การเมืองสมัยหน้า ยุคแห่งอุดมการณ์ล่มสลาย

“สาทิตย์”  มองการเมืองสมัยหน้า ยุคแห่งอุดมการณ์การล่มสลาย ไม่มีขั้ว ซ้าย ขวา  ยัน ปชป. ไม่ร่วมสังฆกรรมพรรคเพื่อไทย

8 ม.ค.2566 – ที่บ้าน สกุลวงศ์หนองเตย ถ.เทศบาล 5 ต.ห้วยยอด อ.ห้วยบอด จ.ตรัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวช่วงหนึ่ง ถึงสถานการณ์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าเป็นการแสดงความชัดเจนทางด้านการเมือง แต่มันจะมีผลต่อการเลือกตั้งในครั้งหน้าซึ่งยังมาไม่ถึง แต่ว่าในการอภิปรายนั้นเป็นปัญหาในชุดรัฐบาลปัจจุบันต้องแก้ไข แต่สิ่งที่ตนเองพูดไว้ก่อนว่า อย่าเอาโจทย์ของพรรคการการเมืองในการต่อสู้ในการแข่งขันกันในเวทีการเมืองมาเหนือปัญหาที่แท้จริง  ควรเอาปัญหาของประชาชนที่แท้จริงมาเป็นตัวตั้ง  ดูซิว่ารัฐบาลจะตอบอย่างไรและจะแก้ไขปัญหาได้หรือไม่เพียงไร มองว่าถ้าเอาตัวเลขเอาข้อเท็จจริงต่าง ๆมาเปิดเผยประชาชนจะได้ประโยชน์มากกว่า เวทีที่จะต่อสู้เพื่อรณรงค์หาเสียงกันเลือกตั้ง ถ้าเป็นแบบนั้น ปัญหาของประชาชนจะถูกทำให้เป็นลำดับรอง

นายสาทิตย์ กล่าวว่า หลังจากการเลือกตั้งครั้งนี้มองว่าประชาธิปัตย์อยู่อันดับไหนนั้น คงไม่มีใครตอบได้ ถามว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองระดับไหนมันก็ไม่มีหลักที่ชัดเจนว่า พรรคการเมืองเรียกว่าพรรคระดับไหน  เพียงแต่ในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง พรรคประชาธิปัตย์อยู่มา 77 ปี  เพราะฉะนั้นใน 60-70 ปี ที่ผ่านมา ก็ถือว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะมีขึ้นมีลง  เที่ยวที่แล้วเราได้มา 50 กว่าที่  ก็ถือว่าเป็นพรรคขนาดกลางค่อนข้างเล็ก

“แต่ในการเลือกตั้งครั้งหน้ามองว่าบริบทการเลือกตั้งมันเปลี่ยนไปเยอะมาก  มันเป็นยุคที่อุดมการณ์ล่มสลาย ไม่มีซ้าย ไม่มีขวา มันไม่ขั้ว มันเหมือนพรรคการเมืองทุกคนต่างก็พยายามจะหาคนที่มาหนุนพรรคตัวเองโดยใช้ทุกวิธีการ เพื่อที่จะพอกพูนคะแนนสียงให้ได้เยอะ  โดยมีเป้าหมายไปจัดตั้งรัฐบาล จะเห็นคนย้ายพรรคจากพรรคโน้นไปพรรคนี้ ย้ายจากซีกหนึ่งไปอีกซีกหนึ่ง กลายเป็นเรื่องปกติ แต่ในอดีตมันไม่เกิดขึ้น  เพราะพรรคที่มีอุดมการณ์และทิศทางแนวทางที่ไม่ตรงกัน โดยเฉพาะอุดมการณ์ที่ไม่ตรงกันคนที่เข้าไปร่วมไม่สามารถรับอุดมการณ์นั้นได้  แต่ยุคนี้เหมือนยุคอุดมการณ์ล่มสลายไปแล้ว ทุกคนพูดเฉพาะผลประโยชน์เฉพาะหน้าตนเอง” นายสาทิตย์ กล่าว  

นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า พรรคการเมืองก็เหมือนมีคนคุมบังเหียนพรรคอยู่นอกสภาคนกำหนดเกมสั่งการทั้งหลาย เวทีสภาก็เกมเหมือนหมากรุกที่ยกเอาพลพรรคเข้ามาใครพวกมากเอาชนะ แต่น้อยคนที่จะพูดถึงเรื่องอุดมการณ์แนวคิดทางด้านการเมือง นโยบายจะเป็นประชานิยมเป็นหลัก   เช่น ให้ 2,000 3,000  5,000 เป็นต้น เพราะฉะนั้นการเมืองลักษณะแบบนี้ประชาชนเหมือนถูกปัดโดยนโยบายประชานิยมทั้งหลาย  และทุกคนจะลืมจุดยืนหรืออุดมการณ์ทางการเมืองไป ตนเองมองว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย   ผลของมันที่เกิดขึ้นตนว่ามันอยู่ที่ใครยึดกุมสภาพความได้เปรียบมากกว่า  ซึ่งสภาพแบบนี้จากวันนี้ไปจะคำนวณคาดการณ์นี้ยากมากว่าจะออกมาเป็นแบบใด

 ถ้าจะถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้ผลการเลือกตั้งเทาไหร่นั้น ตนเองมองว่าทุกพรรคไม่มีใครคาดได้  ยกเว้นว่าคุณจะวางเป้าไว้  เช่น เพื่อไทยจะแลนด์สไลด์  แต่ใครจะทราบว่าแลนด์สไลด์จะได้มาเท่าไหร่ไม่มีใครกล้าตอบ  มีอยู่วันหนึ่งเพื่อไทยบอกว่าจะได้เสียงเกินครึ่งของสภา 250  ตนเองนึกถึงตอนทักษิณอยู่ 2528 ได้ไป 300 กว่า จาก 500  อยู่ได้ปีหนึ่งอยู่ไม่ได้ เพราะมาแล้วโดนเรื่องทุจริต คอรัปชั่น โดนคนต่อต้าน

“ เพราะฉะนั้นมันไม่สำคัญว่าใครได้มากน้อยเท่าไหร่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่มันสำคัญอยู่ที่ว่าแนวคิดที่จะขับเคลื่อนประเทศไปทิศทางไหน ภาระหนักจะตกไปอยู่ที่ประชาชน ที่จะต้องคัดเลือกเอาจากบรรดานโยบายประชานิยมทั้งหลาย โดย ประสบการณ์ ผลงาน ความเชื่อถือของทีมงานที่ผ่านมาว่าพรรคไหนจะน่าเชื่อถือที่สุด” นายสาทิตย์ ระบุ

นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า  พรรคประชาธิปัตย์ปิดกั้นเพื่อไทยหรือไม่นั้น ในความคิดเห็นส่วนตัวแนวคิดยังไม่ตรงกันเลย ตั้งแต่นายกที่เคยต่อสู้กันมา ตั้งแต่ปี 44 จนถึง ปี 56 แนวคิดไม่ตรงกันเวลาวิธีคิดแนวคิดการบริการก็ไม่ตรงกัน  ที่สำคัญตนมองว่าเพื่อไทยเขามีอะเจนด้าที่ชัดเจน คุณทักษิณประกาศจะกลับประเทศค่อนข้างชัด และทดลองทำกฎหมายนิรโทษกรรมมาครั้งหนึ่งเอาน้องในไส้ตัวเองมาเป็นนายก เจอแรงต่อต้านจากประชาชนกลายเป็นเหตุการณ์มวลมหาประชาชนขึ้นมา

 “เที่ยวนี้ส่งลูกสาวตัวเองคนใกล้ชิดมาคุมบังเหียนหัวของพรรคเพื่อไทย เราก็ไม่รู้ว่าโดยแนวคิดที่แท้จริงเขาคิดอะไร เพราะฉะนั้นโอกาสตรงนั้นเรายังพูดไม่ได้ แต่โดยแนวคิดพื้นฐานไม่ตรงกัน ซึ่งทุกคนต้องบอกว่ารอดูผลการเลือกตั้ง ผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวชี้ แต่โดยความคิดส่วนตัวการร่วมกับพรรคเพื่อไทย ณ วันนี้แนวคิดยังไม่ตรงกัน จุดยืนอุดมการณ์ไม่ตรงกัน” นายสาทิตย์ ระบุ. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แฉเล่ห์ 'พท.' วางยาแก้ รธน. ล็อกคำถามประชามติครั้งแรก

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า พรรคเพื่อไทยจริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่

'อนุทิน' การันตี ภท. ไม่ปรับ ครม. ชี้ 8 รมต. ทำงานคืบหน้า

'อนุทิน' ย้ำรัฐมนตรีภูมิใจไทย 8 คน ไม่มีขยับ ชี้ทุกคนทำงานเต็มที่ผลักดันนโยบายคืบหน้าตลอด นายกฯ ยังไม่ส่งสัญญาณปรับ ครม. พร้อมอุ้ม 'เกรียง' มอบ พช. ดูแลเพิ่มอีกกรม

อัยการนัดฟังคำสั่งคดี 'จักรภพ' 23 พ.ค. เจ้าตัวแย้มจ่อลุยการเมือง

อัยการนัดฟังคำสั่งคดี 'จักรภพ เพ็ญแข' ครอบครองอาวุธสงคราม 23 พ.ค.นี้ เจ้าตัวเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม จ่อลุยการเมืองหลังพ้นคดี ชี้ ‘ยิ่งลักษณ์’ ควรได้ความเป็นธรรมเหมือนทุกคน

'กูรูการเมือง' ชำแหละ! ปั่นเฟกนิวส์ 'วันนอร์' ไขก๊อกประธานสภา

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า เบื่อกาลวินาศมาถึง อะไรต่อมิอะไรก็วิปริตแปรปรวนไป