'อนุดิษฐ์' โหมยุทธศาสตร์ปราบโกง ใหญ่แค่ไหนก็ติดคุกได้

“อนุดิษฐ์”  แฉกลไกในรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ฟอกขาวคอร์รัปชันให้ถูกกฎหมาย ประกาศสะสางปัญหาให้สำเร็จ ใหญ่แค่ไหนก็ติดคุกได้

26 มี.ค.2566 –  น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ผู้อำนวยการสำนักงานปราบโกง พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า พรรคประกาศสงครามกับการคอร์รัปชัน เพราะสถานการณ์คอร์รัปชันของประเทศไทยเลวร้ายที่สุดและหากปล่อยไว้แบบนี้ ประเทศไทยต้องล่มสลายอย่างแน่นอน จากดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชันของไทยปีล่าสุดได้แค่ 35 คะแนน อยู่อันดับที่ 101 จาก 180 ประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนแทรกประเทศไทย ตัวเองรู้สึกอายประเทศเพื่อนบ้าน อายลูกอายหลาน ไม่อยากให้ลูกหลานประณามเราได้ว่า พ่อแม่ของเขา ปล่อยให้คนโกงชาติ โกงแผ่นดิน ปู้ยี่ปู้ยำแผ่นดินไทย จนไม่เหลืออะไรให้กับพวกเขาในอนาคตอีกต่อไป

“เพราะความมั่งคั่งร่ำรวยถูกแย่งชิงไปอยู่กับคนเพียงไม่กี่ตระกูล หรือเพียง 1% บางคนรวยด้วยความสุจริต แต่บางคนรวยเพราะฉ้อฉล และถูกฟอกขาวด้วยรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่ต้องสงสัยเลยว่า 8 ปีมานี้ ทำไมเราถึงมีคนจนเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านคน” น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุ

น.อ.อนุดิษฐ์  กล่าวว่า ตัวเองทำงานตรวจสอบการทุจริต ประพฤติผิดมิชอบ มาตั้งแต่เป็น ส.ส. สมัยแรก ในอดีตทุจริตกันเป็นโครงการๆ ตรวจสอบไม่ยาก แต่ทุกวันนี้มีความแยบยลมากขึ้น เพราะมีการใช้อำนาจรัฐทำเรื่องผิดๆ ให้ถูกกฎหมาย ตรวจสอบยาก เช่น ค่าไฟฟ้าแพง ยากที่จะไปกล่าวโทษใครก็ตามว่าทุจริต แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คือผู้ใช้งานต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงอยู่ทุกเดือน เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ต้องมีบางอย่าง บกพร่อง ผิดพลาด หรืออาจมีการสมรู้ร่วมคิดกันหรือไม่

“พรรคไทยสร้างไทย ได้ศึกษาแนวทางของประเทศต่างๆ ที่ปราบคอร์รัปชันสำเร็จ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เกาหลีใต้ เป็นต้น ซึ่งประเทศเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีดัชนีความโปร่งใสที่สูงขึ้น แล้วยังมีเศรษฐกิจที่ดี การลงทุนที่สูงขึ้นตามไปด้วย เรานำมาสร้างเป็นยุทธศาสตร์ปราบโกงของพรรคภายใต้แนวความคิดที่ว่า เราต้องปราบคอร์รัปชัน เพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่ของสังคมไทย จะใหญ่แค่ไหนถ้าโกงก็สามารถโดนจับติดคุกได้” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

น.อ.อนุดิษฐ์  กล่าวอีกว่า มีรายละเอียด 7 ข้อ คือ ผู้นำประเทศต้องตั้งใจจริง, ทุกคนต้องโดนตรวจสอบไม่มียกเว้น, กำหนดเส้นตายในการสืบสวนสอบสวนการทุจริต, ลงโทษหนัก, แจ้งเบาะแสต้องง่ายและเป็นความลับ, ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ 2 ชั้น, สื่อมวลชนต้องมีเสรีภาพ, และใช้เทคโลโลยี เช่น Big Data,  AI, Blockchain เข้ามาช่วย และสุดท้ายเราจะได้งบประมาณจัดซื้อจัดจ้างของรัฐกลับมาพัฒนาประเทศไม่ต่ำกว่าสองแสนล้านบาท และเชื่อว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ผู้นำที่ใจซื่อมือสะอาดจะนำทัพทำสงครามปราบคอร์รัปชันได้สำเร็จ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โหวตงบ67วันโลกาวินาศ สะท้อนเสถียรภาพฝ่ายค้าน?

หลังเสร็จสิ้น ภารกิจเดินทางมาราธอน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางเยือนต่างประเทศร่วมเกือบ 2 สัปดาห์ ภารกิจกลับเชียงใหม่ บ้านเกิดในรอบ 17ปี

จ้องงาบ 'เมกะโปรเจกต์' มีหนาว! สตง. เปิดสำนักใหม่สอบโครงการยักษ์

คิดงาบ 'เมกะโปรเจกต์' หนาวแน่! 'สตง.' ติดเขี้ยวเล็บ เปิดสำนักตรวจสอบโครงการขนาดใหญ่ ประเดิมรถไฟฟ้าสายสีส้ม-ดิจิทัลวอลเล็ต

เริ่มแล้ว นวัตกรรม “ปราบโกง” งานวิจัย พระปกเกล้า สู่ ป.ป.ช. ยุคดิจิตอล

สถาบันพระปกเกล้า นำโดย รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ในฐานะหัวหน้าโครงการ ร่วมกับผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

สืบนครบาล รวบบัญชีม้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษมพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., .พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการที่ 3 ดำเนินการจับ

'อธิบดีอัยการคดีพิเศษ' เซ็นตั้ง 6 อรหันต์ เร่งคดี 'หุ้นสตาร์ค' ทัน 12 ม.ค.

'วิรุฬห์' อธิบดีอัยการคดีพิเศษ เซ็นตั้ง 6 อรหันต์ พิจารณาคดีหุ้นสตาร์ค เผยคัดมือดีเชี่ยวชาญคดีหุ้น-ฟอกเงิน สั่งรายงานผลคืบหน้าคดีทุกระยะ เร่งพิจารณาทัน 12 ม.ค.