ชี้พรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยมมีเยอะ ตัดคะแนนกันเอง ส่อเข้าทาง ‘พท.-กก.’

พลังประชารัฐ ชี้พรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยม มีเยอะกว่า ลงสู้กัน ส่งผลตัดคะแนนกันเองกระจาย ส่อเข้าทาง’เพื่อไทย-ก้าวไกล’

5 ก.พ.2566- นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าทีมรับผิดชอบดูแลพื้นที่เลือกตั้งกรุงเทพมหานครของพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่พรรคการเมืองที่ถูกมองว่าอยู่ในสายเดียวกัน ต่างก็ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.เขตกทม.กันเกือบทั้งหมด เช่นพรรคฝ่ายขั้วรัฐบาล ที่มีทั้งพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย รวมถึงรวมไทยสร้างชาติว่า ก็คงเหนื่อยแน่นอน คือกรุงเทพมหานคร หากมองย้อนกลับไปดูการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุคคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน มาถึงม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร หากแบ่งคะแนนเป็น อย่างฝ่ายอนุรักษ์นิยมกับฝ่ายซ้ายแล้วกัน ก็จะพบว่าเดิมที ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ก็จะมีเปอร์เซนต์ที่มากกว่าอยู่จำนวนหนึ่ง และก่อนหน้านี้มีแค่สองฝั่ง ก็จะไม่ยากสำหรับคนที่จะลงคะแนนเลือก คือไม่ซ้ายก็ขวา แต่ปัจจุบัน คะแนนดังกล่าวเหมือนจะกลับกัน กลายเป็นคะแนนฝ่ายซ้ายใหม่ มากกว่าอนุรักษ์นิยมแล้ว และเมื่อพรรคการเมืองที่อยู่ในฝ่ายอนุรักษ์นิยมมีมากกว่า ทำให้การตัด-แบ่งคะแนนกันเองจึงเยอะกว่า ก็เป็นการยากมากขึ้นของแต่ละพรรคการเมือง

นายสกลธียอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะมีผลต่อพรรคพลังประชารัฐ โดยจะคล้ายกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ที่มีการตัดคะแนนกันเยอะพอสมควร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ดูยากพอสมควรอยู่ เพราะอย่างเดิมที ก็ไม่คิดกันว่า ทางนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.ไม่น่าจะได้คะแนนเยอะมากขนาดนั้น แต่พื้นที่เลือกตั้งกรุงเทพฯ เรื่องกระแสเป็นสิ่งสำคัญ คือหากกระแสดี นโยบายดี คนกรุงเทพมหานคร ก็พร้อมที่จะสวิงเลือก แต่ว่าการที่คะแนนตัดกันเองของฝ่ายที่มีคะแนนจากฐานเดียวกัน มีแน่อยู่แล้ว

ถามถึงโอกาสที่คนกรุงเทพฯอาจจะสวิงโหวตไปเลือกอีกฝั่งเลยเป็นไปได้หรือไม่ นายสกลธีกล่าวว่า หากมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ร้อยเปอร์เซนต์ ประมาณสักข้างละสามสิบเปอร์เซนต์ มันจะสวิงยากแล้ว คือสามสิบเปอร์เซนต์ของแต่ละฝั่ง จะเป็นฝั่งที่ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็จะเลือกจากฝั่งเดิมของตัวเอง ก็จะมีประมาณสี่สิบเปอร์เซนต์ที่อยู่ตรงกลาง ที่อาจจะสวิงได้ ที่จะชี้ขาดกัน ก็คือกลุ่มสี่สิบเปอร์เซนต์ตรงกลาง ก็จะเหมือนกับตอนเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ที่ผ่านมา ที่คะแนนของพรรคพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ หายไป แล้วไปโผล่ที่คุณชัชชาติทั้งที่ในทางปฏิบัติ เราก็รู้ว่าผู้ว่าฯชัชชาติ อยู่ทางไหน มีแนวอย่างไร ก็คือกลุ่มตรงนี้สี่สิบเปอร์เซนต์ที่พร้อมจะสวิงได้ อาจจะสวิงข้ามไปข้ามมา ขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้นๆ โดยสี่สิบเปอร์เซ็นต์ดังกล่าว น่าจะเป็นกลุ่มคนชั้นกลาง ที่อาจจะเบื่อง่ายหน่อย เพราะคนกรุงเทพฯ บางทีวันนี้รัก พรุ่งนี้อาจจะหน่าย ที่เห็นได้จากการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา ก็มักจะเป็นแบบนั้น

“การเลือกตั้งครั้งนี้การแข่งขันสูง แต่ละพรรคการเมืองที่ส่งคนลงเลือกตั้ง ก็จะพบว่าตัวผู้สมัคร ก็มีดีๆกันหลายคน  ผมมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการตัดคะแนนกันค่อนข้างเยอะ แล้วอย่างที่บอกพรรคการเมือง ที่เป็นฝั่งอนุรักษ์นิยม จะตัดคะแนนกันเยอะกว่า โอกาสก็เหนื่อย ผลอาจออกมาในแนวที่ฝ่ายเพื่อไทยอาจจะได้ส.ส.เยอะขึ้น รวมถึงก้าวไกล ที่ก็เป็นไปได้

ส่วนเป้าหมายการเลือกตั้งจำนวนส.ส.ของพลังประชารัฐนั้น ทางหัวหน้าพรรคพลเอกประวิตร และทางคุณวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคให้สัมภาษณ์ ก็หวังไว้ที่ 120 เสียงประมาณนั้น แต่ตนก็มีตัวเลขในใจ แต่อาจไม่ตรงกัน ส่วนโอกาสที่ผลเลือกตั้ง จะมีบางพรรคการเมืองชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์หรือไม่ หากดูจากตอนนี้ การที่จะมีพรรคการเมืองใด ชนะแบบแลนด์สไลด์เลย จนตั้งรัฐบาลได้พรรคเดียว น่าจะเกิดขึ้นยากมาก เพราะตอนนี้มีการแบ่ง ซึ่งไม่ใช่แค่กับฝั่งอนุรักษ์นิยมเท่านั้นที่แบ่ง แต่ฝั่งซ้ายก็แบ่งเช่นเดียวกัน และแบ่งหนักด้วย เพราะฉะนั้นจะเป็นเหมือนเดิมแบบที่สองขั้วแล้วแลนด์สไลด์เลย น่าจะเกิดขึ้นได้ยากมาก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นพดล' อัด 'อมรัตน์' ล้ำเส้น ด่า 'ทักษิณ' มักใหญ่ใฝ่สูง อยากเป็นสมเด็จแบบฮุนเซน

นายนพดล ปัทมะ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ว่าคนไม่ชอบหน้าให้ต่างคนต่างอยู่นั้น

อดีตสส.เชียงใหม่ ร่ายกลอนฟาดกลับอดิศร เห็นฟ้าแลบฟ้าผ่าซ้ำพรรคเพื่อไทย!

นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ หรือ "กุ้ง" อดีต สส.เชียงใหม่ ซึ่งลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย หลังจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ได้โพสต์บทกลอนตอบ