'อุตตม' ไม่หวั่นอีสานพื้นที่ใคร มั่นใจได้ส.ส.แน่นอน ฟุ้งดันหนองคายเป็นฮับเศรษฐกิจ

“สร้างอนาคตไทย” ยกทีมผู้บริหารพรรคสัมมนาเตรียมพร้อมเลือกตั้ง ประเดิมอีสานที่แรก ปลุกผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ต้องชัดเจน อย่าหวั่นไหว “อุตตม” ไม่หวั่นอีสานพื้นที่ใคร มั่นใจได้ที่นั่ง ส.ส.แน่นอน “สนธิรัตน์” ลั่นพร้อมฟื้นโครงการไฮสปีดเทรน ปั้นหนองคายเป็นฮับเศรษฐกิจอีสาน เสียดายผู้มีอำนาจปัจจุบันไม่สานต่อ เสียฮับเส้นทางสายไหมให้เวียงจันทน์แทน

6 ม.ค.2566 - ที่โรงแรมรอยัลนาคารา และคอนเวนชั่น จ.หนองคาย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการพรรค นายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค และประธานนโยบายพรรค และนายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค และประธานภาคกลาง ร่วมงานสัมมนาผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสาน พรรคสร้างอนาคตไทย เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้ง ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 ม.ค. 2566 โดยบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสานเข้าร่วมกว่า 30 คน มีการปราศรัยเรื่องทิศทางการเมืองกับการเลือกตั้ง ปี 2566 โดยนายสนธิรัตน์ และยังมีการเปิดเวทีให้ผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสาน นำเสนอแผน และยุทธศาสตร์การเลือกตั้งเป็นรายบุคคลด้วย

โดยนายอุตตม กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า การเมืองวันนี้ถือว่าเข้าโค้งสุดท้ายแล้วจริงๆ จากนี้ไปเรามีเวลาไม่มากในการจัดทัพ ซี่งวันนี้เรามาสัมมนาภาคอีสานเป็นที่แรก และจะเดินหน้าจัดสัมมนาเช่นนี้ทุกภาคทั่วประเทศไทย พรรคสร้างอนาคตไทยเป็นพรรคใหม่ แต่ผ่านมาได้ถึงจุดนี้ถือเป็นผลงานของทุกท่านที่ร่วมกันทำงานอย่างจริงจังและเต็มที่ แม้จะมีพรรคเดิมๆที่เป็นพรรคขนาดใหญ่มีทรัพยากร อำนาจ แต่เราสามารถฝ่ามาได้ อย่างไรก็ตาม โจทย์วันนี้ของเราคือต้องก้าวไปข้างหน้าด้วยยุทธศาตร์ที่ชัดเจน และคม

นายอุตตม กล่าวว่า ขณะที่ข่าวการเป็นพันธมิตรเชิงลึกกับพรรคไทยสร้างไทยนั้น เราได้ผ่านการพิจารณาร่วมกันจากหลายฝ่าย เนื่องจากเสียงสะท้อนจากข้างนอกว่าสถานการณ์ปัจจุบันสิ่งที่เป็นจุดแข็งของทั้งพรรคสร้างอนาคตไทย และพรรคไทยสร้างไทย จะเป็นประโยชน์หากได้ทำงานร่วมกัน ซึ่งในส่วนของพรรคสร้างอนาคตไทย เราเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง และเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการทำงานของผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ ส.ส. ของพรรคทุกท่านต้องมีความชัดเจน และมีแผนงานที่ชัดเจน และทางพรรคเองก็จะทำงานกับท่านอย่างชัดเจนเช่นกัน เพื่อเดินหน้าได้ในภาวะเช่นนี้

“วันนี้พรรคสร้างอนาคตไทย ยังเป็นพรรคสร้างอนาคตไทย ทำงานภายใต้พรรคสร้างอนาคตไทย ไม่ต้องไปหวั่นไหว ที่ผ่านมาอาจมีมรสุมบ้าง แต่วันนี้เรานิ่งแล้ว พร้อมเดินไปข้างหน้าอย่างเดียว ที่ผ่านมาหลายคนสนใจว่าพรรคเรากำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งผมกับเลขาฯ พรรคได้รับการติดต่อ และมีคนสนใจร่วมงานกับพรรคเรา สะท้อนให้เห็นว่าเราไปได้แน่นอน และจะไปด้วยแนวทางเป้าหมายที่ชัดเจนในทุกพื้นที่ พรรคก็คือท่าน หากท่านชัดเจน พรรคก็เดินหน้า สำหรับยุทธศาสตร์พรรคเราที่จะนำไปสู่ชัยชนะ เราตั้งปณิธานว่าจะทำงานให้ประชาชน ทำงานให้ชาวอีสาน และคนไทยทั้งประเทศในยามที่ประเทศมีปัญหา” นายอุตตม กล่าว

จากนั้นนายสนธิรัตน์ ได้กล่าวปราศรัยเรื่องทิศทางการเมืองกับการเลือกตั้ง ปี 2566 ตอนหนึ่งว่า จากนี้เรามีเวลาไม่เกิน 3-4 เดือน ขอให้ผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของเราเตรียมตัวให้พร้อม ดังนั้นการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจะเป็นการเลือกตั้งที่มีความหมายมาก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งพรรคตระหนักดีว่าเป็นพื้นที่ใหญ่ และมีส.ส.มากที่สุด

ขณะที่นายวัชระ กล่าวว่า วันนี้เป็นโค้งสุดท้ายของการเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ดังนั้นสิ่งที่ผู้บริหารพรรค สิ่งที่นักรบผู้ร่วมอุดมการณ์ภาคอีสานทั้งหมดต้องการทำคือต้องทำงานการเมืองร่วมกันในลักษณะเชิงลึก และจริงจัง การสัมมนาวันนี้พรรคเปิดโอกาสให้ท่านเป็นคนกำหนดชีวิตทางการเมืองของท่านผ่านแผนงานที่จะนำเสนอ โดยงานสัมมนาแบ่งเป็น 2 วัน ในวันแรกเป็นเรื่องการนำเสนอแผนงานของผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันปิดหีบเลือกตั้ง และวันที่สองแต่ละท่านจะได้พบปะพูดคุยกับทางผู้บริหารพรรคโดยตรงเป็นรายบุคคล อย่างไรก็ตาม หลังจากวันนี้นี่คือสงคราม และสงครามได้เริ่มขึ้นแล้ว ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่สงครามกับพรรคสร้างอนาคตไทย

จากนั้น นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ให้สัมภาษณ์ถึงงานสัมมนาผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสาน พรรคสร้างอนาคตไทย ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 ม.ค. ว่า การประชุมสัมมนาทั้ง 2 วันนี้ เป็นการประชุมที่สำคัญกับพรรคสร้างอนาคตไทยในพื้นที่อีสานอย่างมาก เป็นการสัมมนาเชิงลึกในเรื่องของยุทธศาสตร์ และเป้าหมายของการเข้าสู่สนามเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นโค้งสุดท้ายของผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสาน พรรคสร้างอนาคตไทย โดยการสัมมนาจะลงลึกรายละเอียด และแลกเปลี่ยนข้อมูล เรียกว่าถกแผน และถกเป้าหมายกัน อีกทั้งพื้นที่อีสานเป็นพื้นที่สำคัญ และมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งพรรคสร้างอนาคตไทยให้ความสำคัญกับพื้นที่อีสาน แม้เราเป็นพรรคใหม่แต่เราเชื่อว่าเรามีขีดความสารถ และสรรพกำลัง ทั้งกำลังคน และชุดความคิดนโยบายที่ตอบโจทย์พี่น้องชาวอีสาน และตอบโจทย์ประเทศไทย

เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ เพราะอีสานมีพรรคเดิมที่มีฐานเสียงเหนียวแน่น นายอุตตม กล่าวว่า เราต้องยอมรับความจริงว่ามีพรรคใหญ่ที่ครองพื้นที่ แต่เรามั่นใจว่าพรรคเรามีแผนงานที่ชัดเจน มีบุคลากรที่มีศักยภาพ แต่ต้องผสมผสานด้วยยุทธศาตร์ที่เหมาะสม ตนมั่นใจว่าเรามีโอกาสได้ส.ส.ในพื้นที่

ด้านนายสนธิรัตน์ ให้สัมภาษณ์ถึงการปักธงในพื้นที่อีสาน ว่า การขับเคลื่อนทางการเมืองของพรรค และยุทธศาสตร์ของพรรคเรามีโอกาสปักธงส.ส.อีสาน ขณะนี้พรรคได้เดินยุทธศาสตร์ ทั้งเชิงเดี่ยว และเชิงพันธมิตรตามที่เป็นข่าวไปแล้ว ซึ่งยุทธศาตร์ผสมผสานทั้ง 2 ส่วนคือเป้าหมายในการปักธง ส.ส.อีสาน วันนี้พรรคได้เดินมาถึงจุดที่เรามีความมั่นใจ คิดว่าเราจะปักธงในหลายพื้นที่ ถือเป็นความท้าทายของพรรคอย่างมาก แต่เชื่อว่าพี่น้องชาวอีสานส่วนใหญ่ต้องการความเปลี่ยนแปลง เพราะขณะนี้เป็นเวลาเปลี่ยนแปลงทางการเมือง พรรคสร้างอนาคตไทยเท่าที่เราเดินมา ถือว่าไม่มีอุปสรรคต่อความรู้สึกของพี่น้องชาวอีสาน เราคือมือทำงาน เป็นพรรคที่ตั้งใจมาทำงาน เสนอตัวเอง เสนอบุคคลากร และเสนอกรอบความคิดที่จะแก้ปัญหาประเทศ เชื่อมั่นว่าด้วยความตั้งใจเช่นนี้ รวมถึงยุทธศาตร์ของพรรคที่มีจึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะปักธงอีสานได้

“พรรคสร้างอนาคตไทยเลือกมาจ.หนองคายวันนี้ เพราะเราเสียดายที่วันนี้หนองคาย จากในสมัยที่พวกเราริเริ่มโครงการไฮสปีดเทรน หรือรถไฟฟ้าความเร็วสูงกับทางเวียงจันทร์ ประเทศลาว ระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เราริเริ่มได้หายไปจากประเทศไทย ไม่อย่างนั้นวันนี้หนองคายจะไม่เป็นอย่างนี้ หนองคายจะเป็นหนองคายที่เป็นฮับใหญ่ของประเทศไทย แต่วันนี้กลายเป็นเวียงจันทน์ที่เป็นฮับใหญ่ของการเชื่อมโยงเส้นทางสายไหม ซึ่งน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นวันนี้เรามาเพื่อบอกให้รู้ว่าถ้าพี่น้องชาวอีสานไว้วางใจพวกเรา หนองคายจากกลับมาเป็นฮับใหญ่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และจะเป็นหมากเศรษฐกิจที่สำคัญยิ่งของพี่น้องชาวอีสาน น่าเสียด่ายที่ผู้มีอำนาจในปัจจุบันไม่ได้ทำ แต่เราอาสากลับไปทำต่อให้สำเร็จ ไม่มีอะไรช้าเกินไป และเราจะปักธงตรงนี้แน่นอน และเป็นหนึ่งในนโยบายของเราแน่นอน นี่คือเหตุผลของการมาที่นี่ของพวกเรา” นายสนธิรัตน์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุวัจน์' หวนคืนชื่อเดิม 'พรรคชาติพัฒนา' แต่งตั้ง สส.แจ้ เป็นรองหัวหน้าพรรค

พรรคชาติพัฒนากล้า เปิดการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 นำโดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า , นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ,

'ชัยเกษม' ออกตัวไม่เกี่ยวปรับครม. ผู้บริหารพรรคจะใช้ให้ทำอะไรก็ได้ สบายๆ

นายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เดินทางมาไหว้ศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา ศาลยาย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า การเดินทางมาไหว้วันนี้เกี่ยวอะไรกับการปรับ ครม.หรือไม่

ไทยในสายตาต่างชาติ: สมัยรัชกาลที่เจ็ด (ตอนที่ 20: การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในสายตาผู้ช่วยทูตทหารฝรั่งเศส)

(ต่อจากตอนที่แล้ว) ในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 1932 (พ.ศ. 2475) ของพันโท อองรี รูซ์ ผู้ช่วยทูตทหารบกและทหารเรือประจำสยาม ประจำสถานอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำสยาม มีความว่า

'เผ่าภูมิ' ปัดนายกฯ ส่งสัญญาณนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวได้เดินทางมารับเอกสารกรอกแบบฟอร์มตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ว่า ตนไม่ให้คอมเมนท์ ยืนยันว่าขณะ

อดีตบิ๊กข่าวกรองเตือนสติ! อย่าหลับตาพูดลืมตาดูสถานการณ์โลกด้วย

นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ