ทั้ง 3 โครงการ ให้ละเอียดรอบคอบ และสั่งการให้หน่วยปฏิบัติดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
“คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบการจัดหายุทโธปกรณ์ทั้ง 3 โครงการอย่างละเอียด พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญจากที่เคยมาชี้แจงกับสภาฯหลายประการ เป็นการเปลี่ยนตามอำเภอใจ ไม่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ต่างๆ ไม่เป็นไปตามหลักนิยม และไม่เป็นไปตามแผนการพัฒนากองทัพอากาศ ที่อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศแถลงนโยบายเอาไว้ แต่ที่สำคัญก็คือการละเลยความเห็นของฝ่ายกฎหมาย โดยผู้บริหารระดับสูงของ ท.อ. ไม่ยอมสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจงใจดำเนินการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์และสาระสำคัญของโครงการโดยพลการ ซึ่งขณะนี้เอกสารการขออนุมัติจัดซื้อในโครงการต่างๆได้ออกจาก ท.อ.ไปแล้ว จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากองทัพไทยและกระทรวงกลาโหม จะได้ใช้รายงานการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.ให้เป็นประโยชน์ และสั่งการให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้น ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด แต่ที่ง่ายที่สุดก็คือการสั่งการให้หน่วยปฏิบัติกลับไปแก้ไขและดำเนินกระบวนการจัดหาต่างๆให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่กำหนดต่อไป เพราะหากยังฝืนดำเนินการกันไปในลักษณะนี้ คงไม่พ้นคณะกรรมาธิการฯต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจในการจัดซื้อครั้งนี้มาให้ถ้อยคำกันอีก ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้เป็นเช่นนั้น” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ศาลอาญาฯ สั่งจำคุก 8 ปี 'อดีตผู้ว่าฯยะลา' คดีจัดซื้ออุปกรณ์ตรวจสอบวัตถุระเบิด GT200
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่าได้รับรายงานคดีสำคัญจาก นายชัยวัฒน์ สุวรรณยอด อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 9 ว่า วันนี้ศาลอาญา
'อนุดิษฐ์' โหมยุทธศาสตร์ปราบโกง ใหญ่แค่ไหนก็ติดคุกได้
“อนุดิษฐ์” แฉกลไกในรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ฟอกขาวคอร์รัปชันให้ถูกกฎหมาย ประกาศสะสางปัญหาให้สำเร็จ ใหญ่แค่ไหนก็ติดคุกได้
2 บิ๊กสายไหมหย่าศึก จับมือนำ 'ไทยสร้างไทย' สู้ศึกเลือกตั้ง
การเมืองในเขตสายไหมเป็นการเมืองที่ทุกเขตในกรุงเทพฯให้ความสนใจ เพราะการเลือกตั้งในเขตสายไห
ยื่นอุทธรณ์เพื่อกลั่นแกล้ง ปัญหาใหม่การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
ภาครัฐต้องสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติหน้าที่ ใช้อำนาจตรงไปตรงมา มีกลไกเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสให้ทุกคนเข้าถึงและตรวจสอบย้อนหลังได้โดยง่าย
นั่งไม่ติด! ป.ป.ช.จอดป้ายสถานีบางซื่อ 33 ล้าน คุ้ยปมจัดซื้อจัดจ้าง
ป.ป.ช.นั่งไม่ติด ลุยสอบป้ายสถานีกลาง 33 ล้าน เน้นปมตั้งงบ-จัดซื้อจัดจ้าง ประสานขอข้อมูล รฟท. พร้อมสัญญา ระบุต้องรวบรวมข้อมูลว่ามีความผิดสำเร็จแล้วหรือไม่
'อนุดิษฐ์-การุณ' แสดงตนหักพรรคเพื่อไทย
รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนพรรคภูมิใจไทย ปรากฏว่า แกนนำพรรคและส.ส.ได้แสดงตนเป็นองค์ประชุมอย่างพร้อมเพรียง นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม