ตรังระอุ! 'สาทิตย์' ฉีกโพลประชาธิปัตย์

28 พ.ย.2565 - นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึงกระแสข่าวกรณี นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานรัฐสภา อดีต ส.ส. ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อาจย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ว่าในฐานะที่เป็นคนตรัง รวมถึงเป็น ส.ส.มาด้วยกัน ตนพูดตรง ๆจากใจเลย ว่าเห็นใจนายสมบูรณ์ และเห็นว่ากระบวนการของพรรคที่ทำนั้นไม่เป็นธรรมกับท่าน ตนพูดเรื่องนี้มานานแล้ว

นายสาทิตย์ กล่าวว่าเดิมทีพรรคมี 4 คน นายสมบูรณ์เป็นอดีต ส.ส. ในวันที่พรรคโดนกติกาของรัฐธรรมนูญให้เหลือ 3 เขต มี ส.ส. คนหนึ่งถูกตัดสิทธิ์จากการเมือง นายสมบูรณ์ควรจะได้ลงตั้งแต่ตอนนั้น แต่มีการขอให้ลูกสาวของท่านได้ลง เลยขยับไปลงปาร์ตี้ลิสต์ แต่เที่ยวนี้พอมีสิทธิ์ 4 คน นายสมบูรณ์ควรจะได้ลงเต็มที่แต่กลับไปมีการทำโพล

"การทำโพลเป็นที่ข้องใจของคุณสมบูรณ์และอีกหลาย ๆ คน แต่สิ่งอื่นใดในการทำโพลปกติโพลหาตัวผู้สมัครพรรคใด ก็ควรถามสมาชิกพรรคนั้นๆ แต่โพลนี้ไปถามคนอื่นซึ่งไม่รู้ว่าเค้าเลือกพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ การที่เขาตอบว่าเลือกคนนั้นคนนี้ด้วยความตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นหรือไม่ ไม่มีใครรู้ แต่พอผลโพลออกมากลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กลายเป็นคุณสมบูรณ์โดนกันออกจากพรรคโดยปริยาย ซึ่งผมได้คุยกับผู้ใหญ่หลายท่าน คุยกับกรรมการบริหารพรรค คุยกับรองหัวหน้าพรรค คุยกับทุกๆคนที่เกี่ยวข้องว่าอย่าทำแบบนี้เลย คุณสมบูรณ์ควรมีสิทธิได้ลงตั้งแต่ต้น เมื่อกระบวนการเดินมาถึงจุดนี้ผมเห็นใจคุณสมบูรณ์ ว่ามาถึงจุดหนึ่งเขาไม่ได้ลงแล้วจะให้เขาไปไหน ไปปาร์ตี้ลิสต์ลงลำดับที่เท่าไหร่ ไม่มีใครตอบได้ แล้วใครก็ตามที่พบกับความรู้สึกไม่เป็นธรรม เขาก็มีสิทธิที่จะใช้สิทธิของเขาในการคิดที่จะย้ายพรรค"

ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าตนเห็นใจ เรื่องนี้ก็พูดมาตั้งนานแล้วว่า ระวังจะกระทบความเชื่อมั่นของคนที่มีต่อพรรค เพราะเขาเชื่อว่าพรรคต้องมีความเป็นสถาบัน ต้องมีระบบที่ชัดเจน ต้องมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ และต้องมีความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น แต่ถ้าเรื่องนี้มีข้อครหาที่ไม่โปร่งใส มีข้อครหาเรื่องความไม่เป็นธรรม จะทำให้กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อพรรค

"กระบวนการเรื่องนี้ล่วงเลยมาพอสมควร ก็ยังไม่เห็นข้อสรุปว่าเป็นอย่างไร ฟังดูเหมือนยืนยันว่าคุณสมบูรณ์จะต้องไป ถ้าคุณสมบูรณ์จะต้องไป ผมต้องตอบอีกครั้งว่าผมเห็นใจคุณสมบูรณ์ และผมเห็นว่าเรื่องนี้คุณสมบูรณ์เป็นฝ่ายถูกกระทำ" นายสาทิตย์ กล่าว

นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่าในฐานะที่ตนใกล้ชิดกับนายสมบูรณ์ ก็ไม่ได้คุยชัดเจนกับท่านเรื่องนี้โดยเฉพาะ ก็เชื่อว่าท่านชวน หลีกภัย ทราบเรื่องนี้แล้วเช่นกัน ตนก็ทราบมาว่าท่านก็พยายามที่จะพูดคุยกับหลายฝ่าย แต่ฝ่ายที่เขาต้องการทำโพลเขาก็ยืนยันเดินหน้าทำต่อไป เรื่องก็มาเป็นแบบนี้แหละ เรื่องนี้ถ้าเกิดตัดสินใจว่าไม่เอานายสมบูรณ์ลง แล้วมีการย้ายพรรค ก็ต้องเป็นหน้าที่ของพรรคต้องมาแก้ไขปัญหากับความรู้สึกของพี่น้องประชาชนเขต 4

เขา กล่าวว่าถามว่า ส.ส.ตรัง ทั้ง 4 เขต ลงตัวหรือยัง สำหรับเขต 2 ซึ่งเป็นของตน และเขต 3 เป็นของอดีต ส.ส.ไม่มีปัญหา ตัวเขต 1 อย่างที่ทราบก็ไม่น่ามีปัญหา ส่วนเขต 4 ถ้ารองหัวหน้าพรรคภาตใต้ยืนยันก็คงต้องเป็นอย่างนั้น แต่ปัญหาที่ตามมาก็ต้องแก้ไข

ส่วนการสมัครเลือกตั้งแพ้พรรคอื่นต้องมีความรับผิดชอบหรือไม่อย่างไรนั้น ตนมองว่าทุกคนไม่เกี่ยวใหม่เก่าเมื่อลงเลือกตั้งมีสิทธิแพ้ชนะด้วยกันทั้งนั้น เพราะอยู่ที่คนเลือก ไม่ใช่พรรคบอกว่าคนนั้นจะชนะ คนนี้จะแพ้ เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่บอกว่ากรณีนายสมบูรณ์จะต้องทำโพล เพราะกลัวจะแพ้ ตนจึงบอกว่าไม่มีใครมีสิทธิว่าตนเองชนะก่อนการเลือกตั้ง กระทั่งคนพูดเองก็เถอะ ว่าเที่ยวหน้าคุณจะชนะหรือไม่ไม่มีใครรู้

"เพราะฉะนั้นในกรณีคุณสมบูรณ์จะใช้เหตุผลว่าไม่ให้ลงหรือต้องทำโพลเพราะกลัวแพ้ ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำนี่คือปัญหา นี่คือความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น คุณสมบูรณ์ก็มีสิทธิเลือกที่จะตัดสินใจชะตาชีวิตของตัวเอง" นายสาทิตย์ กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุทิน' ร่ายยาวครั้งแรกหลังมีชื่อพ้นครม. แจงดราม่า 'ทักษิณ' เมินมาลัย

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความพอใจผลงาน 6-7 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงกระแสข่าวจะถูกปรับออกจากรัฐมนตรี

นายกฯ ยัน ร่วมโต๊ะอาหารเที่ยงกับ 'เอกนัฏ'

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) ร่วมโต๊ะอาหารกลางวันกับนายกรัฐมนตรีและคณะ

'ทวี' ยันไม่เคยได้ยิน เพื่อไทยจะเอาตำแหน่งประธานสภาฯ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสว่าพรรคเพื่อไทยจะขอเก้าอี้ประธานสภา ว่า รัฐธรรมนูญได้มีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนถึงการเข้าดำรงตำแหน่งประธานสภาว่าเป็นเรื่องของสภา ส่วนเรื่องคณะรัฐมนตรีนั้นเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

'ไชยา' ลั่นปรับครม.กี่ครั้งก็ตาม ก.เกษตรฯต้องอยู่กับเพื่อไทย

นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายชื่อถูกปรับออก ว่าตนทราบตามข่าว ไม่ได้หวั่นไหวอะไร และ 7 เดือนที่ผ่านมา ทำหน้าที่ในกรอบในข้อจำกัดของงบประมาณ ถ้าหากเป็นไปตามนโยบายของผู้ใหญ่ตนก็ไม่ขัดข้อง ก็แล้วแต่