“ประยุทธ์”หวั่นแรงงานต่างด้าวทะลักเข้าลงทะเบียนตามกม.ปะปนติดเชื้อ สั่งทหาร-ตำรวจเฝ้าระวังและเตรียมสนับสนุนคัดกรองคุมโรคเข้ม หลังพบไวรัสกลายพันธ์ “โอไมครอน”ในหลายประเทศ
27 พ.ย. 2564 พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กห. พร้อม ปลัดกห.ได้ร่วมประชุมกับทุกเหล่าทัพ ตร.และ กอ.รมน.ผ่าน ระบบ VTC ติดตามการสนับสนุนรัฐบาลขับเคลื่อนแก้ปัญหาที่สำคัญ ณ ศาลาว่าการกลาโหม
รมช.กห. ย้ำสั่งการตามนโยบายที่สำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กห. ให้ทุกเหล่าทัพ กอ.รมน.และตำรวจ โดยกองกำลังป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำ ยังคงเข้มงวดเฝ้าระวังและสกัดกั้นจับกุมการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายทั้งพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นในอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ ทั้งนี้ขยายผลบังคับใช้กฎหมายกวาดล้างจับกุมให้ถึงขบวนการลักลอบนำพาแรงงานเข้าเมืองทั้งหมด ขณะเดียวกันให้เตรียมการสนับสนุนการคัดกรองแรงงานต่างด้าวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศผ่านช่องทางผ่านแดนที่กำหนดใน 5 จังหวัด ภายหลังเปิดให้มีการนำแรงงานตามบันทึกความเข้าใจร่วมกันจาก 3 ประเทศ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ซึ่งอาจมีผู้ติดเชื้อปะปนเข้ามา โดยขอให้เตรียมสถานที่กักกันควบคุมโรคและประสานการดูแลตามมาตรการทางสาธารณสุขที่กำหนด
ส่วนกรณีที่องค์การอนามัยโลกประกาศพบ”โอไมครอน”ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่กระจายได้ง่ายนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังติดตามข้อมูล สถานการณ์อยู่ ในส่วนของชายแดนนายกฯสั่งการให้เข้มงวดอยู่แล้ว โดยเฉพาะกลุ่มที่ลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย จะมีพื้นที่กักตัวแยกต่างหากก่อนประสานให้ประเทศเพื่อนบ้านรับตัวกลับ สำหรับแรงงานที่จะกลับมาตามเอ็มโอยูนั้นกระทรวงแรงงานมีมาตรการในการกักตัว 7 วันสำหรับผู้ฉีดวัคซีน 2 เข็มและ 14 วันสำหรับผู้ฉีดวัคซีน 1เข็ม อีกทั้ง ตำรวจ ทหาร ทุกหน่วยงานที่ทำงานบริเวณชายแดน สกัดกั้นการป้องกันอย่างเต็มที่ แต่ความร่วมมือจากประชาชนก็เป็นสิ่งสำคัญในการปฏิบัติตนตามมาตรการที่รัฐกำหนด เพื่อให้การเปิดประเทศเดินหน้าไปได้ และประสบความสำเร็จ
พร้อมกันนี้ ขอให้หน่วยทหารในพื้นที่ภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ที่อาจเกิดนำ้ท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง ใน 6 จว.ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยให้เตรียมการแจ้งเตือนและให้การช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้ทันกับสถานการณ์ ทั้งนี้ หน่วยทหารในพื้นที่เพชรบุรีและภาคใต้ในหลายจังหวัด ตั้งแต่ ระนอง ชุมพร ลงไปยังคงกระจายกำลังกันประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยต่อเนื่องกัน สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายและน้ำเริ่มลดลงบ้างแล้ว ได้ร่วมกับจิตอาสา สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือน ช่วยเก็บเกี่ยวพืชไร่และทำสะอาดพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะโรงเรียนและวัด เพื่อให้เด็กนักเรียนกลับเข้าเรียนและประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ นรม.และ รมว.กห. ยังได้แสดงความขอบคุณ หน่วยงานความมั่นคง ทหารและตำรวจ ที่สนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาในทุกวิกฤติของประเทศที่ผ่านมา โดยเฉพาะการคงความต่อเนื่องในการบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทยและสถานพยาบาล ช่วยชีวิตผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉินระหว่างการแพร่ระบาดของโควิดที่ผ่านมา พร้อมทั้งขอเป็นกำลังใจและให้กับกำลังพลทุกคนปลอดภัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รวบแล้ว 6 วัยรุ่นแก๊งเมียนมา เหิมหนักใช้อาวุธมีด ยกพวกรุมกระทืบคนไทย
นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯสมุทรสาคร พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล รองผบก. รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมือง พ.ต
ผบ.ตร. สดุดีตำรวจกล้า 'ส.ต.ท.ณัฐวัฒน์' ถูกกระบะขนแรงงานต่างด้าว พุ่งชนเสียชีวิตขณะตั้งด่าน
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีรถขบวนการขนย้ายแรงงงานต่างด้างชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร เสียชีวิตขณะตั้งด่าน ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองกำแเพงเพชร ก่อนเกิดเหตุตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับ
'ภูมิธรรม' ห่วง 4 ลูกเรือไทย สั่งดูแลครอบครัว 'บัวแก้ว' นัดเจรจาเมียนมา 19 ธ.ค.
'ภูมิธรรม' ห่วงลูกเรือคนไทย 4 คน ที่ถูกคุมตัวอยู่จังหวัดเกาะสอง สั่งเร่งประสานช่วยเหลือครอบครัวใกล้ชิด ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ นัดหารือฝ่ายเมียนมา 19 ธ.ค.นี้
“พิพัฒน์” เอาจริง! ตั้งชุดเฉพาะกิจตรวจสอบการจ้างแรงงานต่างด้าว ป้องปรามแย่งอาชีพคนไทย ออกจับ ปรับส่งกลับประเทศ
วันที่ 11 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบการจ้างงาน สภาพการจ้าง การบังคับใช้แรงงานหรือบริการ และการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย
เปิดเวทีชำแหละมติ ครม. บริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ ต่อใบอนุญาตทำงานแบบ MOU
นายอดิศร เกิดมงคล ผู้ประสานงานองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ เปิดเผยว่า เวทีในวันที่ 4 ธันวาคมนี้จะมีการวิพากษ์ตามมติ ครม. โดยเฉพาะในกรณีของการต่ออายุการอนุญาตในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ปีหน้า