ปชป.เปิดตัว 12 ว่าที่ ส.ส.ชายแดนใต้ ลั่นสู้ทุกเขต

จุรินทร์’ ควง นิพนธ์-นริศ เปิดตัว 12 ว่าที่ ส.ส.ชายแดนใต้ ลั่นสู้ทุกเขตประกาศยุทธศาสตร์สร้างความมั่นคงด้านอาหาร ก้าวข้ามความขัดแย้ง สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

20 พ.ย.2565-ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.จังหวัดพัทลุง และคณะ “จุรินทร์ ออนทัวร์ จังหวัดชายแดนใต้” เข้าร่วมงานประชุมสมาชิกพรรค “รวมพลังประชาธิปัตย์ ปลายด้ามขวาน” ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา พร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 12 เขต ของจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเดินทางมาร่วมทำกิจกรรมกับพี่น้องในจังหวัดชายแดนใต้อยู่บ่อยครั้งอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นสำหรับพี่น้องจังหวัดชายแดนภาคใต้กับพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่คนอื่นไกล เราเป็นพี่น้องกันเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขคนไทย เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขพรรคการเมืองที่ชื่อว่า ประชาธิปัตย์ นับเนื่องมาอย่างยาวนาน

นายจุรินทร์กล่าวว่า ทุกวันนี้ปัญหาเรื่องความมั่นคงยังมีอยู่ แต่ยังมีปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นซึ่งก็คือปัญหาเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ปากท้องของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งประชาธิปัตย์มีนโยบายพัฒนานำปืน เพราะการพัฒนาคือหัวใจ และการพัฒนาต้องทำในหลายมิติทั้งเรื่องการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และเรื่องอาชีพความเป็นอยู่ ที่จะขับเคลื่อนจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เดินหน้าไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องการเห็นพี่น้องประชาชนมีอาชีพ มีอนาคต ที่ตรงกับความต้องการของตลาดและจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ไม่ได้มีศักยภาพเฉพาะการประกอบอาชีพแล้วนำสินค้าออกมาขายในประเทศไทยเท่านั้น แต่พวกเราทุกคนมีศักยภาพที่จะผลิตสินค้า บริการ ส่งไปขายตลาดโลกได้ โดยเฉพาะทุเรียน ลองกอง มังคุด จะเป็นอนาคตของจังหวัดชายแดนภาคใต้เพราะเรามีตลาดใหญ่ที่สุดที่รองรับทุเรียนจากประเทศไทย คือตลาดจีน

นอกจากนี้  ในเรื่องปศุสัตว์ จากการที่ตนนำคณะเอกชนไปขายสินค้าให้ประเทศซาอุดิอาระเบียเพียงเที่ยวเดียวสามารถทำรายได้ถึง 13,500 ล้านบาท หัวใจสำคัญอันหนึ่งจากการเจรจาคือ ซาอุฯ พร้อมที่จะซื้อสินค้าปศุสัตว์จากไทย ไม่ว่าจะเป็นวัว แพะ หรือไก่ และโดยเฉพาะไก่ต้มสุก ที่ประเทศไทยสามารถส่งออกไปได้แล้วซึ่งแปลว่าเรามีตลาดฮาลาลที่ใหญ่มากรองรับ และนั่นจะเป็นประตูไปสู่ทวีปตะวันออกกลาง รวมถึงประเทศอื่น ๆ ด้วย

“สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์คิดถึงพวกเรา และคิดในเชิงพัฒนา รวมทั้งคิดแก้ปัญหาปากท้องให้พี่น้องประชาชน นอกจากนี้ในเรื่องประมง วันนี้เราเหลือแต่ประมงพื้นบ้าน แต่ประมงพาณิชย์ที่ช่วยให้พี่น้องมีงานทำ และช่วยให้เศรษฐกิจจังหวัดชายแดนขับเคลื่อนวันนี้เกือบจะเรียกว่าเป็นศูนย์ ดังนั้นถ้าพรรคประชาธิปัตย์กลับมามีโอกาสขับเคลื่อนดูแลเรื่องประมง ดูแลเรื่องคณะกรรมการประมงแห่งชาติ เราจะฟื้นประมงพาณิชย์ให้อยู่คู่กับประมงพื้นบ้านอีกครั้ง เพื่อฟื้นชีวิตจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้ เพราะจังหวัดชายแดนภาคใต้มีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งสร้างความมั่นคงทางอาหารของประเทศและของโลก นี่คือความหวังและในโลกความเป็นจริงที่เกิดขึ้นได้ภายใต้นโยบายประชาธิปัตย์”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลูกพรรครอเก้อ! 'ทวี' ชิ่งประชุมสรรหาผู้สมัคร สส. พบโผล่หาดใหญ่กับคณะเพื่อไทย

พรรคประชาชาติได้จัดประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยที่ประชุมได้เห็นชอบส่งผู้สมัครเฉพาะใน  3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 13 เขต มี 7 ส.ส. ในนามพรรคยังคงเป็นผู้สมัครในนามพรรค และรายชื่อทั้งหมดจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ

'อนุทิน' ยันไม่มีดีลเพื่อไทยชะลอยื่นซักฟอกรัฐบาล

"อนุทิน" ลั่นเตรียมทุกอย่างให้พร้อมรอเลือกตั้ง ยังไม่บอกพร้อมจับมือหลังลต.กับพรรคใด ไม่กังวลกระแสตกห่วงแต่แก้ปัญหาน้ำท่วมได้ไม่ทันใจ

'กรณ์' แนะ ปปง. ยึดทรัพย์สแกมเมอร์รายใหญ่ ต้องสาวให้ถึงคนไทย แฉพยายามโยกย้ายทรัพย์สิน

นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้นำเอกสารหลักฐานชี้ให้เห็นถึงธุรกรรมที่ผิดปกติเกี่ยวโยงกับบุคคลที่ถูกกล่าวหา โดยสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาว่าเกี่ยวโยงกับวงการสแกมเมอร์ และอาจจะเป็นกิจกรรมที่สะท้อนถึงความพยายามในการฟอกเงินที่ได้มาจากธุรกรรมเหล่านั้น

'สุชาติ' นัดเคลียร์ 'สนธยา' แบ่งโซนส่ง 10 ผู้สมัคร สส.ชลบุรี ลั่นเขต 1 ขอลงเอง

"สุชาติ" เผยนัดคุย "สนธยา" วางตัว 10 ว่าที่ผู้สมัครสส.ชลบุรี คาดจบภายใน 1-2 วันนี้ ขอจองเขต 1 ลงเอง ส่วนภาพรวมดูความเหมาะสมใครถนัดลงเขตไหน ลั่นอยากให้ ภท. เป็นหนึ่งเดียวในชลบุรี บอกยังไม่มีสัญญาณยุบสภา

อยากได้ก็ตั้งให้! ‘นิพิฏฐ์’ แนะนำ ‘อนุทิน’ ใช้นามสกุล ‘โอษฐภัย’

นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ   อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความเรื่อง “โอษฐภัย” โดยมีรายละเอียดว่า ผมฟังท่านนายกรัฐมนตรี อ