'ณัฐวุฒิ' กัดไม่ปล่อย รทสช. ประกาศแคนดิเดตนายกฯ 2 คน เหมือนมวยออกอาการ

“ณัฐวุฒิ” เชื่อ “รทสช.” เปิดแคนดิเดตนายกฯสองคน ไม่กระทบแลนด์สไลด์เพื่อไทย เปรียบเหมือนมวยออกอาการ “บิ๊กตู่” หาทางลง เย้ยแกนนำมีแต่คนหมดฟอร์ม คงไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นเพิ่มได้

25 มี.ค.2566 - ที่จ.สระบุรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 2 รายชื่อ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค เป็นลำดับที่หนึ่ง และนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นลำดับที่สอง ซึ่งเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่คิดกันไว้ แต่เป็นการตัดสินใจในช่วงท้ายๆ เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีกระแสข่าวว่าจะมีแคนดิเดตนายกฯคนอื่นนอกจากพล.อ.ประยุทธ์

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สถานการณ์อาจมาถึงจุดที่พล.อ.ประยุทธ์ขาดความมั่นใจจะมีคะแนนเสียงเพียงพอจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยเฉพาะท่าทีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แสดงออกชัดเจนว่า หากใครมีคะแนนเสียงมากกว่าจะไม่ยอมให้ใครรวมถึงพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ดังนั้นการเสริมนายพีระพันธ์ เข้ามาอาจทำให้ภาพของพรรค รทสช. ดูเข้มแข็งขึ้น อีกทั้งเหมือนเป็นการส่งสัญญาณเผื่อเหลือเผื่อขาด ว่าหากเลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ท่านจะทำงานได้อีกเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น แม้ว่า ส.ว. บางส่วนมีความพยายามแก้ไขให้พล.อ.ประยุทธ์ได้อยู่ต่อก็ตาม แต่ในสนามเลือกตั้งคงอธิบายกับประชาชนยากเลยเอานายพีระพันธ์มาอุดช่องว่างส่วนนี้

เขากล่าวว่า ตนตั้งข้อสังเกตเหมือนเป็นการเตรียมตัวถอย หาทางลงของพล.อ.ประยุทธ์ด้วย เพราะหากพรรค รทสช. ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล และตัวพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นนายกฯ ตนก็ไม่เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะมาทำงานในฐานะฝ่ายค้านอย่างแน่นอน ซึ่งหากมีแคนดิเดตนายกฯพรรคเพียงคนเดียวก็จะทำให้พรรคหมดแคนดิเดตนายกฯไปอีก 4 ปี เชื่อว่าจะไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกของประชาชน เหมือนเป็นการแก้เกมภายในกันมากกว่า ยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อเป้าหมายแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทย ก่อนเปรียบหากเป็นภาษามวยคือ มวยออกอาการ ประชาชนคงไม่เลือกเพิ่มขึ้น

ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าวด้วยว่า การที่บรรดานักการเมืองแห่ย้ายเข้าพรรค รทสช. นั้น มองเราจะชี้วัดด้วยปริมาณคงไม่ได้ แต่ในเชิงคุณภาพเราจะเห็นบรรดาแกนนำของพรรคนั้น ไม่มีนักการเมืองที่อยู่ในช่วงท๊อปฟอร์ม ขณะที่ทีมเศรษฐกิจพรรค ก็ไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นเพิ่มได้เลย เพราะที่ผ่านมาทีมเศรษฐกิจที่มีชื่อนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ มาร่วมงานคนยังแทบไม่รู้จัก จึงไม่เชื่อว่าการเปิดตัวนักการเมืองมากมายจะมีพลังเพิ่มขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'8 พรรคร่วม' ตั้งคณะทำงานเพิ่ม 5 ชุด ต้านคอร์รัปชัน ปราบส่วย แก้ขาดบุคลากรแพทย์ ปฏิรูปที่ดิน

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค แถลงหลังการประชุมคณะทำงานชุดเล็กทั้ง 7 คณะที่ตั้งขึ้นตามมติพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยนายพิธา กล่าวว่า วันนี้มีวาระการประชุมในการตามงานจากคณะทำงาน

รบกับเงาตัวเอง! 'พิธา' อ้าง 14 ล้านเสียง พร้อมสู้กับความพยายามคืนชีพ ITV เพื่อสกัดกั้นก้าวไกล

ไม่มีใครหรืออำนาจไหน มาสกัดกั้นฉันทานุมัติของพี่น้องประชาชน ที่ได้แสดงออกไปเมื่อการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม ถึงกว่า 14 ล้านเสียง ได้อีกแล้ว

'ภูมิธรรม' ลั่นไม่มีใครจะใช้นโยบายได้ฝ่ายเดียวในรัฐบาลผสม ชี้แบ่งกระทรวงยึดตามประชาชนต้องการ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการตั้งรัฐบาลคร้ังนี้ มีการร้องไปยังพรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งต่างๆนานา ดูภาพรวมแล้วจะมีอะไรเป็นอุปสรรคอะไรหรือไม่ ว่า เป็นเรื่องปกติ การร้องเรียนต่างๆเกิดขึ้นตลอด แต่วันนี้อย่างน้อยที่สุดประชาชนสะท้อนเจตจำนงชัดเจน

ไร้จิตสำนึก! แฉคนเดินขบวน 'บางกอกไพรด์' ทำผลงานศิลปะพังเสียหาย ทิ้งขยะเรี่ยราด

กรณีการจัดงาน Bangkok Pride 2023 ซึ่งมีการเดินขบวนพาเหรดรณรงค์ในเรื่อง LGBTQ เริ่มต้นที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา

นายกฯ ปลื้ม อภ. คิดค้น 'ยาเลิกบุหรี่' ชนิดใหม่ รายแรกในไทย

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ทำมาก่อน! แกนนำเพื่อไทย ชูผลงานผลักดันสุราพื้นบ้านตั้งแต่ปี 44 หนุน 'พิธา' ต่อยอดโอทอป

นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความว่า "โอกาสของประเทศไทยเปิดกว้างขึ้นอีกครั้ง ตั้งแต่ปี 2544 พรรคไทยรักไทย เราพยายามผลักดันสุราพื้นบ้านและยกระดับสินค้าชุมชนพื้นบ้านหลายตัว