'ธรรมนัส' ขยี้เงินดิจิทัล 1 หมื่น นโยบายพลังประชารัฐจับต้องได้ไม่ใช่ความฝัน   

แฟ้มภาพ

“ธรรมนัส”  ชี้ปมเงินดิจิทัล 1 หมื่น  กระทบคนชาติพันธุ์ที่ราบสูง เชื่อปชช.คิดเองเลือกพรรคพึ่งได้ ทำได้-ไม่ได้ ดูหลังลต. ย้ำนโยบายพปชร.ไม่ขายฝัน

9 เม.ย.2566 – ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนโยบายเงินดิจิทัลวอลเลต ให้อายุ 16 ปีขึ้นไปคนละ 1 หมื่นบาท ของพรรคเพื่อไทยว่า จริงแล้วทุกพรรคพยายามนำเสนอนโยบายของตัวเอง ล้วนแต่เอาใจพี่น้องประชาชน แต่ว่าสิ่งสำคัญที่สุดหลังจากการเลือกตั้งแล้ว ทำได้หรือทำไม่ได้ ตนเองคิดว่าพี่น้องประชาชนคิดได้

เมื่อถามว่า ส่วนของพรรคพลังประชารัฐคิดว่ามีนโยบายอะไรที่จะดึงเสียงของประชาชนได้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐมีผลงานชัดเจนอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของบัตรประชารัฐหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งตอบโจทย์มากที่สุดสำหรับพี่น้องกลุ่มเปราะบางเป็นผู้มีรายได้น้อย และอย่างที่เรากำลังทำทั้งการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส และหลายๆเรื่อง อย่างไฟฟ้าที่แพง จะแก้กันอย่างไร ซึ่งเรามีนโยบายตรงนั้น เรามีความมั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้ของเราจับต้องได้ ไม่ใช่ความฝัน

เมื่อถามว่า หลายคนวิจารณ์เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท อาจจะยังเชื่อถือไม่ได้มากนัก ส่วนตัวมองเรื่องนี้อย่างไร ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเองก็ฟังนักวิชาการ และหลายๆท่านที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ตนเองก็พยายามเก็บข้อมูลว่าเป็นอย่างไร เพราะพี่น้องประชาชนถามมา แต่ว่าปัญหาของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะชาติพันธุ์ที่อยู่ตามที่ราบสูง มีปัญหารัศมีห่าง 4 กิโลเมตรจะไปใช้ที่ไหน

เมื่อถามว่า การที่หลายพรรคออกนโยบายประชานิยมที่ออกมาเช่นนี้ จะเป็นการกดดันว่าพรรคต้องพยายามหานโยบายเพื่อมาดึงดูดใจประชาชนให้ได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส  กล่าวว่า ธรรมชาติของพรรคการเมืองและนักการเมือง ก่อนเลือกตั้งชอบทำกันอย่างนี้ แต่พอหลังเลือกตั้งไม่ได้สนใจเรื่องพี่น้องประชาชนจริงจัง ตนเองขออนุญาตพูด เพราะตนเองลงพื้นที่มามากกว่ารัฐมนตรีคนอื่นๆในรัฐบาลที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า จุดแข็งของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะเอามาเป็นจุดขายพรรคพลังประชารัฐคืออะไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเองว่าเอาเรื่องที่ใกล้ตัวพี่น้องประชาชนฐานราก อย่าลืมว่าประเทศไทยคงสร้าง 70% คือคนฐานรากเราแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนให้มีความเข้มแข็ง และประเด็นสำคัญจุดขายของเราคือ เราไม่ทะเลาะกับใคร สังคมไทยบอบช้ำเพราะความขัดแย้งทะเลาะกันแบ่งเป็นพรรคเป็นพวกมันไม่เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่กับนโยบายแจกเงินก้อนใหญ่ๆแบบนี้ ซึ่งเคยชนะเลือกตั้งมาแล้วในสมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนเองว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากเป็นบัตร 2 ใบ ประชาชนเขารู้ว่าอดีตส.ส.หรือว่าที่ส.ส.ในอนาคตของเขาใครใส่ใจเขามากกว่าถือเป็นสาระสำคัญ นโยบายของแต่ละพรรคก็สำคัญ ท้ายสุดประชาชนจะเลือกคนที่เขาเข้าใจว่าเขาพึ่งได้ เมื่อถามว่า หวั่นหรือไม่หลังเลือกตั้งจะมีเกมนอกกติกาขึ้นมา ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์

ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงภาพรวมกระแสพรรคพลังประชารัฐว่า ตนเองได้เดินทางไปปราศรัยเกือบทุกจังหวัด อย่าง 2-3 วันที่ผ่านมา หาเสียงที่จ.ลำปาง แพร่ ไปปราศรัยที่จ.สุโขทัยมีพี่น้องประชาชนมาฟังการปราศรัยเยอะมาก และไปที่จ.ตาก มีความมั่นใจพื้นที่ที่ตนกำกับดูแลอยู่ โดยเฉพาะพื้นที่เก่าพรรคเศรษฐกิจไทย มีความมั่นใจว่าทุกคนจะกลับมาในสภา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

ส่ง C130 บิน 5 เที่ยว/วันขนสิ่งของจำเป็นช่วยน้ำท่วมใต้

'ภราดร' เผยจัด C130 วัน 5 เที่ยวบินวัน ขนสิ่งของจำเป็นช่วยน้ำท่วมใต้ 'ผบ.ทสส.' แบ่งโซนรับผิดชอบช่วยคนหาดใหญ่ แจง 'ธรรมนัส-พล.อ.อุกฤษฎ์' ไม่ทับไลน์ทำงาน วอนอย่าดึงเป็นการเมือง

นายกฯ สั่งตั้งศูนย์ ศนภ. จัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติ 'ธรรมนัส' นั่ง ผอ.

นายกฯ สั่งตั้งศูนย์ ศนภ. จัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติ ‘ธรรมนัส’ นั่งผอ. พร้อมสั่งการศูนย์ส่วนหน้าสงขลาบัญชาการ รับมือวิกฤตน้ำ 5 จังหวัดภาคใต้ กำชับเร่งช่วยประชาชน พร้อมให้ระดมคน -เครื่องมือ เข้าพื้นที่เพิ่มเติม

‘สุรเดช’ ชงใช้แรงงานกลุ่มชาติพันธุ์แทนกัมพูชา

‘สุรเดช’เตรียมเสนอ ‘รมว.ตรีนุช’ ใช้แรงงาน ‘กลุ่มชาติพันธุ์’ 2 แสนกว่าคน เผยนำร่องที่เชียงรายแล้ว 700 กว่าคน ทดแทนแรงงานกัมพูชา ชี้รวมกับแรงงานจากศูนย์พักพิง 4 หมื่นคน เชื่อช่วยบรรเทาปัญหาขาดแคลนแรงงานได้

'รังสิมันต์' ตามขยี้ 'ธรรมนัส' บอกไม่ใช่จบแค่ 'ชนนพัฒฐ์'

'โรม' ลั่นวันนี้ต้องไม่ใช่แค่ 'ชนนพัฒฐ์' แต่ต้อง 'ธรรมนัส' ย้อนถามปลดคนนี้แล้วประเทศเสียอะไร หวั่นช่วงเลือกตั้งใช้ทุนเทามหาศาล สุดท้ายทุนเทาก็เข้ามามีอำนาจรัฐ แล้วอย่างนี้ 'อนุทิน' จะมาเป็นนายกฯทำไม