'ชำนาญ' เตือนก้าวไกลอย่าเหลิงช่วงโค้งสุดท้ายโว 'มีเราไม่มีลุง' ทำคนเทมา ก.ก.เพียบ!

เตือนก้าวไกลโค้งสุดท้าย ระวังอย่าพลาด เชื่อหากไม่สะดุดขั้นต่ำ 81 ที่นั่ง ชี้หลังเลือกตั้งอาจยื้อเลือกนายกฯ จนเกิดเดดล็อก!

26 เม.ย.2566 - นายชำนาญ จันทร์เรือง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แกนนำคณะก้าวหน้ากล่าววิเคราะห์ถึงกระแสพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่โพลหลายสำนักบอกว่าแรงขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนี้ว่า การเลือกตั้งรอบนี้ปี 2566 กับการเลือกตั้งปี 2562 ที่เป็นยุคพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) มีความแตกต่างกัน เพราะการเลือกตั้งปี 2562 ใช้บัตรใบเดียวมีการนำทุกคะแนนมานับรวมหมด ไม่ว่าผู้สมัครจะได้คะแนนมาอันดับที่เท่าใด ก็นำทุกคะแนนมารวมนับหมด แต่สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ (บัตรสองใบ) ซึ่งหากพรรคการเมืองใดได้คะแนนเท่าเดิมจากตอนปี 2562 ก็จะทำให้พรรคการเมืองได้ ส.ส.ลดน้อยลงจากตอนปี 2562 และด้วยระบบการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ จากเดิม 150 คนเหลือแค่ 100 คน ก็มีผลทำให้หากพรรคการเมือง หากอยากได้ ส.ส.เท่าเดิม ก็ต้องมีคะแนนนิยมมากกว่าเดิมตอนปี 2562 ซึ่งตอนยุคพรรค อนค.พบว่าการเลือกตั้งปี 2562 คะแนนนิยมที่สำรวจกันช่วงนั้น อยู่ที่ประมาณแค่ 16-17% แต่ปัจจุบันพบว่า พรรค ก.ก.เรตติ้งคะแนนนิยมมาที่ 21% แล้ว และมีแนวโน้มขึ้นมาเรื่อยๆ

นายชำนาญระบุว่า หากไม่มีอะไรสะดุดหกล้มเสียก่อน หรือไม่มีอะไรขึ้นมาแซง ก็น่าจะทำให้ พรรค ก.ก.ได้ ส.ส.ไม่น้อยกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 อย่าง ส.ส.ระบบเขต รอบนี้พรรค ก.ก.คงได้มากกว่าเดิม จากที่เคยได้ ส.ส.เขตรวมกันทั้งหมดทั่วประเทศ 30 คน อย่างภาคอีสานครั้งที่แล้ว ตอนยุค อนค.ได้ ส.ส.เขต แค่คนเดียว ส่วนภาคใต้ไม่ได้เลย ขณะที่ภาคเหนือก็ได้ประมาณ 3 คนเท่านั้น

“กระแสพรรคก้าวไกลขึ้นมาเยอะอย่างที่เชียงใหม่ที่ผมอยู่ ตอนเลือกตั้งใหญ่ปี 2562 ตอนนั้นอนาคตใหม่ไม่ได้เลยสักคน มาได้ตอนเลือกตั้งซ่อมที่ กกต.แจกใบส้ม แล้วคนของอนาคตใหม่ที่ลงชนะ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ ตอนนี้กระแสของผู้สมัครก้าวไกลในเชียงใหม่ บางเขตเช่นเขต 1 อำเภอเมือง กระแสของก้าวไกลนำเพื่อไทย เยอะ และยังมีเขต 2 และ เขต 5 เป็นต้น พรรคก้าวไกลมีโอกาสชนะอยู่ร่วม 3-4 เขตในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนจังหวัดอื่นก็เช่นกัน ส่วนกรุงเทพมหานคร ก้าวไกลน่าจะได้ ส.ส.เขตเยอะกว่าเดิม จากที่เคยได้ตอนปี 2562 ที่ได้มา 9 ที่นั่ง”แกนนำคณะก้าวหน้ากล่าว

นายชำนาญ กล่าวต่อไปว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะอย่างตอนเลือกตั้งปี 2562 ตอนนั้นที่พื้นที่ กทม. บางพรรคเช่น พรรคพลังประชารัฐเองดูโพลไหนก็ไม่มีว่าจะได้ และที่อยากเน้นก็คือ โพลของก้าวไกล กับโพลของอนาคตใหม่ที่ทำกันก็วัดยาก เพราะเขาไม่มีหัวคะแนน เพราะโพลที่เขาไปทำกันก็จะมีการถามหัวคะแนน ถามกำนันผู้ใหญ่บ้าน แต่สำหรับก้าวไกลไม่รู้จะไปถามใคร เพราะของก้าวไกลเป็นหัวคะแนนธรรมชาติ มันก็ดูยาก วัดยาก คือไม่มากไปเลย ก็น้อยไปเลย มีสองอย่าง เราก็ไม่ได้มองโลกแง่เดียวตลอด

ถามถึงในช่วงไม่ถึงสามสัปดาห์ต่อจกานี้ จะมีจุดพลิกหรือจุดเปลี่ยนที่จะทำให้พรรค ก.ก.ได้คะแนนนิยมมากขึ้นหรือลดลงจากอะไรได้บ้าง นายชำนาญระบุว่า พรรค ก.ก.ต้องคอยระวังว่าอย่าพลาด พวกประเด็นแหลมๆ คมๆ อย่าไปพูดพลั้ง หรืออย่าไปแหลมเกิน เพราะบางทีก็อาจมีไม้เด็ดของใครมาเปิดตอนช่วงท้ายๆ ก็อาจจะมี แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ มันมีสองขั้ว คือขั้วรัฐบาลกับขั้วพรรคการเมืองฝ่ายค้านเดิม แต่ว่าในลักษณะของการแข่งขันของก้าวไกล แน่นอนว่า คู่แข่งขันจริงๆ แต่ไม่ใช่ศัตรูคือเพื่อไทย ก็มีคนเปรียบเทียบแล้วว่าหากเป็นไก่ชน เพื่อไทยก็เป็นไก่ที่เจนสังเวียน ก้าวไกลก็เป็นไก่หนุ่มที่ชนลูกเดียว ซึ่งก็ต้องแล้วแต่คนชอบ การที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกว่ามีเราไม่มีลุง เป็นจุดสำคัญ มันเป็นจุดขาย พูดตรงๆ คนรุ่นใหม่ และรวมถึงคนที่เขาผิดหวัง คือในส่วนของฝ่ายลุง คนที่ชอบเขาก็มีไม่ใช่ว่ามีแต่คนไม่ชอบ แฟนประจำเขาก็มีอยู่ แต่คนกลางๆ ที่เป็นกลุ่มใหม่ๆ แล้วเขาเบื่อ เขาก็จะมาที่ทางก้าวไกลจะมีแบบนี้เยอะ

นายชำนาญวิเคราะห์ว่า ผลการเลือกตั้งที่จะออกมา ขั้วพรรคการเมืองฝ่ายค้านเดิม จะได้ส.ส.หลังเลือกตั้งรวมกันแล้วเกิน 300 เสียง แต่อาจไม่ถึง 376 เสียง มองไว้เลยในฐานะนักวิชาการว่ามันจะเกิดสภาวะเดดล็อก คือพรรคขั้วฝ่ายค้านได้เสียงข้างมากในสภาก็จริง แต่จะไม่ได้เสียงข้างมากในรัฐสภา ที่เอาเสียงสองสภาคือสภาผู้แทนราษฎรกับวุฒิสภารวมกัน ซึ่งการโหวตเห็นชอบเลือกนายกรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญบัญญัติว่าต้องได้เสียงเห็นชอบมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา คือ 376 เสียง ที่ต้องโหวตเห็นชอบ เพราะฉะนั้น ส.ว.ก็อาจจะมีลูกเล่นของเขา เพราะเมื่อทั้ง 2 ลุงไม่ได้เข้าไป เขาก็อาจไม่โหวต เช่นถึงมาร่วมลงชื่อเข้าประชุม แต่ตอนโหวต เขาอาจไม่ลงคะแนน ใช้วิธีงดออกเสียง หรืออาจโหวตไม่เห็นด้วยเลยกับชื่อที่เสนอมา ตรงนี้ก็เป็นเรื่องของสภาจะตกลงกันได้ไหม เพราะเงื่อนไขตอนนี้มันเยอะเหลือเกิน เช่นไม่เอาพรรคร่วมรัฐบาล อะไรต่างๆ อ้าวแล้วประชาธิปัตย์จะไปอยู่ตรงไหน อะไรแบบนี้ มันก็อาจทำให้รวมเสียงกันของสภาแล้วไม่ถึง 376 เสียง

แกนนำคณะก้าวหน้ากล่าวต่อไปว่า มองเห็นภาวะความยุ่งยากรออยู่ คือยังไง อดีตพรรคฝ่ายค้านเดิม ชนะแน่ แต่รวมเสียงแล้ว จะไม่ถึง 376 เสียง ซึ่งการโหวตเลือกนายกฯ มันไม่จำเป็นว่าจะต้องมีแค่สองคนเสนอชื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตเท่านั้น จะกี่คนก็ได้ เพราะพรรคการเมืองไหนที่มี ส.ส.เกิน 25 คน ก็มีสิทธิ์เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคที่ประกาศตอนหาเสียง เขาก็เสนอให้ที่ประชุมโหวตได้หมด แบบนี้หากเสนอชื่อกันมาเช่นเสนอมาสามคนให้ที่ประชุมโหวต แบบนี้เสียงก็อาจแตกได้ เช่น พรรคภูมิใจไทยก็อาจเสนอชื่ออนุทิน ชาญวีรกูล ก็ได้ ส่วนสองลุงก็อาจเสนอใครคนใดคนหนึ่งมาก็ยังได้อีก ตัวนี้จะเป็นตัวที่มาตัดกำลังกัน เพราะรัฐบาลจะมาทีหลัง ต้องได้นายกฯ ก่อน ถึงจะไปฟอร์มรัฐบาล

“เดดล็อกที่ผมกังวลคือจะตั้งนายกฯ ไม่ได้ พอตั้งนายกฯ ไม่ได้ ก็จะยื้อกันเหมือนในบางประเทศก่อนหน้านี้ยื้อกันเป็นปี ส่วนหากใครคิดจะไปใช้นายกฯ คนนอกเข้ามา ก็น่าจะยากอีก เพราะต้องใช้เสียงสมาชิกรัฐสภา 2 ใน 3 ที่ก็ร่วมห้าร้อยเสียง ที่ยังไงก็ไม่ถึงอยู่แล้ว พอตั้งไม่ได้นานเข้า มันก็ต้องยุบสภา ซึ่งนายกฯรักษาการยังมีอำนาจยุบสภา ถ้าไปต่อไม่ได้ก็ต้องยุบสภา ส่วนเรื่องรัฐประหาร คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ หากทำจะยิ่งพัง”นายชำนาญระบุ

ถามย้ำว่า จากที่เคยอยู่พรรคอนาคตใหม่ เคยมีงูเห่าสีส้ม แล้วรอบนี้ คิดว่า ก้าวไกลจะมีงูเห่าหรือไม่ นายชำนาญ กล่าวว่า พูดตรงๆ เลยนะ เงินทองมันไม่เข้าใครออกใคร แต่กระบวนการกลั่นกรองคัดเลือก คนลงสมัครรับเลือกตั้ง รอบนี้ ดีกว่าคราวที่แล้ว แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่า จะมีหรือไม่มี เงินทอง 30 ล้าน 40 ล้าน 50 ล้าน บางคนเกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยเจอ ก็กะว่าขอเป็นครั้งเดียวก็จบเลย ก็เหมือนกับรัฐประหาร ก็ไม่สามารถจะพูดยืนยันว่าจะมีอีกหรือไม่ ผมก็เชื่อว่าก็อาจเกิดขึ้นได้ ใช้คำว่า อาจเกิดขึ้นได้ แต่โอกาสจะน้อยกว่าเดิม เพราะก่อนจะยุบพรรคอนาคตใหม่ มีแบบนั้น 4 คน แต่พอยุบพรรคอนาคตใหม่แล้ว คนที่ออกไป เขาบอกว่าเขาไม่ใช่งูเห่า เพราะพรรคยุบแล้วเขาจะไปไหนก็ได้ แต่เราไปเรียกว่าเขาเป็นงูเห่า แต่คราวนี้หากเลือกตั้งใหม่ขึ้นมา แล้วมีการไปซื้อเขา มันก็เป็นเอกสิทธิ์เขาอีก เกิดปลดเขาออก เขาก็ไปอยู่พรรคใหม่อีก

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ชัยธวัช'ลุ้นศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาสู้คดียุบพรรคเพิ่มอีกรอบ!

'ชัยธวัช' ลุ้นศาล รธน.ขยายเวลาสู้คดียุบพรรค มองเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงต้องหาพยาน-หลักฐาน สู้อย่างเต็มที่ เชื่อปรากฎการณ์งูเห่าน้อยกว่า 'อนาคตใหม่' เหตุสถานการณ์ต่างกัน

'ก้าวไกล' หนุนแก้กฎหมายสกัดรัฐประหาร ลั่นกองทัพต้องอยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม มีข้อเสนอให้สภากลาโหมเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…)

ซูเปอร์โพลตอกย้ำ คะแนนนิยม ‘ก้าวไกล’ เหนือกว่า ‘เพื่อไทย’ 1 เท่าตัว

พรรคก้าวไกลมีคะแนนสูงกว่าเพื่อไทยอยู่ประมาณหนึ่งเท่าตัว แต่พรรคก้าวไกลก็ยังจะไม่มีคะแนนนิยมมากพอที่จะชนะการเลือกตั้งจนตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ถ้ายังทำงานการเมืองแบบนี้ต่อไป

'ดร.อานนท์' ชงสูตรการเมืองทำลาย 'ก้าวไกล-ธนาธร' เชื่อยอมเจ็บเถิด จะได้จบ

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ (NIDA) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า