ส.ส.เพื่อไทย ชี้ของขวัญปีใหม่ รัฐบาลเกาไม่ถูกที่คัน


23 ธ.ค. 2565 - นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีครม. เคาะของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนว่าถือเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลพยายามคิดมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน แต่ของขวัญดังกล่าวเป็นมาตรการที่แก้ปัญหาประชาชนไม่ตรงจุด เสมือนการ เกาไม่ถูกที่คัน เพราะสิ่งที่รัฐบาลควรทำคือ ลดรายจ่าย สร้างรายได้ ขยายโอกาส ที่สำคัญที่สุด คือรัฐบาลมีหน้าที่ส่งเสริมโอกาสในการสร้างรายได้ในกระเป๋าประชาชน ไม่ใช่ออกมาตรการส่งเสริมให้ประชาชนใช้จ่ายเอาเงินออกจากกระเป๋า ทั้งๆ ที่ไม่มีเงินเพิ่ม

นายกฤษฏากล่าวว่า หากพิจารณาดูมาตรการของรัฐบาลนี้ อย่างคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมไปถึงการขึ้นค่าไฟภาคเอกชน จะเห็นได้ว่าเป็นมาตรการที่เป็นการสร้างรายจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน ขณะเดียวกันก็ไปสร้างรายได้ให้กับกลุ่มทุนเพียงบางกลุ่ม ย้อนแย้งกับ ยุทธศาสตร์ชาติ กับการแถลงนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ ชนิดที่เรียกได้ว่า หน้ามือเป็นหลังมือ โดยเฉพาะเรื่อง ค่าไฟ ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ) มีมติ ขึ้นค่าไฟภาคธุรกิจเป็น 5.69 บาทต่อหน่วย ซึ่งแน่นอนว่าสุดท้ายคนที่ต้องรับภาระ ต้องเป็นพี่น้องประชาชนเพราะ ภาคเอกชนเองก็ต้องมีการขึ้นราคาสินค้าเนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น ในขณะเดียวกัน คำถามที่หลายคนให้ความสงสัยก็คือ วันนี้เรามีกลุ่มทุนผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน ที่ กฟผ. จะต้องจ่าย ค่าความพร้อมจ่าย ให้ผู้ผลิตไฟฟ้ากลุ่มนี้ ในไตรมาสสุดท้ายของปี เดือน ก.ย. - ธ.ค. 2565 ยอด 30,665 ล้านบาท และในไตรมาสแรกของปีหน้า ม.ค.-เม.ย.2566 ยอด 32,420 ล้านบาท ซึ่งหากการผลิตไฟฟ้าเราขาดแคลน และเรามีความจำเป็นต้องพึ่งหลายๆ ภาคส่วนในการผลิตก็เป็นที่เข้าใจได้ แต่วันนี้ เราผลิตเกินความต้องการมากถึงประมาณ 50% สุดท้าย คนที่ต้องรับภาระก็คือภาคประชาชนและภาคเอกชน

นายกฤษฎา กล่าวว่า ปีใหม่นี้ รัฐบาลกำลังจะมอบของขวัญให้กับพี่น้องประชาชน เริ่มต้นที่ ช้อปดีมีคืน ปี 66 โดยในระยะเวลา 45 วันตั้งแต่วันปีใหม่ สำหรับผู้มีรายได้ที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งไม่รวมนิติบุคคล ไม่รวมพี่น้องเกษตรกร ไม่รวม SME ให้เฉพาะคนที่อยู่ในระบบภาษีเท่านั้น ไม่ใช่แค่นั้น วันที่เริ่มคือ 1 มกราคม 2566 ซึ่งอยู่ในช่วงกลางถึงปลายเวลาของการท่องเที่ยวแล้ว คนส่วนใหญ่ออกเดินทางกลับบ้านตั้งแต่ก่อนปีใหม่ และถ้าดูข้อจำกัดของสินค้า ที่ไม่รวมกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวแล้ว ทำให้เห็นเลยว่า รัฐบาลไม่ได้เข้าใจเรื่องการใช้งบประมาณช่วงเทศกาล หรือวันนี้รัฐบาล “ถังแตก” ไม่มีงบประมาณกันแน่ เลยตั้งใจใช้จ่ายงบประมาณแบบนี้ หรือวันนี้ที่ต้องเริ่มวันที่ 1 มกราคม 2566 เพราะการบริหารการเงินการคลังที่ผิดพลาด เลยตั้งใจให้ยอดไปอยู่ที่ปีหน้าแทน

“วันนี้เพื่อนบ้านเรากำลังเร่งกันซ่อมบ้าน เพื่อเดินต่อ ทุกคนกำลังแข่งขันกัน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน การกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยนโยบายต่างๆ เพื่อดึงนักลงทุนเข้ามาในประเทศ รวมไปถึงการควบคุม ประคับประคองต้นทุนให้ภาคเอกชนอยู่ได้ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว เค้ากำลังฟื้นตัว เหตุใดนโยบายต่างๆ ของเรากลับดูเหมือนกำลังทุบบ้านตัวเองและกำลังจะทำให้เงินเฟ้อหรือของแพงขึ้นไปอีก หากยังดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจแบบนี้ เกรงว่าปีหน้า มีกู้เพิ่มอีกแน่นอน” นายกฤษฎากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พาณิชย์' ชี้เป้าส่งออกอะไหล่ยานยนต์ ในตลาดแอฟริกาใต้ รับตลาดรถมือสองบูม

“พาณิชย์” เผยผลสำรวจตลาดรถยนต์มือสองในแอฟริกาใต้ ยังคงเติบโตต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจชะลอตัว คนหันซื้อรถมือสองใช้กันมากขึ้น ชี้เป็นโอกาสในการส่งออกอุปกรณ์และส่วนประกอบยานยนต์จากไทย เข้าไปทำตลาด รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น แนะต้องคุมคุณภาพและราคาให้ดี

ฟิตจัด! 'พีระพันธุ์' จ่อชงครม.เคาะลดค่าไฟต่ำกว่า 4.20 บาท เป็นของขวัญปชช. รอบบิล ม.ค.-เม.ย.นี้

ทำเนียบ​รัฐบาล​ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีใ

‘ภูมิธรรม’ จับมือ 2 สมาคมปุ๋ย ลดราคาต่อเนื่องถึง มี.ค.67

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงประเด็นการดูแลราคาปุ๋ย พร้อมด้วยนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน

กระทรวง พม. เตรียมของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนและกลุ่มเปราะบาง

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความ

รมว.พลังงาน สั่งเพิ่มของขวัญปีใหม่ ลดค่าไฟ ไม่ปรับขึ้นราคาน้ำมันทุกชนิดตลอด 10 วัน

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาของขวัญปีใหม่เพิ่มเติมให้แก่ประชาชน หลังจากที่ได้เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว