'จตุพร' ย้อนเกล็ด 'ทักษิณ' เป็นผู้มีบารมีนอก รธน. ชัดเจน บอกจะเป็นที่ปรึกษาในคุกให้รัฐบาลเพื่อไทย

"จตุพร" มึน "อุ๊งอิ๊ง" บอกทักษิณกลับมาติดคุก แต่ให้คำปรึกษารัฐบาลเพื่อไทย กังขาพูดได้ ทำไม่ได้ ผิดกฎหมาย ย้อนเคยต่อว่า “ผู้มีบารมีนอก รธน.” กลับเป็นเอง ลั่นสั่งการบริหารแผ่นดินในคุก เป็นผู้มีบารมีตัวจริงชัดเจน เชื่อหลัง 14 พ.ค. ผลเลือกตั้งไม่ตรงปก ระบุเกิดขัดแย้งใหญ่

13 พ.ค. 2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "กระดานการเมือง ก่อน-หลังเลือกตั้ง ตอน 2" โดยสงสัยการกลับบ้านของทักษิณ ชินวัตร แล้วมาติดคุก และจะมีบทบาทให้คำปรึกษาด้านเศรษฐกิจกับรัฐบาลเพื่อไทยจากในคุก จะทำได้ด้วยหรือ? คนคุกมีอำนาจสั่งการรัฐบาลได้หรือ? เพราะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และรธน.ไม่อนุญาตให้ทำได้

การเคลื่อนไหวของทักษิณ ชินวัตร ผู้มากบารมีและผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ปรากฎขึ้นด้วยข้อความทวีตเตอร์ “ขออนุญาตกลับบ้าน...ก่อนวันเกิด ก.ค...และลงท้ายด้วย “เจ้านายของเรา” เหมือนโพสต์เมื่อ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา

ถัดมาอีก 3 วัน คือ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา บนเวทีปราศรัยใหญ่หาเสียงทิ้งทวนของพรรคเพื่อไทย การเคลื่อนไหวของทักษิณล่าสุดจึงปรากฎ โดยผ่านคำบอกเล่าของลูกสาว อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หนึ่งในสามแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย

อุ๊งอิ๊ง ปราศรัยเมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) ไล่เรียงพรรคเพื่อไทยต่อสู้กับการัฐประหารมาตลอดจนถูกยุบพรรคสองครั้ง แล้วตอนหนึ่งพูดว่า “ทักษิณฝากความมาบอกว่า จะกลับมาติดคุกและจะเป็นที่ปรึกษาในคุกให้รัฐบาลในด้านเศรษฐกิจ

นายจตุพร กล่าวว่า ทักษิณ ปกติเป็นคนไม่ชอบอยู่ว่าง และเท้าชอบแกว่งหาเสี้ยนอยูู่ตลอด ครั้งหนึ่งเมื่อเดือน มิ.ย. 2549 เคยพูดว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี เป็น "ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ” แต่ไม่มีหลักฐานปรากฎชัด

“แต่เมื่อทักษิณว่ากล่าวคนอื่น กลับต้องมาทำเอง เป็นเสียเอง การพูดจะกลับมาติดคุก แล้วเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะให้คำปรึกษารัฐบาลได้ การพูดเช่นนี้แสดงถึงเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจนที่สุด”

นายจตุพร แย้งว่า รธน.ให้คนในคุกมาเป็นที่ปรึกษารัฐบาลได้ด้วยหรือ? และนโยบายของรัฐออกจากคุกไม่ได้ ดังนั้น การพูดแบบนี้เป็นการยอมรับในที่สาธารณะว่า ทักษิณ เข้ามาติดคุกเมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แล้วให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ

“ต่อไปรัฐบาลพรรคเพื่อไทยคงต้องย้ายที่ประชุมกันมาอยู่ในคุก เพื่อจะได้ปรึกษาการบริหารประเทศกับทักษิณ ซึ่งไม่นานก็คงไม่ได้ออกจากคุกเลย” นายจตุพร ประชดประชัน เพราะไม่เชื่อว่าคำพูดของทักษิณที่ฝากผ่านอุ๊งอิ๊งมานั้นจะสามารถทำได้และถูกต้องด้วยกฎหมาย

อีกทั้ง เห็นว่า เมื่อเอาคำที่ทักษิณกล่าวว่าคนอื่นเป็นผู้มีบารมีนอก รธน.ตัวจริง แต่การเอาคำปรึกษามาจากคุก ซึ่งผิดกฎหมายเพราะการบริหารรัฐบาลจะสั่งการจากเรือนจำไม่ได้ ถ้าไม่พูดเลย ก็ไม่มีใครรู้ ซึ่งเรื่องแบบนี้แม้จะทำจริงก็ไม่ควรนำเรื่องจากคุกมาพูดกันโจ่งแจ้ง ถึงกับประกาศต่อสาธารณะจะเข้ามาติดคุกให้เป็นที่ปรึกษารัฐบาล

นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อเอาระเบียบกรมราชทัณฑ์มาพิจารณาแล้ว พบว่าไม่ง่ายเลย เพราะเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินเป็นเรื่องใหญ่มาก ดังนั้น ไม่รู้ทักษิณพูดเพื่ออะไร ความจริงเขาจะไม่พูด ไม่รู้พูดทำไม สะท้อนถึงผู้มีบารมีนอก รธน.ตัวจริง

“การให้คำปรึกษา หรือนำความคิดจากคุกทำไม่ได้ คนติดคุกจะมีอำนาจเหนือรัฐไม่ได้ เรื่องในคุก แม้เป็นเรื่องง่าย ๆ ของคนข้างนอกคุก แต่เป็นเรื่องยากที่สุดในคุก การพูดให้มวลชนฟังมันง่าย รื่นหู ปลุกใจถ้าพูดถึงความจริงแล้ว มันผิดกฎหมาย แล้วรัฐบาลเอาความคิดคนติดคุกมาบริหารประเทศ ในทางลับก็อาจทำได้ แต่ทางสาธารณะทำไม่ได้เลย”

พร้อมระบุว่า สิ่งสำคัญในกรณีของทักษิณกลับบ้านนั้น ควรพิจารณาในสามประเด็นสำคัญก่อน คือ หนึ่งกลับจริงหรือไม่ก่อน สองจะปรึกษาคนติดคุกจะทำได้หรือไม่ ต้องถามเรือนจำก่อน และสามดูกฎหมายคนต้องคดี จะให้คำปรึกษารัฐบาลทำได้หรือไม่ หากตัดสินใจทำเลยอาจยิ่งจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมา

ส่วนวันที่ 14 พ.ค.นี้ เป็นวันเลือกตั้ง นายจตุพร กล่าวว่า ประชาชนจะเลือกใคร และเชื่อในสิ่งไหนก็เลือกแบบนั้น อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ หากคิดกันง่ายๆ แล้ว คือการเลือกเพื่อประเทศไทย ดังนั้น จึงต้องทำให้ใจบริสุทธิ์ เพื่อประเทศจะได้เป็นอย่างที่ต้องการให้เป็นจริงได้

อย่างไรก็ตาม ทันที่ที่รู้ผลเลือกตั้ง ประชาชนจะมองเห็นยกแรกการเมืองได้ชัดเจนขึ้น โดยมีเลือกตั้งปี 2562 เป็นกรณีศึกษา ครั้งนั้นพรรคเพื่อไทยได้เสียงมากที่สุดแบบก่ำกึ่ง แต่เมื่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นับคะแนนปัดเศษแล้ว เสียงก็ปริ่มเปลี่ยนทันที่ จากนั้นตามมาเรื่องการยุบพรรคกระจัดกระจาย ส.ส.

“ด้วยเหตุนี้ ในทางการเมืองเมื่อเห็นครั้งแรก (ผลเลือกตั้ง) อย่านึกว่ามันตรงปก เพราะหลังจากนั้น ปกก็จะเปลี่ยนไป” นายจตุพร อธิบายการเมืองหลังเลือกตั้งนับตั้งแต่รู้ผลไม่เป็นทางการ

นายจตุพร เชิ่อว่า สถานการณ์ถัดจากนี้ไปสิ่งที่น่าห่วงคือ การขัดแย้งใหญ่ และการแทรกแซงจากต่างชาติที่จะอยู่ช่วงใกล้เลือกตั้ง ซึ่งท้ายสุดจะรู้ว่า ประเทศกำลังสู้อยู่กับอะไร แต่กระบวนการแทรกแซงประเทศจะยิ่งชัดเจนเมื่อหลังเลือกตั้งแล้ว โดยภูมิรัฐศาสตร์กระดานโลกอาจจะเกิดสงครามตูมตามขึ้นมาก็ได้

อย่างไรก็ตาม เห็นว่า ถัดจากเลือกตั้งแล้ว ภายในประมาณ 2 เดือนที่อยู่ระหว่างการรับรองผลเลือกตั้งนั้น อาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ ทั้งการแจกใบเหลือง แดง ส้ม หรือดำ และก่อนเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรต้องจับตากระบวนการยุบพรรค แล้วยังต้องคอยดูชะตากรรมของ กกต.ด้วยเหมือนกัน ดังนั้น ครั้งนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้หมด

นายจตุพร ย้ำว่า หลังวันที่ 14 พ.ค.ไปแล้ว ประชาชนจะเห็นการเมืองของจริงเกิดขึ้นตามลำดับ ท้ายที่สุดจะไม่เป็นไปตามความเชื่อกับสิ่งที่เกิดปรากฎการณ์ครั้งแรก เพราะจะเกิดเรื่องอีกหลากหลายชนิดจำกันไม่ไหว อีกทั้งรายการประเทศไทยต้องมาก่อนจะจัดกันอีกครั้งในวันจันทร์ 15 พ.ค. ช่วงบ่ายโมง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จตุพร' ฟาดเพื่อไทยคลั่งระเริงอำนาจแทรกแซง ธปท. ท้า กล้าปลดผู้ว่าฯหรือไม่

“จตุพร” ฟาดรัฐบาลเพื่อไทยคลั่งระเริงอำนาจมาก ประชดเห็นผู้ว่าแบงก์ชาติเป็นอุปสรรคแล้วกล้าปลดหรือไม่ ชี้อุ๊งอิ๊งเป็นพันธุ์นักการเมืองหายาก ซัดเพจ “บิ๊กแดง” อย่าเอาแต่โพสต์คำราม ถาม 29 พ.ค.นี้จะเอาไง? จี้คณะดีลปลุกผีทักษิณกลับบ้านมาปู้ยี่ปู้ยำยุติธรรม ปท.ป่นบี้ต้องกล้ารับผิดชอบ เตือนอย่าคิดทำ รปห.เด็ดขาด

‘จตุพร’ ซัดอำนาจเบื้องหลังปรับครม. ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะไปตรวจสุขภาพจิต

‘จตุพร’เย้ยอำนาจเบื้องหลังปรับ ครม.ยังมีจิตปกติหรือไม่ แนะรีบไปตรวจสุขภาพจิต อ้างเขี่ยทิ้งชลน่าน สะท้อนเอาแต่ใจตัวเอง ไม่มีมาตรฐานอารมณ์ ส่วน ‘ปานปรีย์’ลาออก รมต.ต่างประเทศ บอกความนัยคนจริง ยึดหลักการ สั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้

ถามจันทร์ส่องหล้าจะกล้าไหม? มี 3 คน เหมาะนั่ง ‘รมว.ต่างประเทศ’

ทำท่าจะล่มปากอ่าว เสียฤกษ์หมด แต่เมื่อเป็นไปแล้วคือรัฐมนตรีต่างประเทศลาออก หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าตั้งรัฐมนตรีไม่ถึง 24 ชั่วโมง

มึน! 'อุ๊งอิ๊ง' ชวนคนทั้งโลกมาสาดน้ำช่วงสงกรานต์ แต่ตัวเองไปเที่ยวฮ่องกง

'ตู่' มึน 'อุ๊งอิ๊ง' ชวนคนทั้งโลกมาสาดน้ำ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 21 วัน แต่ตัวเองไปเที่ยวฮ่องกง งง ทำไปทำไม ติงควรมีดีเอ็นเอรับผิดชอบ อย่ายึดตัวตน