‘หญิงหน่อย’ ประกาศล่าชื่อ ปชช. ยื่นศาลสอบสัมปทานสร้างโรงไฟฟ้า

‘สุดารัตน์’ ประกาศขอเอาชีวิต ปกป้องผลประโยชน์ประชาชน แม้จะถูกข่มขู่ ถูกฟ้องร้อง หรือถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง จากการตรวจสอบสัญญาทาส กรณีการอนุมัติให้สร้างโรงไฟฟ้ามากเกินความจำเป็น การันตีภายในสัปดาห์หน้า เรื่องถึง ศาลอาญาทุจริตฯแน่ 

23 เม.ย.2566-คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมนายการุณ โหสกุล ผู้สมัคร ส.ส.เขตดอนเมือง พรรค ทสท. ลงพื้นที่ตลาดโกสุมรวมใจ และชุมชนดาวทอง เพื่อพบประชาชนและพ่อค้าแม่ขาย  โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เพราะเป็นพื้นที่ที่คุณหญิงสุดารัตน์ได้มาพบประชาชนและพ่อค้าแม่ขายอยู่บ่อยครั้ง ระหว่างการเดินขอคะแนนเสียงสนับสนุนนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ได้รับของกิน ของฝากจากพ่อค้าแม่ขาย เช่น ขนมจีนน้ำยา สลัดผัก และข้าวแกงจากแม่ค้าหลายถุง

จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ ขึ้นเวทีปราศรัยประกาศขอเอาชีวิตปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน แม้จะถูกข่มขู่ ขู่ฟ้องดำเนินคดี หรือถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง จากการตรวจสอบสัญญาที่เสียเปรียบ เพิ่มภาระให้ประชาชน กรณีการอนุมัติให้สร้างโรงไฟฟ้ามากเกินความจำเป็นถึงเกือบ  60% โดยประชาชนต้อง เป็นผู้จ่ายค่าไฟส่วนเกิน ที่โรงไฟฟ้าไม่ต้องผลิตแม้แต่เมกะวัตต์เดียว เปรียบเสมือนสัญญาทาส ที่ปล้นประชาชน

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า มี 3 ขั้นตอน ในการปรับโครงสร้างพลังงานลดค่าไฟฟ้าให้เป็นธรรมไม่เกิน 3.50 บาท/หน่วย จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันลงชื่อ เพื่อฟ้องหน่วยงานรัฐต่อศาลอาญา ทุจริตและประพฤติมิชอบกลางภายในสัปดาห์หน้า 3 ส่วน

ดังนี้ 1. สร้างความเสียหายจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด ด้วยการให้เอกชนทำสัญญาสัมปทาน ผลิตไฟฟ้ามากเกินความจำเป็นเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงกว่าที่ควรเป็น 2. การจัดสรรก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยซึ่งมีต้นทุนถูก ไปให้กับเอกชนไปใช้ในการผลิตสินค้าอื่น ส่งผลให้ต้องนำเข้า LNG จากต่างประเทศทดแทน ทำให้ต้นทุนการผลิตแพงกว่าถึง 5เท่า อันเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าไฟแพง ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 43 และมาตรา 57

และ 3. ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครอง ในส่วนข้อตกลงกับเอกชน ในการสร้างโรงไฟฟ้าที่ยังไม่จำเป็น (ดีมานด์ทิพย์) ให้พักการดำเนินการไว้ก่อน จนกว่าประเทศจะมีความต้องการจริง ในการใช้พลังงานเพิ่มเติม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โปรดเกล้าฯ ให้ผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัวพ้นจากตำแหน่ง 10 ราย

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง ให้ผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบครัวพ้นจากตำแหน่ง

หลานอดีตนายกฯ ชงตัดงบรถประจำตำแหน่ง-บ้านพักศาล ชี้ตุลาการควรลำบากไปพร้อมประชาชน

ที่ประชุมสภาฯพิจารณามาตรา 31 งบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานของศาล จำนวน 7,961,884,300 บาท น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม.

ศาลยกคำร้องประกัน 'ตะวัน-แฟรงค์' หลังทิชาขอความกล้าหาญ ชักฟืนออกจากกองไฟ

ศาลอาญายังยกคำร้องประกัน-ค้านฝากขังตะวัน – แฟรงค์ หลัง ‘ทิชา-พ่อตะวัน’ร้องขอศาลไม่รับฝากขัง-ปล่อยตัว วอนขอให้ชักฟืนจากกองไฟก่อนสูญเสียกว่านี้

จับตาก้าวไกลชก(ไม่)เต็มหมัด ชำแหละรบ.เศรษฐาผ่านศึกซักฟอก

ในที่สุด พรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม พรรคครูไทยเพื่อประชาชน และพรรคใหม่ ได้หารือเห็นพ้องร่วมกันสัปดาห์หน้า จะยื่นญัตติต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152