เอาแล้ว! สนธิญาร้อง กกต.สอบนโยบายขายฝันเพื่อไทยผิดกฎหมาย

'สนธิญา' ร้อง กกต.สอบนโยบายเงินเดือน 2.5 หมื่นบาท - ค่าแรง 600 บาทของเพื่อไทย ชี้ขายฝันทำลายเศรษฐกิจ สร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ ฉะอุ๊งอิ๊งค์ไม่สมควรเป็นนายกฯ

08 ธ.ค.2565 - ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบนโยบายการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา

โดยนายสนธิญากล่าวว่า การมายื่นครั้งนี้มายื่นใน 3 ประเด็น 1.การถมทะเลในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร เพื่อกันน้ำทะเลหนุนท่วม ซึ่งนโยบายดังกล่าวได้ยินมาในสมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร และก็ได้คัดค้านมาโดยตลอด ซึ่งโครงการที่พรรคเพื่อไทยพูดเกี่ยวกับโครงการนี้ได้รับฟังความคิดเห็นหรือทำประชามติกับประชาชนในพื้นที่หรือไม่ โดยฟันธงว่าการถมทะเลไม่สามารถกระทำได้ มองว่าเป็นนโยบายขายฝัน ที่ผ่านมาฝ่ายค้านด่ารัฐบาลว่ากู้เงินแล้วโครงการถมทะเลใช้งบกว่าแสนล้านบาท แล้วจะเอาเงินจากที่ไหน นั่นก็คือจะต้องไปกู้

ประเด็นที่ 2 เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ถ้าทำได้ยินดีด้วย แต่ถ้าเรามองบริบทในประเทศเพื่อนบ้านไม่ว่าจะเป็น เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา ต่างมีค่าแรงต่ำกว่าไทยทั้งสิ้น ซึ่งตอนนี้ไทยมีค่าแรงอยู่ที่ 334 บาท ส่วนค่าแรงของประเทศคู่แข่งของไทยอย่างเวียดนามมีค่าแรงเพียง 234 บาท หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งในปี 2566 ก็จะต้องปรับขึ้นค่าแรงปี 70 บาท นั่นหมายถึงว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องปรับขึ้นค่าแรงในปี 2566 เป็น 440 บาท และจะต้องเพิ่มขึ้นทุกปีจนถึงปี 2570 ซึ่งผู้ที่รับผิดชอบในการจ่ายค่าแรงคือบริษัทเอกชน และเมื่อวาน (7 ธ.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ระบุว่า การขึ้นค่าแรงนี้ไม่ได้ใช้งบประมาณ ถ้าพูดเช่นนี้มองว่า ไม่สมควรเป็นนายกฯหรือแคนดิเดต เพราะการปรับขึ้นค่าแรง 600 บาท จะกระทบไปทุกวงจรของประเทศไทย และต้องใช้งบประมาณของรัฐบาล

“ที่ น.ส.แพทองธาร เป็นการพูดโดยไม่เข้าใจในบริบทของราชการ และต้องถามว่าเมื่อค่าแรงขึ้น ค่าใช้จ่ายอื่นๆก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วย และสิ่งที่ตนมองลึกไปกว่านั้นคือ นี่คือนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ต้องการสกัดกลุ่มบริษัทของประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่กำลังจะเข้ามาลงทุนกว่า 3 แสนล้านบาทในปี 2566 หรือเป็นการสกัดบางบริษัทที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งนโยบายนี้เป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจอย่างชัดเจน”

นายสนธิญา กล่าวอีกว่า ประเด็นที่ 3 การขึ้นเงินเดือนขั้นต่ำสำหรับบุคคลที่จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี 25,000 บาท ต้องถามกลับไปว่าคนที่จบปริญญาตรีที่จบ 25,000 บาท กับคนที่ทำงานมาแล้ว 3 ปี ได้เงินเดือนมาแล้ว 18,000 บาท จะเป็นธรรมกับเขาหรือไม่ และมองว่าจะกระทบกับระบบราชการ ซึ่งการประกาศเป็นของกรมแรงงาน และเมื่อเป็นนโยบายของรัฐ จะต้องไปปรับเงินเดือนให้กับราชการ บริษัทเอกชน นี่จึงเป็นสาเหตุหลักที่มองว่าถ้าจะปรับฐานเงินเดือน จะต้องดูบริบทของประเทศ และเศรษฐกิจ เพราะนโยบายเหล่านี้ได้ประกาศแล้วจะกระทบเป็นลูกโซ่ และที่สำคัญการประกาศนโยบายต้องเป็นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 57 (1) (2) (3) จึงมายื่นต่อ กกต.เพื่อให้พิจารณาให้เป็นตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่านโยบายค่าแรง 600 บาท และเงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาท ขัดต่อกฎหมายอย่างไร นายสนธิญา กล่าวว่า ตามมาตรา 57 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กำหนดว่า นโยบายที่ต้องใช้จ่ายเงิน การประกาศนโยบายนั้นจะต้องมี 1.วงเงินที่ต้องใช้ และที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการ 2.ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินการนโยบายนั้นๆ และ 3.ผลกระทบและความเสียงการดำเนินการนโยบายนั้นๆ ซึ่งในกรณีที่พรรคการเมืองไม่ได้จัดทำรายการตาม 3 ข้อข้างต้น ให้ กกต.สั่งให้ดำเนินการให้ถูกต้องครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้วจึงจะประกาศเป็นนโยบายได้ ทั้งนี้วันนี้ประเทศไทยมีปัญหาในบางเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งมาจากนโยบายแห่งรัฐนโยบายของพรรคการเมือง จึงไม่อยากเห็นการหาเสียงในการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะมาถึงนำนโยบายที่ขัดต่อกฎหมายหรือไม่สามารถทำตามที่แถลงต่อประชาชนได้ แต่มีจุดประสงค์ให้ประชาชนเลือก ตนไม่อยากเห็นนโยบายอย่างนั้น จึงขอให้ กกต.วินิจฉัย

เมื่อถามว่าการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวเป็นการตีตนไปก่อนไข้หรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า ไม่ใช่การการตีตนไปก่อนไข้ แต่เป็นการทำให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันทุกพรรคการเมือง ที่จะดำเนินนโยบายต่อไปเพื่อให้อยู่บนฐานความเป็นจริงและความเป็นไปได้ ซึ่งหลังจากนี้พรรคไหนก็ตามที่มีนโยบายลักษณะนี้และไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือทำไม่ได้ กกต.ก็ต้องไปตรวจสอบ และยืนยันว่าจะยื่นตรวจสอบทุกพรรค ส่วนกรณีนโยบายเก่าของพรรคพลังประชารัฐที่เคยหาเสียงค่าแรง 425 บาทนั้น ต้องเข้าใจว่าปี 2560-2562 ประเทศไทยเจอโควิด-19 ซึ่งตอนนั้นโรงงานปิด คนตกงาน สถานการณ์ของพรรคพลังประชารัฐที่ทำไม่ได้นั้นก็ขอให้ไปดูบริบท ว่า 3-4 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยอยู่ในสถานะไหน

แต่เมื่อถามย้ำว่าจะยื่นให้ กกต.ตรวจสอบกรณีนโยบายพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายสนธิญา กล่าวว่า ไม่ยื่น เพราะอยู่ฝ่ายรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการยื่นเรื่องร้องเรียนดังกล่าวของนายสนธิญา มีนายวรัญชัย โชคชนะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง มาแสดงความเห็นสนับสนุนนโยบายค่าแรง 600 บาทของพรรคเพื่อไทย โดยต่างฝ่ายต่างชี้แจงความคิดเห็นสนับสนุนในมุมมองของตนเองต่ออีกฝ่ายไปมาอย่างไม่มีข้อสรุป ก่อนจะแยกย้ายกันไปในที่สุด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลาม! 'สนธิญา' ร้องดีเอสไอฟัน 157 'นายกแป้น - ผู้ว่าฯ สงขลา'

'สนธิญา' ร้อง 'ดีเอสไอ' ตรวจสอบเอาผิด 'นายกแป้น - ผู้ว่าฯ สงขลา' ม.157 ปมละเว้น เพิกเฉย คนใต้ตายเซ่นน้ำท่วมหาดใหญ่ จี้ 'นายกแป้น' ลาออกภายในอาทิตย์หน้า หากดื้อเตรียมร้อง 'ป.ป.ช.' เอาผิดไล่บี้

กกต.ขยับรับสมัครอบต.ใต้เป็น 8-12 ธ.ค. เหตุอุทกภัยกระทบหลายจังหวัด

กกต.ปรับรอบรับสมัครเฉพาะ 5 จังหวัดน้ำท่วม ส่วนจำนวน อบต.ทั่วประเทศลดเหลือ 4,985 แห่งจากการยกฐานะเป็นเทศบาล ต้องแบ่งเขตใหม่ก่อนจัดเลือกตั้งช่วงเมษายน 2569 หลายพื้นที่เปิดรับสมัครวันแรกคึกคัก

กกต. แจงนักการเมือง-พรรค บริจาคช่วยน้ำท่วมได้เต็มที่ แต่ระดับท้องถิ่นต้องระวังช่วง 180 วันก่อนครบวาระ

กกต. ชี้ "บริจาคช่วยภัยพิบัติ" สส.-สมาชิกพรรคทำได้เต็มที่ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท แต่จะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ ส่วนพรรคการเมืองไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อเหตุการณ์ ย้ำโปร่งใส–โฆษณาได้ 

กกต. ขอเชิญชวนสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภา อบต. และนายก อบต. ระหว่างวันที่ 1 - 5 ธันวาคม 2568

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ระหว่างวันที่ 1 – 5 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอประชาสัมพันธ์ผู้ที่สนใจสมัครรับเลือกตั้งสามารถตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และเตรียมหลักฐานและเอกสารประกอบการ ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมทั้งค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 1.1 มีสัญชาติไทยโดยการเกิด 1.2 ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุ ไม่ต่ำกว่า 25 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง สำหรับผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 1.3 มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลที่สมัครรับเลือกตั้ง ในวันสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง 1.4 วุฒิการศึกษา • สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ไม่ได้กำหนดวุฒิการศึกษา • ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาตำบล สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา 2. ลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.1 ติดยาเสพติดให้โทษ 2.2 เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต 2.3 เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ 2.4 เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 39 (1) เป็นภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช (2) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ หรือ (4) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 2.5 อยู่ระหว่างถูกระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือ ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.6 ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล 2.7 เคยได้รับโทษจำคุกโดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง 5 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 2.8 เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริต ต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบในวงราชการ 2.9 เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอันถึงที่สุดให้ทรัพย์สินตกเป็น ของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกเพราะกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2.10 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด ในความผิดฐานเป็นผู้ผลิต นำเข้า ส่งออก หรือผู้ค้า กฎหมายว่าด้วยการพนันในความผิดฐานเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในความผิดฐานฟอกเงิน 2.11 เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง 2.12 เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ 2.13 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2.14 เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ 2.15 เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ 2.16 อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2.17 เคยพ้นจากตำแหน่งเพราะศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่าเป็นผู้มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ หรือกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง 2.18 ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ไม่ว่าจะได้รับโทษหรือไม่ โดยได้พ้นโทษหรือ ต้องคำพิพากษามายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง แล้วแต่กรณี 2.19 เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น แล้วแต่กรณี มายังไม่ถึง 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง 2.20 อยู่ในระหว่างถูกจำกัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ตามมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หรือตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2.21 เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเดียวกันหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น 2.22 เคยพ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเหตุมี ส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการที่กระทำหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น หรือมีส่วนได้เสียไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในสัญญาหรือกิจการ ที่กระทำกับหรือจะกระทำกับหรือให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น โดยมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าเป็นการต่างตอบแทน หรือเอื้อประโยชน์ส่วนตนระหว่างกัน และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.23 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพราะจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ หรือมติคณะรัฐมนตรี อันเป็นเหตุให้เสียหาย แก่ราชการอย่างร้ายแรง และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.24 เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใด ๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่และอำนาจ หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยหน้าที่ และอำนาจ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือมีความประพฤติในทางที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือแก่ราชการ และยังไม่พ้น 5 ปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง 2.25 ลักษณะอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3. หลักฐานและเอกสารประกอบการยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลพร้อมทั้งหลักฐานการสมัคร ดังนี้ 3.1 ใบสมัครรับเลือกตั้งตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/1 3.2 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก หรือ รูปภาพที่พิมพ์ชัดเจนเหมือนรูปถ่ายของตนเอง ขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 13.5 เซนติเมตร จำนวนตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด 3.3 สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 3.4 สำเนาทะเบียนบ้าน 3.5 ใบรับรองแพทย์ 3.6 หลักฐานการศึกษา 3.7 หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี (2565, 2566, 2567) นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยัน การไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษีตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/2 4. ค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง 4.1 นายกองค์การบริหารส่วนตำบล 2,500 บาท 4.2 สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล 1,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี ตามมาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบลได้ทางเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง www.ect.go.th หรือ Application Smart Vote หรือสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดทุกจังหวัด หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริการสายด่วน 1444

ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต

ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)