เสธ.นคร ฮึ่ม! บัดนี้ฝ่ายประชาธิปไตยตกผลึกแล้ว รอวันชนะแล้วชำระแค้นเผด็จการ

แฟ้มภาพ

20 พ.ย. 2564 - นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.จังหวัดพิษณุโลก โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า แม้จะแพ้พ่าย ศึกในสภา แม้จะแพ้พ่ายศึกนอกสภา แต่พวกเราฝ่ายประชาธิปไตย จะชนะสงคราม แน่นอน

ในสถานการณ์เสื่อมทรุดของรัฐบาลเผด็จการภายใต้การนำของ 3 ปทรราชและจอมเผด็จการปรสิต

-ด้านเศรษฐกิจไทย ตกต่ำสุด รั้งท้ายเอเชีย และ ของโลก ความเหลื่อมล้ำขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลก

-ด้านสังคม ไทย เต็มไปด้วย หวย บ่อน ซ่อง ยาเสพติด การค้ามนุษย์ เกลื่อนแผ่นดิน นักโทษล้นคุก อาชญากรรม ลัก วิ่ง ชิง ปล้น ระบาดทุกแห่ง ผู้คนอดอยาก ยากจน มีหนี้สินล้นพ้นตัว

-ด้านการเมือง ประชาชน แตกแยก แบ่งฝัก แบ่งฝ่าย ขัดแย้งรุนแรง ไม่มีความยุติธรรม ไม่มีการปรองดอง ฝ่ายประชาธิปไตย ถูกไล่ล่า ทำลาย ฝ่ายเผด็จการใหญ่คับเมือง ทำอะไรก็ไม่ผิด เป็นยุคคนชั่วครองเมืองอย่างแท้จริง

ประเด็นใหญ่ของประเทศ

1. ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐประหาร คสช. ตอกลิ่มความขัดแย้งด้วยการตัดสินว่า การเสนอปฎิรูปสถาบัน ของนักเรียนนักศึกษา ปัญญาชนคือการล้มล้างการปกครอง เป็นกบฏ ที่จะต้องถูกกำจัด

คนรุ่นใหม่ มองไม่เห็นอนาคต ไร้ความหวังกัระบอบเผด็จการซ่อนรูปนี้กระบวนการยุติธรรมเสื่อมทรุด ไม่สามารถรักษาความสงบ ความยุติธรรมให้สังคมอีกต่อไป

2. หลังสุด วานนี้ รัฐสภาโดยพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด และ ส ว แต่งตั้งจากโจรกบฏ คสช ร่วมกันคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปิดทางออก ทำลายโอกาสที่จะประนีประนอมอย่างสิ้นเชิง ไม่สนใจประชาชนเจ้าของประเทศ เพราะเชื่อมั่นใจในอำนาจรัฐ อำนาจทุน และ อำนาจปืนของเขา

ในแต่ละแนวรบ ฝ่ายประชาธิปไตย แพ้พ่ายทุกแนวรบ ทั้งในสภา และแนวรบนอกสภา

แนวรบในสภา เสียงฝ่ายเผด็จการชนะโหวต 473 ต่อ 206 เสียง ฝ่ายประชาธิปไตย พ่ายแพ้อย่างราบคาบ

แนวรบนอกสภา แกนนำมวลชนฝ่ายประชาธิปไตย ถูกจับกุม คุมขัง โดยเฉพาะข้อหา 112 ,116 โดยรัฐใช้กลไก ตำรวจ ทหาร องค์กรอิสระ ศาล และ กระบวนการยุติธรรม ย่อยสลาย ทำลาย จนง่อยเปลี้ย หมดแรง หมดพลังที่จะต้านทานอำนาจของเผด็จการอันโหดเหี้ยม อำมหิต เลือดเย็น

ฝ่ายรัฐบาลเผด็จการทรราช ดูกระหยิ่ม มั่นใจในชัยชนะที่ตนเอง เหนือกว่า ในทุกมิติ ทั้งแนวรบในสภา และแนวรบนอกสภา

ในความพ่ายแพ้ของฝ่ายประชาธิปไตย

แนวรบในสภา และแนวรบนอกสภาได้เปิดเผยตัวตน แก้ผ้าฝ่ายเผด็จการอย่างล่อนจ้อน ชี้ให้ประชาชนได้เห็นอย่างชัดเจนว่า

1. การรัฐประหาร โดยทหาร และ การรัฐประหารโดยศาล ล้วนก่อให้เกิดหายนะ วิกฤติต่อประชาชนและประเทศชาติ อย่างใหญ่หลวง จนไม่อาจประเมินได้

2. รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช ปี 60 วางกับดัก หลุมพราง ขัดขวางการพัฒนาประเทศ ทำลายประชาธิปไตย ทำลายประชาชนและฉุดรั้งประเทศให้ถอยหลังไปหลายสิบปี เพียงเพื่อรักษาอำนาจ และ ผลประโยชน์ของฝ่ายเผด็จการและปรสิต

3. แผนยุทธศาสตร์ชาติ ที่จัดทำโดย เผด็จการนั้น ขัดขวางการพัฒนาประเทศ ทำลายอนาคตของชาติ ของลูกหลาน คนไทย จนยากที่จะทันสมัยทันโลก ที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน บนความจริง และวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสมัยใหม่

4. ได้เห็นภาพชัดว่าพรรคการเมืองใด นักการเมืองคนไหน สนับสนุนระบอบเผด็จการ และ ตระกูลปรสิต ปฏิเสธอำนาจของประชาชน ขัดขวางการพัฒนาประเทศ ทำลายประชาธิปไตย

ซึ่งการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะได้ไม่ต้องเลือกนักการเมืองคนนั้น และ พรรคการเมืองพรรคนั้น มาอีก

5. ได้มองเห็นว่า ระบอบเผด็จการฟาสซิสต์นี้ มีใครบ้าง ที่เป็นแกนนำ มีใคร เป็นผู้สนับสนุน มีใคร เป็นเครือข่าย มีใคร เป็นลิ่วล้อบริวาร ที่แฝงตัวอยู่ในทุกหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และ รัฐวิสาหกิจ ทั้งในส่วนข้าราชการ ตำรวจ ทหาร องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรม และพรรคการเมือง ที่รวมตัวกันเป็นองคาพยพของระบอบเผด็จการ กดขี่ ริดรอน สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคของคนไทย

เวลาที่ฝ่ายประชาธิปไตยชนะสงคราม และเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองได้สำเร็จ จะได้ทวงสิ่งที่พวกเขาเอาไปจากประชาชนกลับมาเป็นของชาติ และประชาชนได้ถูกต้อง

บัดนี้ พวกเราฝ่ายประชาธิปไตย แยกมิตร แยกศัตรู แยกผิด แยกถูก และตกผลึกทางความคิด บนข้อมูล ข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว

เวลาอยู่กับพวกเราฝ่ายประชาธิปไตย เมื่อพวกเราชนะสงคราม พวกเราจะได้ชำระ สะสาง ผลพวงเครือข่ายของเผด็จการ ได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ

พวกเราจะได้สร้างบ้านเมืองของเราให้เป็นประชาธิปไตย พัฒนาบ้านเมืองของเราให้เจริญทัดเทียมกับนานาอารยะประเทศเพื่อลูก หลาน ของเราสืบไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต.ป้ายแดง ไม่กดดันพิจารณาคดีร้อนยุบพรรค

นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้ารับตำแหน่งกกต. ว่า ก่อนหน้านี้กกต.ทำงานได้ดีอยู่แล้ว แต่ถ้ามองจากข้างนอกก็มีอุปสรรคปัญหาที่สะท้อนกลับมาในบางเรื่อง ซึ่งเป็นภาพรวมที่ว่ากกต.ทำอะไรกันอยู่ กกต.ทำอะไรถึงไหนแล้ว พอตนเข้ามานั่งอยู่ในตำแหน่งกกต. สิ่งหนึ่งที่อยากพัฒนาก็คือความสามารถ

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 16: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'อุ๊งอิ๊ง-รัฐมนตรีเพื่อไทย' แห่รับ 'ทักษิณ' ​เข้าพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานจากตึก OAI ซึ่งเป็นที่ตั้งของพรรคเพื่อไทย ว่าในวันนี้ (26 มี.ค.) ที่มีกำหนดการว่านายทักษิณ​ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางเข้าพรรค ทำให้บรรยากาศที่พรรคเพื่อไทยเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้สนับสนุนเดินทางมารอรับนายทักษิณตั้งแต่ช่วงเช้า เช่นเดียวกับบรรดาสส.

ความเป็นมาของรัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 (ตอนที่ 3)

รัฐธรรมนูญฉบับที่ 4 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2490 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490

‘นันทิวัฒน์’ สะกิดรัฐบาล เตรียมรับมือภาวะสงคราม หลังกลิ่นไอสู้รบยูเครนรุนแรง

กลิ่นไอการสู้รบในยูเครนเพิ่มความรุนแรง เมื่อมีข่าวลือว่าชาติพันธมิตรนาโตบางชาติ ได้ส่งทหารเข้าไปร่วมรบในยูเครน ปฏิกิริยาจากฝ่ายรัสเซียประกาศชัดเจน