
1 พ.ย.2565- ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการยุบสภาที่ออกมาก่อนการประชุมเอเปก จะกระทบภาพลักษณ์ประเทศหรือไม่ว่า ไม่มีอะไร เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข่าวที่ออกมาเหมือนไม่มีปี่มีขลุ่ย นายอนุชา กล่าวว่า มันมีปี่มีขลุ่ยมาโดยตลอด เป็นเรื่องปกติทางการเมือง เมื่อถามว่า เรื่องการยุบสภามีโอกาสเกิดขึ้นได้ตามกระแสข่าวหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มี ตนไม่มีข้อสงสัยหรือข้อระแวงเกี่ยวกับการยุบสภาแม้แต่น้อย และเท่าที่ฟังจากนายกฯมา นายกฯก็ยืนยันว่าจะทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป เมื่อถามว่า มั่นใจจะไม่มีการยุบสภาก่อนสิ้นปีใช่หรือไม่นายอนุชา กล่าวว่า มั่นใจ
เมื่อถามว่า ปลายปีจะมีมาตรการอะไรออกมาเป็นพิเศษหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า คงต้องรอทางรัฐบาลอีกที เมื่อถามว่า นโยบายใหม่ๆของพรรคพลังประชารัฐจะออกมาในช่วงใดอีก นายอนุชากล่าวว่า ทีมงานและผู้บริหารของพรรคกำลังดำเนินการอยู่อย่างเต็มที่ ตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และถือเป็นไทม์มิ่งอยู่แล้วไม่มีอะไรน่าวิตกกังวล
ผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีกลุ่มสามมิตรจะไม่มีการย้ายไปพรรคอื่นใช่หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ยืนยันว่า กลุ่มสามมิตรจะไม่ย้ายไปไหน เมื่อถามย้ำว่าเรื่องปัจจุบันมีเรื่องกระทบกับภาพลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐ เช่นประเด็นเงินบริจาคกลุ่มสามิตรก็ยืนยันไม่ย้ายไปไหนใช่หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า เรื่องเงินบริจาคมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกพรรคและไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าที่มาของเงินเป็นอย่างไรแต่การรับบริจาค ต้องดำเนินการตามกฎเกณฑ์และกฎหมายทุก อย่างตรงนี้ไม่มีอะไรหนักใจ
เมื่อถามว่า หากพรรคพลังประชารัฐมีอุบัติเหตุทางการเมือง นายอนุชามีพรรคการเมืองสำรองหรือไม่ นายอนุชาตอบว่า จะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองใดๆ และขณะนี้ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ส่วนเรื่องเงินบริจาคนั้นตนมองว่าไกลมาก เมื่อถามย้ำว่า การที่กลุ่มสามมิตรยังยืนยันอยู่กับพรรคพลังประชารัฐไม่ได้กังวลถึงกระแสพรรคพลังประชารัฐที่อาจจะลดลงใช่หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่าไม่หวั่นไหว ตนเชื่อว่าการเมืองมีหลายมิติ ไม่ได้มีมิติเดียว และไม่ได้มีหุ้นส่วนเดียวหรือกลุ่มเดียว มีหลากหลาย มีหลายความคิด มีหลายความเห็นส่วนแต่ละกลุ่มจะมีมากน้อยแค่ไหนค่อยไปว่ากัน
ถามว่า แคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐยังคงเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมอยู่ใช่หรือไม่นายอนุชา กล่าวว่า ยังคงเป็นพล.อ.ประยุทธ์อยู่ ส่วนพรรคจะส่งแคนดิเดตกี่รายชื่อนั้นตนไม่ทราบ เมื่อถามว่า แคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐจะมีชื่อพล.อ.ประวิตรวงษ์ สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ไม่ทราบ เมื่อถามว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมืองอื่นจะส่งผลกระทบต่อพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่าคงต้องว่ากันไป แต่ตนยังไม่เห็นอะไรเช่นนั้น ยังไม่มี สิ่งบ่งชี้อะไรออกมา
ซักว่า จากผลงาน 4 ปีของพรรคพลังประชารัฐในช่วงที่เป็นรัฐบาลทำให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะได้ส.ส.มากกว่าเดิมหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า “ถ้าบอกว่าเรามั่นใจ ในความเป็น พรรคการเมืองที่ร่วมกันดำเนินการมาผมก็มั่นใจ ว่าเราจะได้คะแนนนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะยังเหลือเวลาอยู่ ไม่ใช่เหลือเวลาอยู่แค่นี้แล้วจบกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'วัน อยู่บำรุง' ส่งสัญญาณส่อทิ้งลุงป้อม ซบ 'โอกาสใหม่'
'วัน อยู่บำรุง' โพสต์ส่งสัญญาณชีวิตถึงจุดเปลี่ยน จับตาย้ายซบ 'โอกาสใหม่' ด้าน 'จตุพร' รับได้คุยกัน เจ้าตัวสนใจนโยบายพรรค
รัฐบาลพรรคเดียวในทางทฤษฎี กับการเมืองจริงของพรรคส้ม
พรรคประชาชน หรือที่ถูกเรียกกันทั่วไปว่า “พรรคส้ม” ตั้งเป้าหมายทางการเมืองไม่ใช่แค่การชนะเลือกตั้ง แต่คือการได้เสียงเกินครึ่งสภา มากกว่า
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง
หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี
จับตา ‘ลูกชายเดชอิศม์’ กลับลำ ทิ้ง ปชป. ซบกล้าธรรม
พรรคกล้าธรรมขยับต่อเนื่อง หลัง “วงศ์วชร-บารมี ขาวทอง” สมัครสมาชิกและเตรียมลงสนาม สงขลา ล่าสุดมีสัญญาณว่า “ศักดิ์สิทธิ์ ขาวท
นับหนึ่งสนามเลือกตั้ง 69 สำรวจบ้านเล็ก-บ้านใหญ่ บนแผนที่ภูมิใจไทย
หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศกำหนดวันเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 การเมืองไทยเข้าสู่ช่วงเตรียมพร้อมอย่างเป็นทางการ
ภูมิใจไทยปลุกพลังผู้สมัครสส. ชูสโลแกน 'พูดแล้วทำพลัส' ตั้งเป้าเกิน 200 ที่นั่ง!
แกนนำภูมิใจไทยกำชับว่าที่ผู้สมัคร สส.เดินเกมเลือกตั้งตามกติกา กกต. ชูผลงานรัฐบาลเป็นจุดขาย พร้อมปลุกใจหากทุ่มเทเต็มที่ มีลุ้นกวาดเกิน 200 ที่นั่ง มองสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชามีแนวโน้มคลี่คลายก่อนปีใหม่

