'ศรีสุวรรณ' จี้ กกต.เร่งวินิจฉัยเงินดิจิทัลเพื่อไทยขัดกฎหมายเงินตราหรือไม่ หลังเด็ก พท.ออกมาปูดเองเป็นเหรียญที่ใช้และเงินบาทได้ ชี้อาจซ้ำรอบยเบี้ยกุดชุมเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว
12 เม.ย.2566 - นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องเพื่อชี้เบาะแสให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ดำเนินการสอบสวน ไต่สวน และวินิจฉัยเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ใช้เป็นนโยบายหาเสียงโดยมีกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่าไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี่ แต่เป็นเหรียญ (คูปอง) นั้นขัดต่อพระราชบัญญัติเงินตราหรือไม่
นายศรีสุวรรณระบุว่า การที่นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และกรรมการเลขานุการ โฆษกคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทยชี้แจงเพิ่มเติม 10 ประเด็นเกี่ยวกับ กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2566 โดยยอมรับว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี่ ไม่ใช่เงินสกุลใหม่ แต่เป็นเหรียญ (คูปอง) หรือสิทธิ์การใช้เงิน ที่ใช้ Blockchain เขียนเงื่อนไขลงไปในนั้น เพื่อนโยบายการคลังที่ตรงจุด สามารถเอามาแลกเป็นเงินบาทได้ทุกเมื่อนั้น
กระเป๋าเงินดิจิทัลดังกล่าว เมื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งว่าไม่ใช่คริปโตเคอเรนซี่ (Cryptocurrency) เป็นเพียงเหรียญ (คูปอง) ที่สามารถเอามาแลกเป็นเงินบาทได้นั้น อาจถือได้ว่าพรรคเพื่อไทยกำลังสร้างเงินตราในรูปแบบใหม่ขึ้นมาใช้ จึงอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.เงินตรา พ.ศ.2501 และที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยตรง จึงไม่ต่างอะไรกับเบี้ยกุดชุม ของชุมชนตำบลนาโส่ อ.กุดชุม จ.ยโสธร ที่โด่งดังเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย และหรือกระทรวงการคลังได้ออกมาชี้แล้วในขณะนั้นว่าเป็นการใช้และกำหนดเงินตราที่ผิดกฎหมาย
“เมื่อพรรคการเมืองกำหนดนโยบายที่อาจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย จึงเป็นหน้าที่ของ กกต./นายทะเบียนพรรคการเมือง ที่จะต้องสั่งให้ระงับยับยั้ง โดยดำเนินการบังคับใช้ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 โดยเคร่งครัด โดยที่ กกต.ต้องวินิจฉัยให้เป็นข้อยุติว่าเงินดิจิทัลในรูปเหรียญ (คูปอง) ที่พรรคเพื่อไทยใช้เป็นนโยบายหาเสียงแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตคนละ 10,000 บาทให้กับคนไทยทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปนั้น ถือได้ว่าเป็นวัตถุหรือเครื่องหมายใดๆ แทนเงินตรา ตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติเงินตรา 2501 หรือไม่”
นายศรีสุวรรณระบุต่อว่า หาก กกต.วินิจฉัยว่าเข้าข่าย พรรคเพื่อไทยก็จะต้องระงับการใช้นโยบายดังกล่าวโดยทันที และอาจมีความผิดตามมาตรา 73(5) แห่ง พรป.เลือกตั้ง ส.ส.2561 ฐานหลอกลวง หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง กรรมการบริหารพรรคอาจต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาทถึง 2 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกําหนด 20 ปีอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ
เพื่อไทยกระอัก! 'อนุทิน' ย้อนเจ็บ มีภาพคู่ทักษิณเยอะ ไม่เห็นมีปัญหา
"อนุทิน" เหน็บ "สุริยะ-โฆษกเพื่อไทย" ไม่รู้เรื่องอะไรเพราะไม่ได้ร่วมวง การสนทนาสำหรับผมต้องระดับสูงขึ้นไป ย้อนเจ็บภาพถ่ายคู่ทักษิณก็มีตั้งเยอะ ไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย
โฆษกภูมิใจไทย โต้เดือด โทรโข่งเพื่อไทยแกล้งตาบอด ไม่เห็นภาพทักษิณกับเบน สมิธ
โฆษกภูมิใจไทย สวนโฆษกเพื่อไทย อย่าแกล้งตาบอด ปีนี้ใครถ่ายรูปกับ "เบน สมิธ" ยัน "อนุทิน" แค่รู้จักแต่ไม่สนิท ผลงานประจักษ์ยึดทรัพย์หมื่นล้านสแกมเมอร์รายใหญ่ บีบพ้น มท.1 เหตุไม่ให้สัญชาติใครหรือไม่ เย้ย 4 เดือนใครบริหารน้ำท่วมเหลว ขณะที่ "2 เดือน" นายกฯอนุทิน" เข้ามาแก้วิกฤติ
เพื่อไทย เปิดตัว 'อดีตปลัด ก.เกษตร' ลงสนามชนบ้านใหญ่ 'ศิลปอาชา'
พท.เปิดตัว “ประยูร อินสกุล” อดีตปลัด ก.เกษตรฯ ลงสนามชนบ้านใหญ่ “ศิลปอาชา” ไม่ฟันจะปักธงเมืองสุพรรณได้หรือไม่ ชี้ขึ้นกับ ปชช. อ้อนกาเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค
ไม่พลาด! 'ศรีสุวรรณ' ร้อง ป.ป.ช.สอบนักการเมือง-นักธุรกิจถ่ายภาพร่วม 'เบน สมิธ'
'ศรีสุวรรณ' ร้อง ป.ป.ช.สอบนักการเมือง-นักธุรกิจถ่ายภาพร่วมกับเบน สมิธ เข้าข่ายผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
'เทพไท' ชี้ 5 ปัจจัยทำเพื่อไทยยึกยักสางแค้นซักฟอกรัฐบาล
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหา


